กรุงเทพฯ--6 มี.ค.--อเกต คอมมิวนิเคชั่น
ผ่าทำเลรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย พบ 4 ปัจจัยบวกเอื้ออสังหาฯมากกว่าสายอื่น "ออริจิ้น" เผยยึดพื้นที่สายนี้แล้ว 19 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท มั่นใจศักยภาพทำเลอีก 3-5 ปีขึ้นแท่น "New Lifestyle CBD" เตรียมเปิดพรีเซลโครงการที่ 20 บนสายนี้ Notting Hill Sukhumvit 105 มูลค่า 2,350 ล้านบาท 25 มี.ค.นี้ ณ ไบเทค บางนา
นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ ไนท์บริดจ์, นอตติ้ง ฮิลล์, และเคนซิงตัน กล่าวว่า หากเปรียบเทียบกันระหว่างทำเลรถไฟฟ้าสายต่างๆ แล้ว ทำเลรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ถือเป็นทำเลที่มีศักยภาพและน่าสนใจมากที่สุด เนื่องจากทำเลดังกล่าวมีปัจจัยบวกถึง 4 ปัจจัย ได้แก่ 1.มีสถานีรถไฟฟ้าที่สร้างเสร็จก่อนรถไฟฟ้าสายอื่นและเป็นรถไฟฟ้าสายที่ดีที่สุดเพราะอยู่บนถนนสุขุมวิท สามารถเดินทางเข้าสู่ย่านธุรกิจใจกลางเมือง (ซีบีดี) ได้ภายใน 20-30 นาที 2.เป็นย่านที่อยู่อาศัยแนวราบที่เป็นที่นิยมมาก่อน มีชุนชน มีแหล่งงาน และโรงเรียนนานาชาติชั้นดีจำนวนมาก รวมถึงจะมีการขยายตัวของย่านธุรกิจการค้าในอนาคต 3.การคมนาคมสะดวก ติดทางด่วนเฉลิมมหานคร (พระราม 9–แจ้งวัฒนะ–รามอินทรา) ทางพิเศษบูรพาวิถี (ชลบุรี–พัทยา) และทางพิเศษบางพลี–สุขสวัสดิ์ 4.ระดับราคาคอนโดมิเนียมยังไม่สูงมากนัก
"ในขณะที่รถไฟฟ้าบางสายยังไม่ได้เซ็นสัญญาก่อสร้าง แต่สำหรับรถไฟฟ้าสายสีเขียวในช่วงอ่อนนุช - แบริ่งนั้น เปิดใช้งานมานานแล้ว อีกทั้งการก่อสร้างระบบบางและสถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ก็แล้วเสร็จ 100% และพร้อมจะเปิดให้บริการสถานีแรกในวันที่ 1 เม.ย.นี้ ซึ่งจะส่งผลให้ตลาดคอนโดมิเนียมโซนนี้เติบโตมากกว่า 30% ในปีนี้" นายพีระพงศ์ กล่าว
สำหรับโซนที่น่าจับตาบนทำเลรถไฟฟ้าสายสีเขียวขณะนี้ แบ่งออกเป็น 2 โซน ได้แก่ 1.ทำเลสถานีปุณณวิถี-อุดมสุข เป็นทำเลที่มีการเปิดขายโครงการคอนโดมีเนียมจำนวนมากมาตั้งแต่ก่อนรถไฟฟ้าจะเปิดบริการ มีผู้ประกอบการเข้ามาแข่งขันกันพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในโซนนี้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่ายังเป็นที่นิยมของผู้บริโภค แต่ระดับราคาเฉลี่ยในปัจจุบันที่อยู่ที่ 100,000-150,000 บาท/ตรม. จึงอาจจะไม่เหมาะกับกำลังซื้อของคนส่วนใหญ่แล้ว
2.ทำเลสถานีบางนา–แบริ่ง ปัจจุบันยังเป็นโซนที่มีการแข่งขันกันไม่สูงมากนัก ระดับราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 80,000-125,000 บาท/ตร.ม. ซึ่งถือว่าเป็นราคาคอนโดมีเนียมใกล้รถไฟฟ้าที่ยังอยู่ในระดับราคาที่ยังจับต้องได้ จึงเชื่อว่าจะกลายเป็นทำเลที่มีความต้องการสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดดในช่วง 1 ปีจากนี้ และคาดว่าจะส่งผลให้ระดับราคาปรับขึ้นได้ถึง 20 %
"ปี 2559 ซัพพลายคอนโดมิเนียมทั้งหมดที่ขายอยู่ในโซนลาซาล-แบริ่ง-สำโรง อยู่ที่ 6,827 ยูนิต ขายไปได้ถึง 4,506 ยูนิต ส่งผลให้ยูนิตคงเหลือสิ้นปี 2559 เหลือเพียง 2,321 ยูนิต หรือคิดเป็นอัตราการขายสูงถึง 66% ขณะที่ทำเลอื่นๆ ส่วนใหญ่อยู่ที่ประมาณ 30% สะท้อนว่าทำเลนี้มีความต้องการของผู้บริโภคสูง และมีซัพพลายคงเหลือน้อยกว่าระดับความต้องการ โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมในระยะไม่เกิน 500 ม.จากรถไฟฟ้า ราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 80,000-125,000 บาท/ตร.ม.ซึ่งเป็นระดับราคาที่ยังจับต้องได้ เชื่อว่าทำเลนี้จะมีความต้องการสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดดต่อไป ในขณะที่ทำเลใกล้เคียงคือ ทำเลย่าน ปุณณวิถี-อุดมสุข ซึ่งมีการเติบโตของตลาดและการแข่งขันสูงมาก แต่ราคาขายเฉลี่ยของคอนโดมีเนียมในระยะไม่เกิน 500 ม.จากรถไฟฟ้าได้ขยับไปอยู่ที่ 100,000-150,000 บาท/ตร.ม.แล้ว ถือเป็นระดับที่ค่อนข้างสูงเมื่อเปรียบเทียบกับกำลังซื้อของคนส่วนใหญ่" นายพีระพงศ์ กล่าว
