กรุงเทพฯ--9 มี.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทยกำชับจังหวัดที่ประสบอุทกภัยภาคใต้น้อมนำพระราชกระแสรับสั่ง ร.10 เร่งแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของ ผู้ประสบอุทกภัยให้ครอบคลุมทุกด้าน รวมถึงฟื้นฟูบูรณะพื้นที่ให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว พร้อมเน้นย้ำให้ยึดการปฏิบัติ ตามนโยบายรัฐบาล กรอบระยะเวลาที่กำหนด ระเบียบกระทรวงการคลังฯ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ผู้ประสบภัยได้รับการช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว ทั่วถึง และครอบคลุมทุกพื้นที่
นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรองผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์รวม 12 จังหวัด ได้สร้างความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจำนวนมาก กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) จึงได้กำชับจังหวัดที่ประสบอุทกภัยภาคใต้น้อมนำพระราชกระแสรับสั่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ในการดูแลประชาชนอย่างดีที่สุด และบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประสบภัยโดยเร็ว ซึ่งได้เน้นย้ำให้จังหวัดเร่งช่วยเหลือและฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัยครอบคลุมทุกมิติ ดังนี้ ด้านที่อยู่อาศัย ให้จังหวัดที่ได้รับเงินสนับสนุนจากกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เร่งบริหารจัดการเพื่อจัดหาวัสดุในการซ่อมแซมบ้านเรือน กรณีใช้เงินทดรองราชการตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ให้คณะกรรมการ ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติอำเภอ/จังหวัด (ก.ช.ภ.อ. และ ก.ภ.ช.จ.) เร่งรัดการพิจารณาให้ความช่วยเหลือโดยเร็ว ด้านการประกอบอาชีพ โดยเฉพาะด้านการเกษตร ประมง และปศุสัตว์ ให้ดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบและหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 เมษายน 2560 ด้านโครงสร้างพื้นฐานและคมนาคม ให้เร่งสำรวจและจัดหาแหล่งงบประมาณในการฟื้นฟูความเสียหาย ด้านการแก้ไขปัญหาสิ่งกีดขวางทางน้ำจำนวน 111 แห่ง ให้จังหวัดบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่กำหนดมาตรการและ แนวทางการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน โดยเร่งดำเนินการสำรวจ ออกแบบ เตรียมความพร้อมด้านที่ดินและสถานที่ก่อสร้าง พร้อมทั้ง สร้างความเข้าใจแก่ประชาชนเกี่ยวกับนโยบายการแก้ไขปัญหาอุทกภัยของรัฐบาล ในส่วนของการดำเนินงานด้านการฟื้นฟูบูรณะ สถานที่ราชการและศาสนสถาน ให้สำรวจความเสียหาย พร้อมทั้งจัดทำแผนฟื้นฟูบูรณะและงบประมาณเสนอคณะกรรมการ ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจังหวัดเห็นชอบ ก่อนเสนอหน่วยงานที่รับผิดชอบหลักพิจารณาให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป ด้านสวัสดิการและการดำรงชีพของประชาชน ให้จัดทำฐานข้อมูลความเสียหาย เพื่อกำหนดมาตรการ แผนงาน และจัดสรรงบประมาณ ให้ความช่วยเหลือครอบคลุมทุกด้าน ด้านการแพทย์และสาธารณสุข ให้ป้องกันและควบคุมโรคระบาดที่มักเกิดในช่วงหลังน้ำลด รวมถึง จัดชุดปฏิบัติการดูแลเยียวยาสภาพจิตใจแก่ประชาชน ด้านการรักษาความสงบเรียบร้อย ให้จังหวัดร่วมกับตำรวจ ฝ่ายปกครอง กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยตรวจตราป้องกันมิจฉาชีพที่ลักขโมยทรัพย์สินซ้ำเติมความเดือดร้อนของผู้ประสบภัย ด้านทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ให้สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเป็นหน่วยงานหลักบูรณาการหน่วยงานในพื้นที่และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นติดตามและแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม ทั้งระบบนิเวศบนบก ในน้ำ และทางทะเล ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำให้จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยอย่างเต็มกำลัง ซึ่ง บกปภ.ช. ยังคงติดตามการปฏิบัติงานของจังหวัด อย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน รวมถึงการฟื้นฟูสิ่งสาธารณประโยชน์ เส้นทางคมนาคม และระบบนิเวศให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า บกปภ.ช. โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ประสานจังหวัดและหน่วยปฏิบัติน้อมนำพระราชกระแสรับสั่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ดำเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและฟื้นฟูบูรณะพื้นที่ให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว พร้อมเน้นย้ำให้ยึดการปฏิบัติตามนโยบายรัฐบาล กรอบระยะเวลาที่กำหนด ระเบียบกระทรวงการคลังฯ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ผู้ประสบภัยได้รับการช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว ทั่วถึง และครอบคลุมทุกพื้นที่