กรุงเทพฯ--6 มี.ค.--ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์
ชาญอิสสระ ฉลองครบรอบ 65 ปี ชูแนวคิด "Happy Together" พร้อมเดินหน้าสู่ความเป็นผู้นำการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่แตกต่าง มุ่งสร้างความสุขไปพร้อมกันให้กับทุกฝ่ายทั้งลูกค้า พนักงาน พันธมิตร ผู้ถือหุ้น เผยปี 60 เล็งซื้อที่ดินมูลค่ารวม 2,000 ล้าน พัฒนาโครงการบ้านเดี่ยว-คอนโด ทั้งใน กทม. และต่างจังหวัด
นายสงกรานต์ อิสสระ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าในโอกาสที่ชาญอิสสระดำเนินธุรกิจเข้าสู่ปีที่ 65 จนนำมาสู่ความสำเร็จในปัจจุบัน ก็เนื่องมาจากการที่เราเป็นองค์กรที่มีผู้บริหาร ที่กล้าคิด กล้าทำ ในสิ่งที่มีความแตกต่างตลอดระยะเวลาการดำเนินธุรกิจ และในโอกาสครบรอบ 65 ปีในครั้งนี้บริษัทยังคงเดินหน้าพัฒนาธุรกิจอย่างต่อเนื่องภายใต้แนวคิด "Happy Together" ที่มุ่งสร้างความสุขในการดำเนินธุรกิจให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งลูกค้า พนักงาน พันธมิตร และผู้ถือหุ้น ให้ได้รับความสุข และความพึงพอใจ ร่วมไปกับองค์กรอย่างยาวนาน
"ในโอกาสก้าวเข้าสู่ปีที่ 65 ชาญอิสสระยังคงยึดมั่นเน้นการทำโปรดักส์ดีๆ ออกสู่สังคม เราขอยังคงเป็นผู้นำด้านความคิดที่แตกต่าง เป็นผู้บุกเบิกในการใช้นวัตกรรม และเครื่องมือทางการเงินต่างๆ เช่น ในอดีตที่เราทำโครงการคอนโดมิเนียมประเภทอาคารสำนักงาน (Office Condominium) เป็นอาคารแรกๆ ในกรุงเทพ เราทำคอนโดมิเนียมที่พักอาศัยในต่างจังหวัดที่ชายหาดชะอำและจดทะเบียนเป็นอาคารชุดแรกๆ ในต่างจังหวัด เราเป็นบริษัทแรกที่รวมผู้ออกแบบชั้นนำ 3 บริษัทมาออกแบบบ้านเดี่ยว 3 ชั้นใจกลางเมือง เราร่วมกับ SCG Heim ในการนำนวัตกรรมการสร้างบ้านแบบ Modular มาผสมผสานกับการก่อสร้างบ้านแบบดั้งเดิม พัฒนามาเป็นบ้านที่เหมาะกับสภาพอากาศของเมืองไทย นอกจากนี้เรายังใช้เครื่องมือทางการเงินเป็นเจ้าแรกๆ เสมอ อาทิ การนำอาคารสำนักงานเข้า Property Fund การแปลงสภาพกอง Property Fund เป็น REIT ซึ่งเรามีส่วนในการผลักดันกฎระเบียบต่างๆ ที่จะรองรับการแปลงสภาพครั้งนี้จนสำเร็จ และยังเป็นเจ้าแรกที่แปลงสภาพได้สำเร็จเมื่อปลายปีที่ผ่านมา สิ่งต่างๆ เหล่านี้คือสิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า 65 ปีที่ผ่านมาของชาญอิสสระ เรามีการเปลี่ยนแปลง และพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง" นายสงกรานต์ กล่าว
ทั้งนี้จากวิสัยทัศน์ของบริษัท "ชาญอิสสระ ภูมิใจพัฒนา สร้างสุขที่ยั่งยืน" จึงเป็นที่มาของแนวคิดในการฉลองครบรอบ 65 ปี ด้วยแนวคิด "Happy Together" เป็นการสร้างสุขร่วมกันที่ให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะการสร้างสุขให้กับลูกค้า บริษัทมีการพัฒนาแนวคิดการออกแบบที่อยู่อาศัยเพื่อให้อยู่สบาย ฟังก์ชั่นใช้สอยลงตัวง่ายต่อการบำรุงรักษา มีรสนิยมในการอยู่อาศัย เพื่อความลงตัวของการใช้ชีวิตให้มีความสุขในทุกระดับ การดำเนินธุรกิจเพื่อสร้างความสุขที่ยั่งยืนให้ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย อาทิ ผู้ถือหุ้น ผู้รับเหมา สถาบันการเงิน ลูกค้า พนักงาน ชาญอิสสระยึดมั่นในหลักแห่งคุณธรรม ซื่อสัตย์ สุจริต โปร่งใสในทุกบทบาทหน้าที่ สิ่งเหล่านี้เป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจ ให้รอดพ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจและเติบโตพัฒนาจนมาถึงทุกวันนี้