นายพีระพงศ์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา บริษัทให้ความสำคัญกับรถไฟฟ้าสายสีเขียวมาตลอด โดยได้พัฒนาโครงการทั้งบนส่วนต่อขยายเดิมอ่อนนุช-แบริ่ง และส่วนต่อขยายช่วงใหม่แบริ่ง-สมุทรปราการแล้วรวม 19 โครงการ มูลค่ากว่า 10,248 ล้านบาท และจะยังให้ความสำคัญกับทำเลสายสีเขียวอย่างต่อเนื่อง โดยเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ นอตติ้ง ฮิลล์ สุขุมวิท 105 (Notting Hill Sukhumvit 105) ขึ้นเป็นโครงการที่ 20 บนทำเลรถไฟฟ้าสายนี้ และเป็นโครงการที่ 35 ของออริจิ้น
"เรามั่นใจว่าในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า แบริ่งและสถานีโดยรอบจะกลายเป็น New Lifestyle CBD เพราะกำลังจะมีสถานที่สำคัญใหม่ๆ เกิดขึ้นจำนวนมาก ทั้งแบงค็อก มอลล์ (Bangkok Mall) ศูนย์การค้าที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้, ภิรัชทาวเวอร์, อาคารสำนักงาน M Tower, Sky Walk เชื่อมสถานีอุดมสุข-บางนา, รถไฟฟ้าสายสีเหลือง, และรถไฟรางคู่ขนาดเบา สายบางนา–สุวรรณภูมิ ทำเลนี้จะเชื่อมต่อทั้งการใช้ชีวิต การทำงาน และการเดินทาง" นายพีระพงศ์ กล่าว
นอกจากนี้ กลุ่มผู้อยู่อาศัยคอนโดมิเนียมในโซนนี้ยังพลิกโฉมไปอีกด้วย จากเดิมที่เป็นกลุ่มคนท้องถิ่นและกลุ่ม Blue Collars อนาคตจะมีทั้งกลุ่ม White Collars และชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในไทย (Expat) โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นและ ชาวไต้หวันด้วย ทำเลนี้จึงเป็นทำเลที่แข็งแกร่ง ไม่ว่าสภาวะเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร เพราะมีตลาดผู้อยู่อาศัยหลายกลุ่มรองรับ
สำหรับโครงการนอตติ้ง ฮิลล์ สุขุมวิท 105 ตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาดประมาณ 8 ไร่ ใน ซ.สุขุมวิท 105 ห่างจากสถานีบีทีเอส
แบริ่งประมาณ 400 เมตร ประกอบด้วยอาคาร 8 ชั้น 6 อาคาร รวม 1,113 ยูนิต ตัวโครงการมีคอนเซ็ปต์เป็นสถาปัตยกรรมโมเดิร์นคลาสสิก สไตล์อังกฤษ ให้ผู้อยู่อาศัยได้สูดลมหายใจกลิ่นอายของลอนดอน ไปพร้อมกับบรรยากาศความเรียบง่าย สดชื่น พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน โดยภายในโครงการจะมีจุดเด่นถึง 3 อย่าง ได้แก่ 1.คลับเฮาส์ส่วนตัวที่แยกจากอาคารที่พักอาศัย 2.สวนสไตล์อังกฤษแบบไล่ระดับและสวนดาดฟ้าขนาดพื้นที่กว่า 3,500 ตร.ม. 3.สะว่ายน้ำ Lap Pool ที่คลับเฮาส์ และสระว่ายน้ำ Relax Pool พร้อมสระเด็กในโครงการ 4.Library Room, Co-Working space พร้อม Wifi Hi-speed ตลอด 24 ชั่วโมง 5.Fitness พร้อม Trainer และ Irish sport club corner
ขณะที่ห้องพักอาศัย แบ่งออกเป็น 7 แบบ ขนาดตั้งแต่ 25.50-43.50 ตร.ม. ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1.99 ล้านบาท/ยูนิต ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 75,000 บาท/ตร.ม. รวมมูลค่าโครงการ 2,350 ล้านบาท เริ่มเปิดพรีเซล 3 อาคารจาก 6 อาคารในวันที่ 25 มี.ค. 2560 ณ ไบเทค บางนา พร้อมห้อง Fully Furnished ราคาพิเศษ 1.69-1.89 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นราคาที่คุ้มที่สุดในโซนสถานีบีทีเอสดังกล่าว หลังจากวันงานพรีเซล ราคาจะเริ่มต้นที่ 2 ล้านบาท
ขณะที่อีก 3 อาคารที่ไม่ได้เปิดพรีเซลนั้น อาคารหนึ่งมีตัวแทนขายจากต่างประเทศมาเหมาไปขายที่ฮ่องกงและไต้หวันแล้ว ขณะที่อีก 1 อาคารอยู่ระหว่างการเจรจากับตัวแทนขายจากทางญี่ปุ่น เริ่มก่อสร้างโครงการ มิ.ย. 2560 และคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จไตรมาส 1/2562
ปัจจุบัน บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย 1.ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Project Development Business) 2.ธุรกิจที่สร้างรายได้หมุนเวียนต่อเนื่อง (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก 3.ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ และยังมีวิสัยทัศน์ใน การขยายประเภทธุรกิจใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เป็นผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร