กรุงเทพฯ--10 มี.ค.--วีนิไทย
เอจีซี อาซาฮีกลาส โชว์ตัวเลขยอดขาย และกำไร 3 หมื่นล้านในปี 2559 ชี้กลุ่มเคมีภัณฑ์สร้างกำไรได้มากที่สุด โดยการเข้าถือครองหุ้นของ บมจ.วีนิไทย จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการผลิต และการทำตลาดทั้งในประเทศ และในภูมิภาคที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน
นายคาซูอะกิ โคกะ กรรมการบริหารบริษัท เอจีซี อาซาฮี กลาส จำกัด และเป็นผู้จัดการทั่วไปของฝ่ายเอสเซนเชียล เคมิคอลส์ เจนเนอรัล (Essential Chemicals General) กลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์ บริษัท เอจีซี อาซาฮี กลาส จำกัด เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมา (2559) กลุ่มบริษัทเอจีซี มียอดขายสุทธิอยู่ที่ 401,000 ล้านบาท จาก 4 กลุ่มธุรกิจ (กลุ่มธุรกิจกระจก กลุ่มธุรกิจอีเล็คทรอนิคส์ กลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์ และกลุ่มธุรกิจเซรามิคส์) โดยกลุ่มที่มีสัดส่วนยอดขายสูงสุดคือกลุ่มธุรกิจกระจก อย่างไรก็ตาม กลุ่มที่สร้างกำไรได้สูงที่สุดกลับเป็นกลุ่มเคมีภัณฑ์ ซึ่งทำกำไรได้ถึง 13,000 ล้านบาท จากกำไรรวมทั้งหมด 30,000 ล้านบาท
"กลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์จึงเป็นกลุ่มที่บริษัทให้ความสำคัญอย่างมาก เพราะมีโอกาสในการเติบโตสูง โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจคลอร์อัลคาไลน์ ที่เติบโตอย่างมากในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยตลาดมีความต้องการผงพลาสติกพีวีซีและโซดาไฟสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉพาะความต้องการในประเทศไทย อินโดนีเซีย และเวียดนาม ก็คิดเป็นร้อยละ 70 ของความต้องการทั้งภูมิภาคแล้ว"
"กลุ่มเอจีซี ได้สร้างฐานการผลิตไว้ในภูมิภาคแล้ว โดยในไทย บริษัท ไทยอาซาฮีเคมีภัณฑ์ จำกัด มีกำลังการผลิตโซดาไฟอยู่ที่ 350,000 ตัน ในอินโดนีเซีย บริษัท อาซาฮีมัส เคมิคอลส์ จำกัด มีกำลังการผลิต โซดาไฟอยู่ที่ 700,000 ตัน วีซีเอ็มอยู่ที่ 800,000 ตัน และพีวีซีอยู่ที่ 550,000 ตัน ในเวียดนาม บริษัท เอจีซี เคมิคอลส์ (เวียดนาม) มีกำลังการผลิตพีวีซีอยู่ที่ 150,000 ตัน ซึ่ง หลังจากที่วีนิไทยได้เข้าร่วมกับกลุ่มเอจีซีแล้ว จะทำให้เรามีกำลังการผลิตเพิ่มสูงขึ้นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นี้ โดยมีกำลังการผลิตโซดาไฟได้ทั้งหมด 1.42 ล้านตัน วีซีเอ็มได้ 1.2 ล้านตัน และพีวีซี 980,000 ตัน ซึ่งจะเป็นการเสริมโอกาส เพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน และทำให้กลุ่มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง" นาย คาซูอะกิ กล่าว
กลุ่มเอจีซีเข้ามาดำเนินงานในประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2507 และได้ก่อตั้งบริษัท ไทยอาซาฮีเคมีภัณฑ์ จำกัด ในปีพ.ศ. 2508 โดยปัจจุบันมีพนักงานมากกว่า 4,500 คนในประเทศไทย และประสบความสำเร็จในการเข้าถือครองหุ้นร้อยละ 58.77 ของ บริษัท วีนิไทย จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายพอลิไวนิลคลอไรด์ (พีวีซี) โซดาไฟ และ อิพิคลอโรไฮดรินฐานชีวภาพ ที่มีกำลังการผลิตโซดาไฟอยู่ที่ 370,000 ตัน วีซีเอ็ม 400,000 ตัน พีวีซี 280,000 ตัน และ อีพิคลอโรไฮดรินอีก 100,000 ตัน ซึ่ง เอจีซี ทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ (Tender Offer) ระหว่างวันที่ 3 มีนาคม – 7 เมษายนนี้