นายสงกรานต์ กล่าวต่ออีกว่า สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจจากนี้ต่อไป ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อมาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ให้กับลูกค้าอย่างไม่หยุดนิ่ง โดยในปีนี้บริษัทเตรียมงบประมาณในการซื้อที่ดินกว่า 2,000 ล้านบาท เพื่อจัดหาที่ดินที่มีความเหมาะสมมาพัฒนาทั้งในส่วนของโครงการแนวสูงและโครงการแนวราบ ทั้งใน กทม.และต่างจังหวัด โดยในส่วนของต่างจังหวัดจะยังคงเน้นที่ดินในจังหวัดที่บริษัทมีโครงการอยู่ เนื่องจากมองว่าจังหวัดเหล่านั้นเป็นทำเลที่มีศักยภาพ อาทิ เชียงใหม่ ภูเก็ต เพชรบุรี ที่มีกำลังซื้อค่อนข้างไปได้ดี รวมถึงยังเป็นจังหวัดแหล่งท่องเที่ยวที่ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ แวะเวียนมาท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง
ด้านนายวรสิทธิ อิสสระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาญอิสสระ เรสซิเดนซ์ จำกัด เปิดเผยว่าในส่วนของโรงแรมศรีพันวา ภูเก็ต ซึ่งถือเป็นโรงแรมที่รับผิดชอบดูแล ก็ยังคงเดินหน้าพัฒนาอย่างต่อเนื่อง พร้อมนำประสบการณ์ การเรียนรู้จากการทำธุรกิจมาต่อยอดให้โรงแรมเติบโตต่อไป โดยช่วงปีที่ผ่านมาโรงแรมศรีพันวา ภูเก็ตได้เปิดตัวเฟสใหม่ อย่าง เดอะฮาบิตะ (The Habita) อีกทั้งได้ทำการแปลงสภาพกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เป็นกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์โรงแรมศรีพันวา ("กองทรัสต์ SRIPANWA") ไปเมื่อปลายปี 2559 พร้อมกับการขยายกองทรัสต์โดยนำ เดอะฮาบิตะ เข้าในกองทรัสต์ ซึ่งนับว่าเป็นอีกก้าวสำคัญในการลงทุนเพิ่มเติม ขยายขนาดสินทรัพย์ เพิ่มผลตอบแทนและเพิ่มสภาพคล่องของกองทรัสต์ในการขยายธุรกิจโรงแรม สร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนหลังได้เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยกองทรัสต์ตั้งเป้าแผนการดำเนินงานคาดเพิ่มมูลค่าสินทรัพย์กว่า 10,000 ล้านบาทในอีก 5 ปีข้างหน้า
"ภาคธุรกิจโรงแรมถือเป็นปัจจัยสำคัญอีกแรงหนึ่งที่จะเป็นตัวช่วยขับเคลื่อนธุรกิจให้มีการเติบโต ทั้งในส่วนของการท่องเที่ยว ที่พักระดับไฮเอนด์ ที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง โครงการของเราก็จัดว่าอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพ ไม่ว่าจะเป็นศรีพันวาก็ดี หรือแม้แต่บาบาบีช คลับ ภูเก็ต ที่เรากำลังดำเนินการก่อสร้าง นอกจากนี้ยังมีโครงการบาบาบีช คลับ หัวหิน ภายในอาณาจักรทิวทะเล เอสเตท ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คสำคัญที่เรากำลังจะลงไปเจาะตลาด อีกทั้งยังดำเนินการบริหารงานโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญจากโรงแรมศรีพันวา ภูเก็ต เข้ามาช่วยบริหารจัดการ เพื่อสร้างมาตรฐาน บริการระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ให้แก่ลูกค้าได้สัมผัสรูปแบบบริการสุดประทับใจ" นายวรสิทธิ กล่าว
