กรุงเทพฯ--10 มี.ค.--เอบีเอ็ม
ฟิตบิทเปิดตัวฟังก์ชั่นรุ่น Sleep Stages ด้วยเทคโนโลยีการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ PurePulse ที่วิเคราะห์ระยะการนอนหลับ ทั้งช่วงหลับตื้น หลับลึก และช่วง REM รวมทั้งให้ข้อมูล Sleep Insights เพื่อให้คำแนะนำในการปรับปรุงการนอนหลับ ฟังก์ชั่นใหม่นี้ร่วมพัฒนาโดยผู้เชี่ยวชาญชั้นนำด้านการนอนหลับจากมหาวิทยาลัย จอห์น ฮอปกินส์ มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด และมหาวิทยาลัยแอริโซนา
ฟิตบิท (NYSE: FIT) ผู้นำตลาดอุปกรณ์เชื่อมต่อด้านการดูแลสุขภาพและฟิตเนส เปิดตัว Fitbit Alta HR™ และเทคโนโลยีสุดล้ำในการติดตามการนอนหลับที่ให้ข้อมูลเชิงลึกและคำแนะนำต่าง ๆ ที่ใช้งานได้จริงผ่านแอพพลิเคชั่น Fitbit® เพื่อให้การตัดสินใจด้านสุขภาพของคุณอัดแน่นด้วยข้อมูลรองรับ และเป็นแรงกระตุ้นให้พิชิตเป้าหมายด้านสุขภาพได้อย่างมีสไตล์
Fitbit Alta HR คือสายรัดข้อมืออัจฉริยะฟิตบิตที่เพรียวบางที่สุด สามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้อย่างต่อเนื่อง รวมคุณประโยชน์จากเทคโนโลยีการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ PurePulse® บันทึกการออกกำลังกายอัตโนมัติ ระบบติดตามการนอน แบตเตอรี่ที่ใช้ได้นานสูงสุด 7 วัน และระบบแจ้งเตือนอัจฉริยะ มาในดีไซน์บางเฉียบ สามารถปรับเปลี่ยนให้เข้ากับสไตล์ของคุณได้อย่างง่ายดาย Alta HR พร้อมจำหน่ายพรีเซลแล้ววันนี้ และจะวางจำหน่ายทางร้านค้าปลีกต่างๆ ในช่วงเดือนเมษายนนี้
Sleep Stages ใช้ค่าความผันแปรของอัตราการเต้นของหัวใจมาประเมินระยะเวลาที่คุณใช้ในช่วงหลับตื้น หลับลึก และหลับตากระตุก (REM) ซึ่งเป็นช่วงท้ายของวงจรการนอนหลับ รวมทั้งประเมินช่วงเวลาที่คุณตื่นในแต่ละคืน เพื่อให้เข้าใจถึงคุณภาพของการนอนหลับได้ดีขึ้น
Sleep Insights ใช้ฐานข้อมูลทั้งหมดในฟิตบิทของคุณมาประมวล เพื่อให้โปรแกรมประเมินคำแนะนำส่วนบุคคล ปรับปรุงการนอนหลับและสุขภาพโดยรวมของคุณให้ดีขึ้น
"Alta HR และฟังก์ชั่นใหม่เกี่ยวกับการนอนหลับที่มีประสิทธิภาพเหล่านี้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมของเราอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ข้อมูลที่ลึกขึ้นและนำไปปฏิบัติได้จริง ช่วยให้ผู้ใช้สามารถพัฒนาและดูแลสุขภาพให้ดีขึ้น" เจมส์ พาร์ค ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งฟิตบิท กล่าว "การย่อส่วนเทคโนโลยีการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ PurePulse ของเรา เป็นโอกาสอันน่าตื่นเต้นสำหรับการพัฒนาอุปกรณ์รุ่นใหม่ ๆ ในรูปทรงต่าง ๆ โดยความก้าวล้ำด้านเทคโนโลยีติดตามการนอนหลับของเราจะช่วยให้ผู้คนนับล้านทั่วโลกเข้าถึงข้อมูลที่มีประโยชน์ ซึ่งในอดีตจะได้ข้อมูลเหล่านี้จากการทดสอบในห้องแล็บที่มีค่าใช้จ่ายสูงเท่านั้น"
ตรวจวัดหัวใจอย่างมีสไตล์ มาในดีไซน์ทันสมัย
ฟิตบิทสามารถนำเอาลักษณะเด่นของ PurePulse ซึ่งเป็นฟังก์ชั่นที่ผู้ใช้ฟิตบิท Alta™ เรียกร้องมากที่สุด มาพัฒนาเป็น Alta HR โดยพัฒนาชิปแบบพิเศษเฉพาะ ซึ่งใช้องค์ประกอบน้อยลงและมีขนาดเล็กลง ทำให้ได้ดีไซน์ที่บางกว่าฟิตบิท Charge 2™ 25% ผลที่ได้คือ Alta HR เป็นอุปกรณ์ที่มีสไตล์ และสามารถตรวจจับอัตราการเต้นของหัวใจได้ต่อเนื่องตลอดวัน ทำให้คุณตัดสินใจเรื่องสุขภาพได้โดยมีข้อมูลรองรับมากขึ้น
วัดการเผาผลาญแคลอรีในแต่ละวันได้ดีขึ้น รวมทั้งการเผาผลาญด้วยการออกกำลังกายแบบไม่ใช้จังหวะก้าว เช่น โยคะและการปั่นจักรยาน ช่วยให้คุณสามารถดูแลสุขภาพและคุมน้ำหนักได้ตามเป้า โดยติดตามเปรียบเทียบแคลอรีที่รับเข้ามาและที่เผาผลาญออกไป
เห็นข้อมูลหัวใจเรียลไทม์ได้ชัดเจนบนข้อมือ และทราบข้อมูลสรุปผ่านแอพฯ ฟิตบิท ช่วยให้ออกกำลังกายหนักเบาได้อย่างเหมาะสมกับเป้าหมายด้านสุขภาพและความฟิต
ดูอัตราการเต้นของหัวใจขณะพักผ่อนได้ รวมถึงแนวโน้มต่าง ๆ ผ่านแอพฯ ฟิตบิท และเปรียบเทียบกับกิจกรรมที่ทำ ช่วยให้เห็นผลว่าการออกกำลังอย่างสม่ำเสมอนั้น ช่วยทำให้สุขภาพดีขึ้นได้อย่างไร[i] อัตราการเต้นของหัวใจที่ลดลงในขณะพักผ่อนเป็นดัชนีสำคัญที่บ่งบอกถึงสุขภาพของหัวใจ การปรับตัวเพิ่มขึ้นหรือลดลงอาจบ่งชี้ถึงสภาพความเจ็บป่วยหรือประเด็นปัญหาอื่นได้[ii]
เครื่องติดตามการนอนอัตโนมัติที่ชาญฉลาด ข้อมูลครบถ้วนเพื่อช่วยให้คุณนอนหลับได้ดียิ่งขึ้น
ฟิตบิทยังได้แนะนำสองฟังก์ชั่นใหม่ด้านการนอนหลับอันทรงประสิทธิภาพอย่าง Sleep Stages และ Sleep Insights – ช่วยให้ได้ข้อมูลเชิงลึกมากขึ้นเกี่ยวกับคุณภาพการนอนและคำแนะนำเพื่อปรับปรุงการนอน ซึ่งต่อยอดมาจากฟังก์ชั่นด้านการนอนหลับที่ได้รับความนิยม ที่ช่วยให้ผู้คนหลายล้านสามารถติดตามการนอนของตนได้มาตั้งแต่ปี 2555 เพราะการนอนเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อสุขภาพโดยรวม ที่ต้องดูแลควบคู่ไปกับอาหารการกินและการออกกำลังกาย แต่คนส่วนมากมีความเข้าใจในเรื่องนี้น้อย การนอนหลับที่ดีมีบทบาทสำคัญมากต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตโดยรวม ตั้งแต่ช่วยป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด เบาหวานและโรคอ้วน ไปจนถึงการกระตุ้นการทำงานของระบบประสาทด้านการเรียนรู้ สุขภาพจิต และการมีอายุที่ยืนยาว[iii]
ระบบ Sleep Stages จากเทคโนโลยี PurePulse ใช้ข้อมูลที่วัดอัตราการเร่งและการเปลี่ยนแปลงของการเต้นหัวใจ (ช่วงระหว่างจังหวะการเต้น) ผนวกกับอัลกอริทึมของฟิตบิทที่มั่นใจได้ถึงการประเมินเวลาที่ใช้ในแต่ละสภาวะการนอนหลับ ทั้งช่วงหลักตื้น หลับลึก และการหลับตากระตุก (REM) เช่นเดียวกับการวัดระยะเวลาที่ตื่นในแต่ละคืนด้วย:
ช่วงหลับตื้น (รวมระยะการหลับ ขั้น N1 และ N2) จะเกิดขึ้นตลอดคืน และสำคัญต่อความจำ การเรียนรู้ และการฟื้นฟูสภาพร่างกายจากในช่วงกลางวัน สำหรับคนส่วนใหญ่ ช่วงนี้คิดเป็น 50-60% ของทั้งคืน[iv]
ช่วงหลับลึก (ระยะการหลับ N3) ช่วยส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันที่ดี การเติบโตและซ่อมแซมกล้ามเนื้อ สำหรับคนส่วนใหญ่ ช่วงนี้คิดเป็น 10-25% ของทั้งคืน (ขึ้นอยู่กับอายุของคุณ)[v]
ช่วงหลับ REM คือช่วงที่คนเรามักจะฝัน มีความสำคัญต่อการพักฟื้นสมอง และการสร้างความจำ สำหรับคนส่วนใหญ่ ช่วงนี้คิดเป็น 20-25% ของทั้งคืน[vi] ส่วนใหญ่ช่วงหลับ REM มักเป็นช่วงท้ายของการนอน และมักเป็นช่วงที่หายไป หากระยะเวลาการนอนของคุณมีไม่มากพอ
ระยะเวลาตื่น (ระหว่าง 10 - 30 ครั้ง) ถือเป็นปกติของวงจรการนอนหลับของคุณในแต่ละคืน[vii]วงจรการนอนหลับของแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน การทราบข้อมูลเกี่ยวกับคุณภาพและรูปแบบการนอน และตระหนักถึงผลที่มีต่อชีวิตในแต่ละวันของคุณ จะทำให้คุณปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ให้พัฒนาการนอนหลับให้ดีขึ้นได้ เช่น การรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย ค่อย ๆ ผ่อนคลายร่างกายก่อนนอน และนอนตามตารางที่วางไว้อย่างต่อเนื่อง เช่น หากคุณตื่นนอนด้วยความเหนื่อยล้าในทุกเช้า แม้เหมือนว่าจะได้นอนหลับอย่างเพียงพอแล้ว อาจเป็นเพราะคุณไม่ได้หลับลึกนานพอก็เป็นได้
การติดตามรูปแบบการนอนยังสามารถช่วยบ่งชี้ความผิดแผกแตกต่างที่อาจก่อให้เกิดประเด็นปัญหาอื่น ๆ ตัวอย่างเช่น รูปแบบการนอนที่ผิดปกติอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่า ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับสภาวะการนอนแล้ว[viii]
