กรุงเทพฯ--15 มี.ค.--เอ็มที มัลติมีเดีย
บมจ.ผลิตภัณฑ์ตราเพชร หรือ DRT เดินเกมยกระดับมาตรฐานการผลิตในโรงงาน เน้นปรับปรุงประสิทธิภาพและลดความสูญเสียในกระบวนการผลิต ตลอดจนบริหารสินค้าคงคลังให้สอดคล้องกับฤดูกาลขายสินค้า พร้อมควบคุมต้นทุนด้านพลังงานเพื่อลดค่าใช้จ่าย ส่งผลปีที่ผ่านมาสามารถลดการสูญเสียในขั้นตอนการผลิตปี 59 คิดเป็นมูลค่า 63.85 ล้านบาท หนุนศักยภาพการแข่งขันในการทำตลาดผ่านทุกช่องทางจำหน่ายและรักษากำไรขั้นต้นที่ดี คาดอัตราการใช้เครื่องจักรในการผลิตเฉลี่ยทั้งปี 60 สูงกว่า 80% ของกำลังการผลิตรวม ผลักดันเป้าหมายการเติบโตปีนี้ไม่ต่ำกว่า 5%
นายสาธิต สุดบรรทัด กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ระบบหลังคา ไม้สังเคราะห์ แผ่นบอร์ด ยิปซัม อิฐมวลเบาและบริการหลังการขายภายใต้แบรนด์'ตราเพชร' เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีนโยบายให้ความสำคัญกับกระบวนการผลิตสินค้า ที่มีเป้าหมายต้องการยกระดับมาตรฐานการผลิตในโรงงานที่จังหวัดสระบุรี ทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพ การลดความสูญเสียที่เกิดขึ้นระหว่างกระบวนการผลิตสินค้า ลดความเสียหายของเครื่องจักรและลดอุบัติเหตุภายในโรงงาน โดยนำระบบตัวชี้วัดประสิทธิภาพและการทำงานของเครื่องจักรเข้ามาใช้ พร้อมทั้งสำรวจความสูญเสียที่เกิดขึ้นตั้งแต่เริ่มต้นจนจบกระบวนการผลิต ซึ่งจะส่งผลต่ออัตราการทำกำไรขั้นต้นที่ดี
ทั้งนี้ บริษัทฯ จึงได้นำระบบไคเซน ซึ่งเป็นแนวคิดบริหารจัดการด้านกระบวนการผลิตสินค้า มาใช้ภายในโรงงานของ DRT ที่มุ่งเน้นให้พนักงานทุกคนมีส่วนร่วมนำเสนอแนวทางปรับปรุงวิธีการทำงานเพื่อลดต้นทุนและลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตของแต่ละหน่วยงานที่ดีขึ้น ส่งผลให้ในปีที่ผ่านมา สามารถลดการสูญเสียที่เกิดขึ้นในกระบวนการผลิตของสายการผลิตหลังคาไฟเบื้องซีเมนต์ หลังคาคอนกรีตและอิฐมวลเบา คิดเป็นมูลค่ารวม 63.85 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเน้นบริหารจัดการปริมาณสินค้าคงคลังเพื่อรอการขาย ให้สอดคล้องกับความต้องการในช่วงฤดูกาลขายสินค้าและเพียงพอต่อปริมาณคำสั่งซื้อสินค้าในช่วง 30 วันข้างหน้าและปรับลดระยะเวลารอรับสินค้าเพื่อเพิ่มความพึ่งพอใจแก่ลูกค้า ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทฯ สามารถบริหารการใช้พื้นที่จัดเก็บสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยบริหารกระแสเงินสดให้มีสภาพคล่องที่เหมาะสม
"ในปีนี้เราเตรียมงบลงทุนไว้ประมาณ 200 ล้านบาท เพื่อขยายการลงทุนในด้านต่างๆ ซึ่งส่วนหนึ่งถูกนำมาใช้เพื่อการยกระดับประสิทธิภาพการผลิตของฝ่ายโรงงานและลดการสูญเสียในขั้นตอนการผลิต รวมถึงบริหารจัดการภายในให้สอดคล้องกับทิศทางการทำตลาดและเป้าหมายการดำเนินงานในแต่ละปีให้เติบโตได้ตามแผน" นายสาธิต กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทฯ ประเมินว่า จากภาพรวมตลาดวัสดุก่อสร้างที่มีแนวโน้มที่ดีขึ้นในปีนี้ จะทำให้อัตราการใช้เครื่องจักรในการผลิตสินค้าเฉลี่ยทั้งปีอยู่ในระดับไม่ต่ำกว่า 80% ซึ่งจะช่วยสนับสนุนกับแนวทางการทำตลาดของ DRT ในปีนี้ ที่มีเป้าหมายรุกขยายตลาดในทุกช่องทางขาย ทั้งห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่ ร้านค้าวัสดุก่อสร้างรายย่อย กลุ่มลูกค้าโครงการและตลาดต่างประเทศ เพื่อผลักดันยอดขายให้เติบโตไม่ต่ำกว่า 5%