กรุงเทพฯ--13 มี.ค.--กลุ่มสารนิเทศการคลัง กระทรวงการคลัง
เมื่อวันจันทร์ที่ 13 มีนาคม 2560 ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) นำโดย นายชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ ประธานกรรมการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย นางสาววีณา เตชาชัยนิรันดร์ กรรมการและรักษาการผู้จัดการธนาคาร จัดแถลงข่าว "การดำเนินงานในรอบปี 2559 และเป้าหมายปี 2560 ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย" ณ ห้องประชุมใหญ่ ชั้น 23 ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย
นายชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ ประธานกรรมการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หลังจากเมื่อปลายปี 2559 ที่กระทรวงการคลังจัดตั้ง บริษัทบริหารสินทรัพย์ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย เพื่อรับโอนสินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่ไม่ใช่ลูกค้ามุสลิม ในวันที่ 30 มีนาคม นี้ ธนาคารจะจัดให้มีการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น เพื่อขออนุมัติโอนสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ รวมถึงการลดทุนและเพิ่มทุนเพื่อให้เงินกองทุนไม่ติดลบ ตามมติของ Super Board สำหรับด้านการหาพันธมิตร Super Board ได้กำหนดให้ธนาคารดำเนินการควบคู่ไปกับการฟื้นฟูกิจการ โดยมีเป้าหมายต้องการให้มีความชัดเจนภายในกลางปีนี้ ขณะนี้ธนาคารได้รับการติดต่อขอข้อมูลจากผู้สนใจทั้งในและต่างประเทศหลายราย ซึ่งผู้สนใจจะต้องทำรายละเอียดพร้อมข้อเสนอไปยังกระทรวงการคลังเพื่อพิจารณาต่อไป
สำหรับการดำเนินงานตามแผนฟื้นฟูกิจการ ที่ผ่านมามีความคืบหน้าเป็นอย่างดี โดยเฉพาะการเข้าสู่บริบทของการให้บริการทางการเงินกับพี่น้องมุสลิม ซึ่งธนาคารได้สนับสนุนสินเชื่อผ่านโครงการต่างๆ อาทิ โครงการสินเชื่อธุรกิจอพาร์ทเม้นท์มุสลิม โครงการสินเชื่อธุรกิจสหกรณ์อิสลาม เป็นต้น หลายโครงการได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยเฉพาะสินเชื่ออพาร์เม้นท์มุสลิม ได้มีการอนุมัติไปแล้วกว่า 200 ล้านบาท สำหรับผลิตภัณฑ์ตะกาฟุล ธนาคารทำยอดเงินสมทบในปี 2559 ได้เป็นจำนวนกว่า 360 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นยอดสูงสุดตั้งแต่ธนาคารมีการเริ่มให้บริการแนะนำตะกาฟุล และมีพนักงานที่ได้รับใบอนุญาตตัวแทนแนะนำตะกาฟุลแล้วมากกว่า 1,000 คน ซึ่งเกินกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนพนักงานทั้งหมด
จากการดำเนินงานดังกล่าวข้างต้น ส่งผลให้ผลประกอบการของธนาคารมีแนวโน้มดีขึ้นเป็นลำดับจากปี 2557 ที่มีผลขาดทุนสุทธิ 9,545 ล้านบาท ลดลงเหลือ 4,595 ล้านบาท ในปี 2558 และในปี 2559 มีผลขาดทุนสุทธิ ลดลงเหลือประมาณ 3,000 ล้านบาท ซึ่งทั้งหมดเป็นผลขาดทุนจากการกันสำรองสินเชื่อด้อยคุณภาพ
สำหรับในปีนี้ธนาคารกำหนดเป้าหมายขยายสินเชื่อไม่น้อยกว่า 30,000 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้กระทรวงการคลังได้อนุมัติให้ธนาคารสามารถอำนวยสินเชื่อให้กับลูกค้าต่อกลุ่มต่อราย เกินกว่า 200 ล้านบาท แล้ว นอกจากนี้เพื่อให้มีการทดแทนผู้บริหารระดับสูงที่มีตำแหน่งว่างอยู่หลายตำแหน่งในขณะนี้และเพื่อเสริมทีมงานให้มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ธนาคารจึงได้มีการสรรหา ผู้บริหารระดับรองกรรมการผู้จัดการ และผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ทั้งจากภายในและภายนอกเข้ามาเสริมทีม เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการนำเสนอธนาคารแห่งประเทศไทยให้ความเห็นชอบ นายชัยวัฒน์ กล่าวทิ้งท้าย