"การนอนหลับของคุณนั้น มีบทบาทสำคัญ มันส่งผลตั้งแต่ช่วยรักษาระบบภูมิคุ้มกันที่ดี ไปจนถึงการช่วยระบบความจำ และดูแลน้ำหนักให้มีสุขภาพดีได้ การนอนไม่พอจึงสำคัญด้วย" ดร. อัลลิสัน ซีเบิร์น แห่งมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด กล่าว "ฟังก์ชั่นใหม่ด้านการนอนหลับของฟิตบิทใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์ในการแสดงผลรูปแบบการนอนหลับของคุณในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ทำให้ได้คำแนะนำที่น่าเชื่อถือและนำไปปฏิบัติได้ ให้คุณเปลี่ยนแปลงกิจวัตรประจำวันเพื่อพัฒนาคุณภาพการนอนให้ดีขึ้น ซึ่งจะพัฒนาสุขภาพของคุณโดยรวม"
Sleep Stages ได้รับการพัฒนาโดยคณะผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ทำให้ผู้บริโภคนับล้านสามารถเข้าถึงข้อมูลที่เคยจำกัดเฉพาะในแล็บทดลองได้ ในขณะที่ Sleep Insights ก็ให้ข้อมูลคำแนะนำเฉพาะบุคคลที่ช่วยพัฒนาคุณภาพการนอนหลับของคุณ คณะผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้เป็นการรวมความเชี่ยวชาญด้านวิชาการในแขนงต่าง ๆ เกี่ยวกับการนอนหลับมาไว้ด้วยกัน ซึ่งครอบคลุมด้านสุขภาพ โรคเรื้อรัง และโรคนอนไม่หลับ:
ดร.ไมเคิล แกรนด์เนอร์ (Dr. Michael Grandner) ผู้อำนวยการโครงการวิจัยสุขภาพและการนอน มหาวิทยาลัยแอริโซนา
ดร.อัลลิสัน ซีเบิร์น (Dr. Allison Siebern) ศาสตราจารย์ที่ปรึกษา ศูนย์แพทย์ด้านการนอน มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด และคณะผู้ชำนาญการที่ปรึกษาด้านการนอนของฟิตบิท
ดร.ไมเคิล สมิธ (Dr. Michael Smith) ศาสตราจารย์ด้านจิตเวช ประสาทวิทยาและการพยาบาล คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์
ระบบ Sleep Insights ใช้ฐานข้อมูลที่ฟิตบิทเก็บรวบรวมจากบันทึกการนอน 3 พันล้านคืน[ix] ซึ่งเทียบเท่ากับระยะเวลา 2.5 ล้านปี ฟิตบิทจึงเหนือกว่าในการให้ข้อมูลเชิงลึกด้านการนอนที่ทรงประสิทธิภาพ ให้คำแนะนำที่นำไปปฏิบัติได้จริง และช่วยเป็นโค้ชให้คุณพัฒนาคุณภาพการนอน ซึ่งส่งผลต่อการพัฒนาสุขภาพของคุณโดยรวม ตัวอย่างเช่น:
เข้าใจความเชื่อมโยงระหว่างการนอนหลับ การออกกำลังกาย อาหาร น้ำหนัก และอัตราการเต้นของหัวใจคุณ:
"ดูเหมือนว่าข้อมูลการนอนและการวิ่งของคุณจะมีสหสัมพันธ์ต่อกันมากทีเดียว บันทึกช่วงกลางคืนใน 10 สัปดาห์ที่ผ่านมาแสดงผลว่า วันที่คุณวิ่ง จะนอนหลับได้เต็มที่นานขึ้น 20 นาที เมื่อเทียบกับวันที่ไม่ได้วิ่ง"