ขณะที่นายดิฐวัฒน์ อิสสระ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานพัฒนาธุรกิจ บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าในส่วนของแผนการตลาดในปีนี้ ยังคงกิจกรรม การสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดียมากขึ้น เนื่องจากมองว่าช่องทางดังกล่าวเป็นช่องทางที่สามารถเข้าตรงถึงกลุ่มลูกค้ายุคปัจจุบันได้ง่ายและรวดเร็ว รวมถึงการจัดทำ Line@ เพื่อเป็นการเพิ่มการสื่อสารโครงการใหม่ๆ กิจกรรมโปรโมชั่น การให้ความรู้ เทคนิควิธีการเลือกที่อยู่อาศัย วิธีการตกแต่งบ้านในลักษณะต่างๆ ให้สามารถเข้าถึงลูกค้าได้รับรู้ข้อมูลอย่างฉับไว ผ่านระบบโปรแกรม LINE ในสมาร์ทโฟน รวมถึงการพัฒนาเว็บไซต์ www.charnissara.com ให้สามารถรองรับการใช้งานที่ง่ายขึ้น พร้อมรวบรวมข้อมูลทุกโครงการในเครือของบริษัทมาอยู่รวมกัน เพื่อความสะดวกสบายให้กับลูกค้า และผู้สนใจโครงการได้เข้าชมและศึกษาข้อมูลโครงการได้อย่างครบถ้วน อีกทั้งยังปรับหน้าเว็บไซต์ให้สามารถรองรับการใช้งานผ่านระบบสมาร์ทโฟน เพื่อตอบรับไลฟ์สไตล์การใช้งานของผู้บริโภคให้มีความสะดวกรวดเร็วมากขึ้น นอกจากนี้ยังได้พัฒนาระบบแอพพริเคชั่นต่างๆ สำหรับรองรับการทำงานของบริษัทและลูกบ้านของทุกโครงการ อาทิ Construction Application เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการติดตามความคืบหน้าของการก่อสร้าง และลดขั้นตอนการทำงานที่มีความซ้ำซ้อน อีกด้วย
"ที่ผ่านมาเราก็มีการทำการตลาดด้านออนไลน์มาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยปัจจุบันสื่อออนไลน์และโซเชียลมีเดียต่างๆ เริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น การเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ก็ง่ายขึ้น ซึ่งเชื่อว่าการตลาดแนวนี้จะสามารถทำให้เราสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ง่าย และสร้างความสะดวกรวดเร็วในการให้ข้อมูลข่าวสาร" นายดิฐวัฒน์ กล่าว
อย่างไรก็ตามในโอกาสครบรอบ 65 ปี ชาญอิสสระ บริษัทได้จัดโปรโมชั่น "Big Thanks" 65 ปีมีครั้งเดียว กับ 16 โครงการระดับพรีเมี่ยม เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าผู้มีอุปการะคุณที่ให้การสนับสนุนบริษัทด้วยดีเสมอมา โดยลูกค้าที่ซื้อโครงการต่างๆ ในเครือของ บมจ.ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม-31 ตุลาคม 2560 เมื่อนำยอดการซื้อสะสมมารวมกัน ณ สิ้นวันที่ 31 ตุลาคม 2560 ยอดสูงสุด (Top Spender) 65 ท่านแรก จะได้รับ Sri Panwa Package จำนวน 3 วัน 2 คืน รวมมูลค่าร่วม 3 ล้านบาท และโปรโมชั่นของแต่ละโครงการในเครือของ บมจ. ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ อาทิ ส่วนลดสูงสุด 1 ล้านบาท, ฟรีเฟอร์นิเจอร์ 500,000 บาท, ฟรีเงินทำสัญญา 1 ล้านบาท และฟรี iPhone7 เป็นต้น นอกจากนี้บริษัทยังได้จัดทำของขวัญที่ระลึก มูลค่า 13,000 บาท เพื่อมอบให้ลูกค้าทุกโครงการในเครือของชาญอิสสระ ซึ่งลูกค้าสามารถติดต่อรับของขวัญที่ระลึกได้ตามโครงการต่างๆ ที่แจ้งไว้บนหน้าเว็บไซต์ www.charnissara.com อีกทั้งขอให้ติดตามความพิเศษต่างๆ ที่จะมอบให้แก่ลูกค้าตลอดทั้งปีนี้อีกด้วย