กรุงเทพฯ--6 มี.ค.--เอ็ม ที มัลติมีเดีย
บมจ.สยามอีสต์ โซลูชั่นหรือ SE ตั้งเป้ารายได้รวมปีนี้เติบโต 11% หลังปีก่อนทำรายได้รวม 434.31 ล้านบาท เติบโตขึ้นเล็กน้อย พร้อมอนุมัติจ่ายเงินปันผล 0.08 บาทต่อหุ้น ด้านผู้บริหารเร่งทำการตลาดเชิงรุกผลักดันยอดขายสินค้าอุตสาหกรรมทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ในปีนี้ พร้อมเตรียมก่อสร้างศูนย์บริการวิศวกรรม (Workshop) ในไตรมาส 2นี้ คาดเปิดให้บริการแก่กลุ่มลูกค้าโรงงานอุตสาหกรรมได้ในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งจะทำให้ SE มีความสามารถให้บริการครบวงจร ทั้งงานขายและงานบริการยิ่งขึ้น โดยหวังเพิ่มรายได้จากกลุ่มงานบริการในปีนี้ประมาณ 40 ล้านบาท หนุนเป้ากำไรปี 60 เติบโต 20%
นางสาวอรสา วิมลเฉลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามอีสต์ โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SE ผู้นำด้านการจัดหาและจำหน่ายพร้อมให้บริการอย่างครบวงจรเกี่ยวกับระบบปั๊ม อุปกรณ์ในกระบวนการผลิตและระบบท่อ รวมถึงวัสดุนวัตกรรมในภาคตะวันออก เปิดเผยว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าผลักดันรายได้รวมในปี 2560 เติบโตมากกว่า 11% หรือมีรายได้ 484 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 434.31 ล้านบาท โดยแผนในปีนี้จะมุ่งเน้นการทำตลาดเชิงรุกเพื่อสร้างการเติบโตจากยอดขายในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีระบบปั๊ม กลุ่มผลิตภัณฑ์การจัดการกระบวนการผลิตและระบบท่อ และกลุ่มผลิตภัณฑ์วัสดุนวัตกรรม โดยจะนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่และการให้บริการพร้อมให้คำปรึกษาแบบครบวงจรอย่างใกล้ชิดภายใต้แนวคิด Industrial Equipment Solution Provider ให้แก่กลุ่มลูกค้าโรงงานอุตสาหกรรมในภาคตะวันออกและพื้นที่อื่นๆ ทั่วประเทศ
ทั้งนี้ หลังจากเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ บริษัทฯ ได้เตรียมลงทุนพัฒนาศูนย์ให้บริการวิศวกรรม (Workshop) ในพื้นที่สำนักงานใหญ่จังหวัดระยอง คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในไตรมาส 2 นี้ และแล้วเสร็จเริ่มเปิดให้บริการได้ในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้จากกลุ่มงานบริการให้แก่บริษัทฯ เช่น งานบริการซ่อมบำรุงระบบปั๊ม งานบริการเคลือบพื้นผิวเครื่องจักร อุปกรณ์ระบบท่อ งานออกแบบและตัดเย็บฉนวนหุ้มเครื่องจักรและอุปกรณ์ให้แก่โรงงานอุตสาหกรรม ฯลฯ โดยตั้งเป้ารายได้จากกลุ่มงานบริการในปีนี้ประมาณ 40ล้านบาท หรือประมาณกว่า 8% ของเป้าหมายรายได้รวมในปี 2560 และช่วยเพิ่มความสามารถในการทำกำไรจากงานบริการ หนุนกำไรเติบโต 20% ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดจากปีที่ผ่านมาและเติบโตขยายตัวต่อเนื่องในอนาคต
"เรามองว่าภาพรวมเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมการผลิตในปีนี้มีแนวโน้มที่ดีขึ้น เนื่องจากรัฐบาลได้เดินหน้าผลักดันโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกหรือ EEC ครอบคลุมพื้นที่ในจังหวัดชลบุรี ระยองและฉะเชิงเทรา เพื่อสร้างเมืองอุตสาหกรรมและส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมขั้นสูงในพื้นที่ ซึ่งจะส่งผลให้พื้นที่ดังกล่าวกลายเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญของภาคอุตสาหกรรมในภูมิภาคอาเซียน และช่วยสร้างความเชื่อมั่นในภาคการลงทุนและความต้องการใช้วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อการก่อสร้างโรงงานและปรับปรุงประสิทธิภาพเครื่องจักรเพิ่มขึ้นตามไปด้วย" นางสาวอรสา กล่าว
นายแสงเพชร ตันทะอธิพานิช กรรมการผู้จัดการ SE กล่าวว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 4/59 (ตุลาคม-ธันวาคม 2559) บริษัทฯ รายได้รวม 120.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.50% จากไตรมาสก่อนหน้าที่มีรายได้รวม 108.75ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 7.82 ล้านบาท ชะลอตัวลงจากไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่ภาพรวมปี 2559 บริษัทฯ มีรายได้รวม 434.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.05% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 421.42 ล้านบาท โดยรายได้รวมในปี 2559 ที่เพิ่มขึ้น เกิดการการนำเสนอผลิตภัณฑ์และทำการตลาดเชิงรุกเข้าถึงลูกค้าเพื่อกระตุ้นการขาย ส่วนกำไรสุทธิทำได้26.81 ล้านบาท ชะลอตัวลงจากปีก่อนเล็กน้อย ซึ่งสาเหตุมาจากค่าใช้จ่ายเฉพาะที่เพิ่มขึ้นในปีนี้ เช่น ค่าที่ปรึกษานำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ค่าใช้จ่ายบำรุงรักษาและปรับปรุงอาคารสำนักงานที่จังหวัดระยอง และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) ที่เพิ่มขึ้นเพื่อรองรับระบบงานและการขยายงานในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติจ่ายเงินปันผลจากงวดผลการดำเนินงานปี 2559 แก่ผู้ถือหุ้นในอัตรา 0.08 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 7 มีนาคม 2560 และปิดสมุดทะเบียนเพื่อรวบรวมรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับเงินปันผลในวันที่ 10 มีนาคม 2560 ก่อนกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่19 พฤษภาคม 2560 นี้