"การอดนอนอาจไปเพิ่มฮอร์โมนความหิวของคุณได้ ดังนั้นหากคุณต้องการลดน้ำหนัก คุณควรมีบันทึกการนอนที่เพียงพอ"[x]
ได้รับคำแนะนำและข้อมูลเฉพาะบุคคล โดยอิงจากฐานข้อมูลฟิตบิทของคุณเอง เพื่อช่วยให้คุณทำตามตารางที่วางไว้อย่างเหมาะสมต่อเนื่อง และมีคุณภาพการนอนที่ดีที่สุด:
"ช่วงสุดสัปดาห์นี้อัตราการนอนโดยเฉลี่ยของคุณอยู่ที่ 9 ชั่วโมง 30 นาที ซึ่งมากกว่าช่วงการนอนในระหว่างสัปดาห์ที่ 5 ชั่วโมง 40 นาทีอย่างเห็นได้ชัด ความผันแปรนี้อาจเป็นสัญญาณว่า ในระหว่างสัปดาห์คุณนอนไม่พอ"
"เยี่ยมมากที่คุณเข้านอนเป็นเวลาสม่ำเสมอระหว่างสัปดาห์ ความสม่ำเสมอหมายถึง การนอนหลับได้ภายในช่วง 30 นาทีในทุก ๆวันของสัปดาห์ คนที่เข้านอนเป็นเวลาอย่างคุณจะมีเวลานอนนานกว่าคนที่เข้านอนไม่เป็นเวลา สูงสุดถึง 40 นาทีต่อคืน"
มีแรงใจ ทำได้ตามแผน และเชื่อมต่อข้อมูลตลอดเวลา
นอกจาก PurePulse จะนำความล้ำหน้าด้านประสบการณ์การติดตามสุขภาพและการออกกำลังมาให้แก่ Alta HR แล้ว ยังมีฟังก์ชั่นเด่นต่าง ๆ และระบบแจ้งเตือนที่จะช่วยให้คุณเชื่อมต่อข้อมูลตลอดเวลา และสร้างแรงบันดาลใจอย่างต่อเนื่องเพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย:
ระบบติดตามอัตโนมัติตลอดวัน ให้คุณรู้สถิติที่สำคัญที่สุด (อัตราการเต้นของหัวใจ จำนวนก้าว ระยะทาง ปริมาณแคลอรีที่เผาผลาญ ช่วงเวลาที่มีการเคลื่อนไหว) ติดตามทั้งกลางวันและกลางคืน ด้วยพลังงานแบตเตอรี่ที่อยู่ได้นานถึง 7 วัน[xi]
SmartTrack™ ติดตามการออกกำลังกายอัตโนมัติ บันทึกกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การเดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน เดินวงรี การเล่นกีฬาและเต้นแอโรบิก ด้วยฟิตบิทแอพพลิเคชั่น ที่บันทึกเครดิตตามแผนการออกกำลังที่คุณวางไว้
ระบบเตือนให้ขยับ จะช่วยให้คุณได้ขยับร่างกายตลอดทั้งวัน ลดช่วงเวลาการอยู่กับที่เฉย ๆ ทำให้ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคอ้วน โรคเบาหวาน รวมทั้งโรคหัวใจและหลอดเลือดได้[xii]
การแจ้งเตือนสายเรียกเข้า ข้อความ และปฏิทิน ทำให้ไม่พลาดทุกการติดต่อที่สำคัญ และมีสมาธิในกิจกรรมแต่ละวัน[xiii]
เชื่อมต่อกับหนึ่งในเครือข่ายสังคมด้านฟิตเนสที่ใหญ่ที่สุดในโลก ผ่านแท็บ ชุมชน ในแอพฯ ฟิตบิท เพื่อให้ได้รับแรงใจสนับสนุนและแรงบันดาลใจต่าง ๆ ตลอดเส้นทางการเสริมสร้างสุขภาพและความฟิตที่ดีขึ้น
