เคทีซี โชว์ผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2548 กำไรสุทธิพุ่ง 44%

ข่าวทั่วไป Monday May 16, 2005 15:34 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--16 พ.ค.--เคทีซี
เคทีซี โชว์ผลกำไร 3 เดือนแรกปี 2548 รวม 167.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44% จากไตรมาสที่ 4 ของปี 2547 พร้อมปูทางสู่การเป็น Membership Company ตอบสนองความต้องการของสมาชิกทุกรูปแบบ ชี้สินเชื่อเจ้าของกิจการ KTC Million โดนใจลูกค้าเติบโตเท่าตัว สามารถดันยอดทะลุเป้า 2,911.03 ล้านบาท ยืนยันแนวโน้มอนาคตสดใส
นายนิวัตต์ จิตตาลาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกปี 2548 สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2548 ว่า “เคทีซีมีกำไรสุทธิจำนวน 167.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิในช่วงเดียวกันของปี 2547 แต่ถ้าหากเปรียบเทียบกับไตรมาสสุดท้ายของปี 2547 บริษัทมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นถึง 44% และคิดเป็นกำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐานเท่ากับ 0.66 บาทต่อหุ้น”
“ด้านรายได้รวมมีจำนวน 1,263.53 ล้านบาท สูงกว่ารายได้รวมจากงบการเงินเฉพาะจำนวน 3.17 ล้านบาท เนื่องมาจากรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการที่เพิ่มขึ้นมาจากบริษัทย่อย ทั้งนี้ ในงบการเงินเฉพาะเคทีซีมีรายได้รวมเท่ากับ 1,260.36 ล้านบาท โดยหากเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2547 ที่มีรายได้รวมเท่ากับ 881.08 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 43% ทั้งนี้เนื่องมาจากบริษัทสามารถสร้างรายได้รวมเพิ่มขึ้น ทั้งรายได้ดอกเบี้ยจากธุรกิจบัตรเครดิตที่เพิ่มขึ้นกว่า 50% และรายได้ค่าธรรมเนียมของธุรกิจบัตรเครดิตที่ยังคงรักษาระดับการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งรายได้ดอกเบี้ยจากธุรกิจสินเชื่อบุคคลได้เพิ่มสัดส่วนขึ้นเป็น 10% ของรายได้รวม โดยมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นสูงถึง 93% และการเปิดตัวธุรกิจใหม่คือธุรกิจสินเชื่อเจ้าของกิจการ ซึ่งเป็นธุรกิจที่เริ่มมีบทบาทสำคัญในการสร้างรายได้เพิ่มให้แก่บริษัทฯ เป็นอย่างมาก โดยปัจจุบันสัดส่วนของดอกเบี้ยจากธุรกิจสินเชื่อเจ้าของกิจการคิดเป็น 7% ของรายได้ดอกเบี้ยรวม”
“ในส่วนของค่าใช้จ่ายรวมมีจำนวนทั้งสิ้น 886.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2547 โดยค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นนั้นเกิดจากการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญ (General Provision) จากการขยายตัวของยอดลูกหนี้ของ
สินเชื่อบุคคล KTC Cash และสินเชื่อเจ้าของกิจการ KTC Million เป็นหลัก นอกจากนี้ เคทีซียังเน้นการขยายฐานเงินกู้ยืมเพื่อเสริมสร้างธุรกิจต่างๆ ของเคทีซีซึ่งส่งผลถึงการเพิ่มขึ้นของดอกเบี้ยจ่าย”
“ส่วนฐานะทางการเงิน ณ วันที่ 31 มีนาคม 2548 เคทีซีมีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 24,928.48 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากสิ้นปี 2547 โดยสินทรัพย์หลักของบริษัทฯ ประกอบด้วย ยอดลูกหนี้จากธุรกิจบัตรเครดิต 15,965.60 ล้านบาท ลูกหนี้ธนวัฏบัตรเครดิต 747.85 ล้านบาท สินเชื่อบุคคล 3,672.83 ล้านบาท และสินเชื่อเจ้าของกิจการ 2,911.03 ล้านบาท รวมมูลค่าทั้งสิ้น 23,297.30 ล้านบาท หรือ 94% ของสินทรัพย์รวม และมีจำนวนบัตร 1,054,778 บัตร เพิ่มขึ้น 4% เปรียบเทียบกับ ณ สิ้นปี 2547”
“นอกจากเคทีซีจะให้ความสำคัญกับการขยายฐานบัตรแล้ว บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการวางแผนด้านการตลาด เพื่อส่งเสริมการขายและสนับสนุนผลิตภัณฑ์ทางการเงินรูปแบบต่างๆ และเป็นการขยายขอบเขตของการให้บริการออกไป จากแนวความคิดของบริษัทฯ ที่กำหนดกลยุทธ์เป็น Membership Company ลูกค้าทุกคนจะเป็น “สมาชิก” ของเคทีซี และมีสิทธิที่จะได้รับประโยชน์ในผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่บริษัทฯ นำเสนอ อีกทั้งในช่วงต้นปีนี้บริษัทฯ เริ่มขยายขอบเขตการส่งเสริมการขายไปสู่ภูมิภาคเพื่อให้ผู้ถือบัตรในต่างจังหวัดเพิ่มปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรมากยิ่งขึ้นด้วย และเคทีซียังให้ความสำคัญกับการใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูลสมาชิกบัตรเครดิตที่มีขนาดใหญ่ โดยใช้การวิเคราะห์ข้อมูลในระบบของ Business Intelligence ศึกษาและวิเคราะห์รูปแบบการใช้ชีวิต (Lifestyle) ของสมาชิกทุกกลุ่มอย่างใกล้ชิด เพื่อตอบสนองความต้องการให้แก่สมาชิกแต่ละกลุ่มอย่างเฉพาะเจาะจง โดยอิงจากฐานข้อมูลสมาชิกเดิมและพัฒนาให้เป็นตลาดที่มีศักยภาพ เพื่อออกผลิตภัณฑ์ด้านการเงินใหม่ที่สนองตอบต่อความต้องการของสมาชิกเฉพาะกลุ่ม”
