กรุงเทพฯ--10 มี.ค.--เอบีเอ็ม
ปัจจุบันครอบครัวในเมืองต้องเผชิญกับความเร่งรีบตามไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะยามเช้าที่ต้องแข่งกับเวลาตั้งแต่ตื่นนอน ทำกิจวัตรประจำวัน และเตรียมตัวออกจากบ้านไปทำงาน ไปโรงเรียน ดังนั้นคุณแม่รุ่นใหม่โดยเฉพาะคุณแม่ที่เป็นเวิร์กกิ้งวูแมนต้องจัดสรรเวลาให้ลงตัว ทั้งทำหน้าที่ดูแลสมาชิกในครอบครัวและดูแลตัวเองก่อนไปทำงานในทุกๆ วัน ซึ่งถือเป็นความท้าทายของคุณแม่ที่ต้องรับหน้าที่สำคัญนี้
เนสท์เล่ได้ทำการสำรวจพฤติกรรมยามเช้าของคุณแม่จำนวน 500 คนในกรุงเทพฯ และปริมณฑล พบว่าคุณแม่ 98% รู้ถึงความสำคัญของอาหารเช้าด้วยเหตุผลสำคัญ 3 ข้อ คือ
อาหารเช้าจะช่วยให้มีพลังงานเพียงพอสำหรับการทำกิจกรรมต่างๆ ได้ตลอดวัน
อาหารเช้ามีผลต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย
อาหารเช้าช่วยให้พลังงานสำหรับการเรียนรู้
ความทุ่มเทของคุณแม่ส่วนใหญ่ในยามเช้าคือการดูแลลูกและสมาชิกในครอบครัว ภารกิจแรกของคุณแม่ในเมืองกรุงคือ การเตรียมอาหารเช้าสำหรับสมาชิกในครอบครัวก่อนจะดูแลตัวเอง อย่างไรก็ตามจากผลวิจัยพบว่ามีแม่เพียง 54% ที่สามารถทำอาหารเช้าให้ลูกได้ทุกวัน เนื่องจากภารกิจต่างๆ และเวลาที่จำกัด โดยเฉลี่ยจะใช้เวลาในการเตรียมอาหารเช้าประมาณ 16-30 นาที เทียบกับมื้ออื่นที่ใช้เวลาอย่างน้อย 1-2 ชั่วโมง ทำให้หลายๆ คนเลือกอาหารเช้าที่ปรุงง่าย สำหรับเมนูอาหารเช้ายอดนิยมที่คุณแม่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล เตรียมให้ลูกๆ ตอนเช้าก่อนไปโรงเรียน คือ
อันดับ 1 โจ๊กและข้าวต้ม 72%
อันดับ 2 อาหารเช้าแบบอเมริกัน เช่นไส้กรอก แฮม เบคอน และไข่ 46%
อันดับ 3 ขนมปังและเบเกอรี่ 42%
และที่น่าสนใจ คือ คุณแม่ของเด็กในวัยประถมศึกษาตอนปลายอายุ 7-12 ปี จะนิยมให้ลูกรับประทานข้าวเหนียวหมูปิ้งเป็นอาหารเช้า ถึง 50% และขนมปัง เบเกอรี่ 48% ซึ่งเมนูเหล่านี้อาจมีคุณค่าทางโภชนาการไม่เพียงพอกับมื้อเช้าซึ่งเป็นมื้อสำคัญที่สุดของวันสำหรับลูก ยิ่งไปกว่านั้นมีคุณแม่เพียง 46% เท่านั้น ที่มีโอกาสได้รับประทานอาหารเช้าของตนเอง
นอกจากเรื่องอาหารเช้าแล้ว ยังมีพฤติกรรมยามเช้าที่ท้าทายภารกิจคุณแม่ ทั้งการปลุกลูกๆ ให้ลุกจากที่นอนเพื่อเตรียมตัวไปโรงเรียน เมื่อลูกไม่ยอมตื่นในช่วงเวลาเร่งด่วน หรือลูกๆ งอแงไม่ยอมทานมื้อเช้า แต่คุณแม่กว่า 53% กลับเห็นตรงกันว่า ถึงแม้จะเหนื่อย แต่ก็ดีใจที่สามารถปฏิบัติหน้าที่เพื่อครอบครัวได้ในทุกๆ เช้า และ 35% มองว่าเป็นช่วงเวลาที่มีความสุข อย่างไรก็ตาม คุณแม่ต่างก็ปลาบปลื้มเมื่อได้ยินลูกพูดว่า "ไม่อยากให้แม่เหนื่อย" และแม่ยังรู้สึกชื่นใจที่ลูกอยากทานข้าวเช้ากับพ่อแม่ และ อยากกินอาหารเช้าอย่างมีความสุขโดยไม่ต้องรีบเร่ง
เนสท์เล่อยากให้ทุกครอบครัวมีโอกาสเปลี่ยนช่วงเวลาที่เร่งรีบให้เป็นช่วงเวลาที่มีคุณภาพ ด้วยการเตรียมอาหารเช้าที่อร่อยและมีคุณค่าทางโภชนาการให้กับลูกๆและทุกคนในครอบครัว เป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับเรื่องดีๆ ตลอดวัน รวมถึงใช้เวลาในยามเช้าร่วมกันอย่างมีคุณค่าและมีความหมาย เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์อันอบอุ่นใน เป็นการสร้างรากฐานที่ดีให้แก่เด็กๆ และทุกๆครอบครัวไทยอีกด้วย
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเนสท์เล่ ไทยผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ได้ที่
Facebook: https://www.facebook.com/goodfoodgoodlifebyNestleThailand
YouTube: https://www.youtube.com/user/NestleThailand
Website: https://www.nestle.co.th
สารถึงบรรณาธิการ
เนสท์เล่เป็นบริษัทผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มรายใหญ่ที่สุดของโลก ครอบคลุม 189 ประเทศทั่วโลก พนักงานเนสท์เล่กว่า 328,000 คนต่างมีพันธสัญญาต่อเจตนารมณ์ของเนสท์เล่ในการเพิ่มพูนคุณภาพชีวิต เสริมสร้างสุขภาพดีสู่อนาคต เนสท์เล่นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการสำหรับผู้คนและสัตว์เลี้ยงครอบคลุมในทุกช่วงวัย มากกว่า 2,000 แบรนด์ ทั้งที่เป็นแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักในระดับโลกเช่น เนสกาแฟ เนสเปรสโซ ตลอดจนแบรนด์ที่เป็นที่ชื่นชอบในท้องถิ่นอย่าง ตราหมี หรือมิเนเร่ บริษัทฯ ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยกลยุทธ์ด้านโภชนาการเพื่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี ปัจจุบัน เนสท์เล่ก่อตั้งมานานกว่า 150 ปี โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองเวเวย์ประเทศสวิตเซอร์แลนด์