กรุงเทพฯ--7 มี.ค.--ซีพีเอฟ
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ คงความเป็นผู้นำการผลิตอาหารระดับโลก ได้รับมาตรฐานการผลิตอาหารคุณภาพปลอดภัย หรือ QS Standard ของประเทศเยอรมนี นับเป็นบริษัทแรกของไทย และเป็นบริษัทเดียวนอกกลุ่มสหภาพยุโรป ที่ได้มาตรฐานการผลิตระดับสูง สะท้อนความโปร่งใส ได้คุณภาพ ปลอดภัยต่อผู้บริโภค
นายวีรชัย รัตนบานชื่น ประธานผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการ สายธุรกิจไก่เนื้อ ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า บริษัทมุ่งมั่นพัฒนากระบวนการผลิตเนื้อไก่ตามมาตรฐานสากลมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้รับการรับรองมาตรฐาน QS จากประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นมาตรฐานรับรองกระบวนการผลิตอาหารที่มีคุณภาพ (Quality) เพื่อความปลอดภัย (Safety) สำหรับการบริโภค และเป็นมาตรฐานสูงสุดสำหรับการรับรองความปลอดภัยอาหารสำหรับผู้บริโภคชาวเยอรมัน ปัจจุบันได้รับการยอมรับและความเชื่อมั่นจากผู้บริโภคแพร่หลายยิ่งขึ้นในหลายประเทศแถบยุโรป ที่สำคัญมาตรฐาน QS ยังมีข้อกำหนดที่เข้มงวดมาก เน้นกระบวนการผลิตที่แสดงให้ผู้บริโภคเห็นถึงความโปร่งใส สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ เพื่อสร้างความมั่นใจและความน่าเชื่อถือในระดับสูงต่อตัวสินค้า ซึ่งในกระบวนการผลิตไก่เนื้อของซีพีเอฟที่ดำเนินการมาตลอดมีความสอดคล้องกับมาตรฐานนี้อยู่แล้ว ทั้งด้านคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ โดยปฏิบัติตามหลัก Animal welfare และ Animal health และยังร่วมกับกรมปศุสัตว์ พัฒนาการเลี้ยงสัตว์ปีกในระบบคอมพาร์ทเม้นท์ (Compartment) ป้องกันโรคไข้หวัดนก ตามหลักการของ OIE ตั้งแต่ปี 2549 จนถึงปัจจุบัน
"การได้รับมาตรฐาน QS นี้สะท้อนความมุ่งมั่นในการพัฒนา กระบวนการผลิตอาหารแปรรูปจากเนื้อไก่ ตลอดห่วงโซ่ของบริษัท เพื่อสร้างอาหารปลอดภัยสู่ผู้บริโภคทั่วโลกมาโดยตลอด การรับรองมาตรฐานในครั้งนี้ช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในตลาดลูกค้าต่างประเทศ และสร้างความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์เนื้อไก่ของบริษัท ทำให้ปัจจุบันมีออร์เดอร์จากกลุ่มลูกค้าจากเยอรมนีและ EU มากขึ้น โดยปี 2560 นี้ ซีพีเอฟตั้งเป้ายอดส่งออกเนื้อไก่และผลิตภัณฑ์รวมประมาณ 1.5 แสนตัน คิดเป็นมูลค่า 2 หมื่นล้านบาท" นายวีรชัย กล่าว
ที่สำคัญมาตรฐาน QS ยังมีระบบการติดตามตรวจสอบที่เข้มงวด ควบคุมเรื่องการใช้ยาปฏิชีวนะภายในฟาร์มอย่างปลอดภัยตามหลักสวัสดิภาพสัตว์เท่านั้น และผลิตภัณฑ์ต้องปราศจากเชื้อ Salmonella ตลอดจนมีระบบตรวจสอบคุณภาพไก่มีชีวิตส่งมอบโรงงาน
ทั้งนี้ มาตรฐานดังกล่าวจะเชื่อมโยงตลอดห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่ Feed Farm และ Food ตลอดจนบริษัทผู้นำเข้า ร้านจำหน่ายสินค้าปลีกและส่งในประเทศเยอรมนี รวมถึงประเทศปลายทางอื่นๆ มาตรฐานนี้มีข้อปฏิบัติที่ถูกออกแบบให้มีความจำเพาะต่อหน่วยงานทุกหน่วยงานที่มีส่วนสัมพันธ์ต่อการผลิตอาหาร ที่คำนึงถึงความปลอดภัยอาหารต่อผู้บริโภคสูงสุด และข้อปฏิบัติที่ QS กำหนดขึ้นนี้ จะถูกตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ มีการรายงานตรวจสอบ รวมทั้งทวนสอบถึงแหล่งที่มาของสินค้าในทุกห่วงโซ่การผลิต ผู้บริโภคจึงเชื่อมั่นได้ว่า ผลิตภัณฑ์ที่มาจากกระบวนการผลิต ภายใต้มาตรฐาน QS ทั้งหมดมีคุณภาพสูงเป็นที่ยอมรับในระดับสากลอย่างแท้จริง