“ในด้านธุรกิจสินเชื่อบุคคล KTC Cash ยอดลูกหนี้อยู่ในขั้นเริ่มต้นและยังมีโอกาสที่จะเติบโตได้อีกมาก เคทีซีมุ่งทำการตลาดสินเชื่อบุคคลด้วยการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ตรงกับความต้องการของสมาชิก โดยใช้กลยุทธ์ทางการตลาดที่แตกต่างจากคู่แข่งทั่วไป อาทิ การคิดอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก ทำให้บริษัทฯ สามารถขยายฐานสมาชิกได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังได้ปรับแผนการดำเนินธุรกิจในอนาคต เพื่อรองรับกับการเปลี่ยนแปลงที่อาจจะเกิดจากมาตรการควบคุมสินเชื่อบุคคลของทางการ ในการกำหนดอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่จะเรียกเก็บจากสมาชิก หรือการกำหนดเงื่อนไขและคุณสมบัติของผู้ที่สามารถทำการกู้ยืมได้อีกด้วย”
“สำหรับธุรกิจสินเชื่อเจ้าของกิจการ KTC Million เป็นธุรกิจที่เพิ่งเปิดดำเนินงานเมื่อเดือนกันยายน 2547 นับเป็นธุรกิจหลักที่สำคัญอีกธุรกิจหนึ่งที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่เคทีซีในอนาคต ผลิตภัณฑ์นี้เป็นทางเลือกในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้แก่เจ้าของกิจการที่ต้องการเงินทุนหมุนเวียนเพิ่มเติม ลูกหนี้ KTC Million มียอดสุทธิ ณ สิ้นปี 2547 เท่ากับ 1,867.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็น 2,911.03 ล้านบาท ณ สิ้นไตรมาสที่ 1 ปี 2548 คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 56%”
“สำหรับการจัดการดูแลด้านความเสี่ยงของลูกหนี้ เคทีซีมีฝ่ายงานด้าน Risk Management เป็นผู้ควบคุมการบริหารความเสี่ยงด้านการผิดนัดชำระหนี้ ผลทำให้บริษัทฯ มีอัตราการค้างชำระช่วง 30-179 วัน (Delinquency Rate) อยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรม สำหรับงวดไตรมาสที่ 1 ปี 2548 เคทีซีมีอัตราการค้างชำระช่วง 30-179 วัน ของลูกหนี้บัตรเครดิตและลูกหนี้สินเชื่อบุคคลเท่ากับ 2.57% และ 8.90% ตามลำดับ สำหรับลูกหนี้เจ้าของกิจการมีอัตราค้างชำระช่วง 30-179 วัน เพียง 0.83% เท่านั้น”
“จากผลประกอบการข้างต้น อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญของเคทีซีในช่วงไตรมาสแรกของปี 2548 แสดงดังนี้ บริษัทฯ มีหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) เท่ากับ 3.56 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากการออกหุ้นกู้ระยะยาวเพิ่มขึ้นในไตรมาสแรกของปี 2548 อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ (ROA) เท่ากับ 2.8% ลดลงเมื่อเทียบกับ ณ สิ้นปี 2547 เนื่องจากจำนวนสินทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นอย่างมากจากลูกหนี้การค้าที่เพิ่มปริมาณสูงขึ้น และมีอัตราผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) เท่ากับ 12.5% เพิ่มสูงขึ้นเมื่อเทียบกับ ณ สิ้นปี 2547 ส่วนหนึ่งเกิดจากผลกำไรของบริษัทฯ ที่เพิ่มขึ้นในอัตราส่วนที่มากกว่าการเพิ่มขึ้นของส่วนของผู้ถือหุ้นที่เพิ่มขึ้นจากการใช้สิทธิของ ESOP และจากการที่เคทีซีสามารถขยายธุรกิจใหม่ๆ ที่เพิ่มรายได้ให้กับบริษัทฯ อีกทั้งยังแสดงว่าบริษัทฯมีความสามารถในการทำกำไรเพิ่มขึ้นด้วย” นายนิวัตต์กล่าวในที่สุด
ออกข่าวในนาม:
ฝ่ายสื่อสารองค์กรและธุรกิจสัมพันธ์
บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
รายละเอียดเพิ่มเติม
กัณฑรัตน์ เจิมจิตรผ่อง โทรศัพท์ 02-665-5057
สุชาดา วีระสกุลรักษ์ โทรศัพท์ 02-665-5732
อธิกา เดชะวัฒนไพศาล โทรศัพท์ 02-665-5048
โทรสาร 02-665-5046
อีเมล์ : kandtharat.c@ktc.co.th--จบ--

แท็ก เคทีซี   KTC  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