"สำหรับฉันแล้ว ส่วนสำคัญของการมีสุขภาพดีและแอคทีฟอยู่เสมอ คือความเข้าใจว่าได้ทำกิจกรรมต่าง ๆ อย่างไรในแต่ละวัน เช่น การไปเดินป่ากับสุนัข ไปเข้าคลาสเต้น และนอนหลับได้ดีแค่ไหน เป็นต้น ซึ่งล้วนส่งผลต่อสุขภาพโดยรวม และเป้าหมายการออกกำลังกายของตัวเอง" จูเลียน ฮัฟ ฟิตบิทแอมบาสเดอร์ ซึ่งเป็นนักแสดงและนักเต้น กล่าว "ฉันชอบที่ Alta HR นั้นมีสไตล์มาก สามารถสวมใส่ได้กับเสื้อผ้าทุกแบบ ทำให้ไม่ว่าจะทำอะไร ก็มีแรงจูงใจและทำกิจกรรมได้ตามแผน"
สะท้อนถึงสไตล์ที่เป็นคุณ
ไม่ว่าคุณจะไปออกกำลังกายหรือสังสรรค์ยามค่ำคืน ดีไซน์ที่บางและอุปกรณ์ติดตามการออกกำลังกาย Alta HR ที่โดดเด่น ก็จะให้ข้อมูลที่คุณต้องการ ขณะเดียวกันก็ปรับให้เข้ากับลุคของคุณได้ด้วยแอคเซสเซอรีต่าง ๆ ที่เลือกใช้กับเครื่อง Alta และ Alta HR ได้อย่างลงตัว[xiv]
รุ่นคลาสสิก (Classic tracker) มีสายรัดข้อมือสีดำ น้ำเงินเทา สีฟิวเชีย หรือ คอรัล พร้อมตัวล็อคอลูมิเนียมที่เข้าชุดกัน
รุ่นพิเศษ (Special Edition) มีสายรัดสีชมพูซอฟต์พิงก์รุ่นคลาสสิก กับตัวเครื่องสีโรสโกลด์ 22 เค และรุ่นสายรัดสีดำคลาสสิกกับตัวเครื่องสีกันเมทัลแบบด้าน
คอลเลกชั่นสายหนังรุ่น Luxe Leather มีสีน้ำตาล น้ำเงินอินดิโก้ และสีชมพูลาเวนเดอร์ มาพร้อมกับอะไหล่เข้าชุด
สายสแตนเลสหรูหรา ที่สามารถเข้าได้กับเครื่องประดับชิ้นอื่นๆ ของคุณ[xv]
คอลเลกชั่นจากดีไซน์เนอร์ชื่อดัง อาทิ PUBLIC SCHOOL, Simply Vera Vera Wang และเร็ว ๆ นี้จาก Tory Burch[xvi]
ราคาและการจัดจำหน่าย
Alta HR มีจำหน่ายพรีเซลแล้ววันนี้ทางเว็บไซต์ Fitbit.com ในราคา 7,490 บาท ส่วนในช่วงต้นเดือนเมษายน 2560 Alta HR จะวางจำหน่ายทางออนไลน์และร้านค้าทั่วโลก รวมทั้งร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศไทย
รุ่นพิเศษ Special Edition Alta HR ราคา 7,990 บาท
สายรัดข้อมือฟิตเนสรุ่นคลาสสิก ราคา 1,290 บาท สายหนังรุ่น Luxe Leather ราคา 2,390 บาท และสายสร้อยข้อมือ Luxe Metal ราคา 4,190 บาท[xvii]
สำหรับฟังก์ชั่น Sleep Stages และ Sleep Insights จะเริ่มใช้งานได้พร้อมกันทั่วโลกในช่วงกลางปี 2560:
Sleep Stages จะทำงานร่วมกับรุ่น Alta HR รุ่น Blaze และรุ่น Charge 2 ผ่านแอพพลิเคชั่นฟิตบิทในระบบแอนดรอยด์ iOS และวินโดวส์ รวมทั้ง Fitbit.com ในช่องทางออนไลน์
Sleep Insights จะมาพร้อมกับอุปกรณ์ฟิตบิททุกรุ่นที่สามารถติดตามการนอนผ่านแอพพลิเคชั่นฟิตบิท