กรุงเทพฯ--9 มี.ค.--เอเพ็กซ์ เมดิคอล เซ็นเตอร์
เป็นการผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่งและฟื้นฟูใบหน้าให้กับนักศึกษาพยาบาลชาวเวียดนามที่โดนน้ำกรดสาด จนผิวหน้าไหม้ 75% ตาซ้ายบอด และไม่สามารถเปิด หรือปิดเปลือกตาได้ ส่วนตาขวาไหม้ระดับ 1 จนทำให้ใบหน้าเสียโฉม และส่งผลต่อการดำเนินชีวิตอย่างมาก ต้องคอยปกปิดใบหน้าอยู่ตลอดเวลา ซึ่งแม้เหตุการณ์นี้จะผ่านมาประมาณ 1 ปี ณ ตอนนี้ เธอตอบรับเข้าศัลยกรรม โดย เอเพ็กซ์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ กับการนำทีมแพทย์ผิวหนังไทยฝีมือดี ช่วยเหลือศัลยกรรมครั้งนี้ ให้เธอกลับมาทำงาน และ มุ่งหน้าทำอาชีพที่เธอรักมาโดยตลอดคือ พยาบาลฝึกหัด
เอเพ็กซ์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ ช่วยผ่าตัดแก้ไขความผิดปกติของใบหน้า และฟื้นฟูผิวที่สูญเสียไป เนื่องจากมีความเชื่อมั่นในศักยภาพและฝีมือของแพทย์ไทย ตลอดจนประสิทธิภาพของเทคโนโลยีในการฟื้นฟูผิว และศัลยกรรมผิวหนังที่ทันสมัยในระดับต้นๆของโลก รวมถึงห้องผ่าตัดที่ทันสมัย เพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์ครบครัน ของ เอเพ็กซ์ เมดิคอล เซ็นเตอร์
ซึ่งทีมแพทย์ได้กล่าวถึงการรักษาเคสใบหน้าที่ โดนน้ำกรด ลักษณะแบบเคสนี้ "สามารถทำได้ด้วยการผ่าตัดเลาะพังผืดออก แล้วนำเนื้อเยื่อเมือกจากในปากมาเย็บติดด้านในของเปลือกตา และใส่ตาปลอมทับไปบนตาจริง สำหรับแนวทางการรักษา ได้วางแผนว่าจะผ่าตัดเลาะพังผืดออก และนำเนื้อเยื่อเมือกจากในบริเวณช่องปาก มาเย็บติดด้านในของเปลือกตา และวางเยื่อรกบนลูกตา โดยมีการใส่แผ่นพลาสติกกันพังผืดเกิดซ้ำเอาไว้"
ผลที่จะได้รับในการทำศัลยกรรมในเคสนี้โดยรวม พญ.นันท์ภัทร์ กล่าวสรุปคือ "เธอสามารถใส่นัยน์ตาปลอมได้ เปลือกตาลืมได้เล็กน้อย และหลับได้บ้าง อย่างไรก็ตามต้องติดตามดูในวันที่ผ่าตัดอีกครั้งว่าจะสามารถทำอะไรได้อีก เนื่องจากแผลเป็นที่ค่อนข้างรุนแรง คนไข้อาจจะต้องเข้ารับการผ่าตัดหลายครั้ง"ทำการตัดแผลเป็นนูนและดึงรั้งบริเวณริมฝีปากบน ล่าง และใต้ปีกจมูกข้างซ้าย แก้ไขริมฝีปากและปีกจมูกที่โดนดึงผิดตำแหน่งให้กลับมาใกล้เคียงสภาวะปกติ ทำการปลูกถ่ายหนังจากขาหนีบมาทดแทนเพื่อให้แผลเป็นเรียบขึ้น"
โดยครั้งนี้ พญ.นันทภัทร์ สุภาพรรณชาติ ผู้ก่อตั้งเอเพ็กซ์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ กล่าวถึงเคสของการโดนน้ำกรดสาด และวิธีการรักษา โดยเบื้องต้นผิวผู้ป่วยจะมีแผลเป็น ผิวหนังไหม้ถึง 75% จึงมีแผลเป็นอยู่ทั่วใบหน้า แนวทางการรักษา จึงจะต้องมีการฟื้นฟู สร้างผิวใหม่ หลังจากที่ได้มีการแก้ไขผ่าตัดเลาะเอาพังผืดที่ดึงใบหน้าให้ผิดปกติออกแล้ว หมอก็จะใช้เลเซอร์รักษาแผลเป็น เพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างผิวใหม่ โดยใช้เทคโนโลยีเลเซอร์ล่าสุด ที่มีผลข้างเคียงน้อย และเห็นผลได้รวดเร็ว โดยผสมผสานกันหลายตัว เพื่อแก้ปัญหาที่แตกต่างกัน เช่น ปัญหาแผลเป็น เลือกทำเลเซอร์ resurfacing ส่วนรอยแดงก็ใช้เลเซอร์กำจัดเม็ดสีล่าสุด ที่ทำลายเม็ดสีด้วยความเร็วแสงในระดับ 1/ล้านล้านวินาที ทำให้เม็ดสีแตกกระจายโดยไม่เกิดการสะสมความร้อน จึงไม่เสี่ยงผิวไหม้ ควบคู่กับการฉายแสง LED เพื่อเร่งการฟื้นฟูเซลล์ผิวหนังและฆ่าเชื้อ นอกจากนี้ก็จะมีการฉีดสเต็มเซลล์จากไขมันของคนไข้เอง เพื่อปรับแต่งรูปหน้า และเร่งการฟื้นฟูเซลล์ผิวหนังจากภายใน"
พญ.นันทภัทร์ สุภาพรรณชาติ แห่งศูนย์การแพทย์ เอเพ็กซ์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ กล่าวทิ้งท้ายว่า "เมื่อเราได้รับการติดต่อจากคุณ Hoang Tang Thi Thu Huong และรับรู้เรื่องราวที่น่าเห็นใจของเธอ จากผู้หญิงหน้าตาดีคนหนึ่ง ชีวิตต้องเปลี่ยนแปลงไปจากเรื่องการหึงหวงซึ่งไม่ควรจะเกิดขึ้น ในทางการแพทย์ ก็คงสามารถช่วยให้ใบหน้าเธอดีขึ้นได้บ้าง ซึ่งก็หมายถึงช่วยให้ชีวิตเธอดีขึ้นได้ด้วย เราจึงอยากจะช่วย นอกจากนั้น ก็อยากจะเผยแพร่ความสามารถของแพทย์ไทยด้วย ว่าเราไม่แพ้ชาติใดในโลก เรามีทีมแพทย์เฉพาะทางที่มีความสามารถในลำดับต้นๆ ของโลก เรียกว่าฝีมือไม่เป็นรองใคร ในส่วนของเทคโนโลยี ก็เช่นกัน เทคโนโลยีระดับโลกล่าสุดมีอะไร ในเมืองไทยก็มีหมดเหมือนกัน ไม่ต้องบินไปรักษาไกลๆ ถึงเกาหลี ยุโรป หรืออเมริกา ประเทศไทยมีศักยภาพที่จะเป็นศูนย์การแพทย์ในภูมิภาคนี้ได้ไม่ยาก เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรและเทคโนโลยี"