ฮอนด้า เผยข้อมูลเครื่องยนต์ i-DTEC DIESEL TURBO ที่มาพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด ใน “ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่” ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการ 24 มี.ค. นี้

ข่าวยานยนต์ Wednesday March 15, 2017 16:40 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--15 มี.ค.--เอบีเอ็ม บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เผยข้อมูลหลักการทำงานของเครื่องยนต์ i-DTEC DIESEL TURBO ที่มาพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด โดยนับเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่ฮอนด้าจะได้แนะนำเครื่องยนต์และระบบเกียร์อัตโนมัติใหม่ ในยนตรกรรมสปอร์ตเอนกประสงค์ระดับพรีเมียม "ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ เจเนอเรชั่นที่ 5" ซึ่งเตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย 24 มีนาคม นี้ เครื่องยนต์ i-DTEC DIESEL TURBO 4 สูบ ขนาด 1.6 ลิตร ได้รับการพัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม (Earth Dreams Technology) ให้กำลังสูงสุด 160 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที ด้วยแรงบิดสูงสุดที่ 350 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบต่อนาที ซึ่งเทียบเท่ากับเครื่องยนต์ดีเซลขนาดใหญ่ ผสานการทำงานกับระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด ให้ทั้งอัตราเร่งและอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมสูงถึง 18.9 กิโลเมตร/ลิตร อีกทั้งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอัตราที่ต่ำเพียง 141 กรัม/กิโลเมตร จะติดตั้งอยู่ใน "ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่" โดยมาพร้อมอีกหนึ่งตัวเลือกกับเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.4 ลิตร และตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ด้วยเบาะนั่ง 3 แถว 7 ที่นั่ง ครบครันด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยและฟังก์ชั่นการใช้งานอันล้ำสมัย ทำให้ ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ เป็นยนตรกรรมเอสยูวีที่มีความพรีเมียมเหนือระดับมากกว่าทุกรุ่นที่ผ่านมา โดย เครื่องยนต์ i-DTEC DIESEL TURBO มีหลักสำคัญในการทำงานของเครื่องยนต์ ดังนี้ สมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลัง - ระบบเทอร์โบชาร์จเจอร์ 2 จังหวะ (2-stage Turbocharger) ผสานการทำงานอย่างชาญฉลาด ด้วยการควบคุมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่รวดเร็วและแม่นยำเพื่อให้การตอบสนองทั้งกำลังแรงบิดและอัตราเร่งได้อย่างเต็มประสิทธิภาพในทุกการขับขี่ ประกอบด้วยเทอร์โบชาร์จเจอร์ที่ทำงานในช่วงแรงดันสูง (High Pressure Turbo) และเทอร์โบชาร์จเจอร์ที่ทำงานในช่วงแรงดันต่ำ (Low Pressure Turbo) โดยจะทำงานร่วมกันตั้งแต่รอบต้นที่ต้องการอัตราเร่งเพื่อใช้ในการออกตัว ซึ่ง High Pressure Turbo มีการติดตั้ง Variable Geometry Turbocharger (VGT) เพื่อช่วยในการตอบสนองต่ออัตราเร่งที่รวดเร็วทันใจในช่วงรอบต้น ช่วยลดการสูญเสียกำลังของเครื่องยนต์โดยไม่จำเป็น อีกทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมัน เมื่อต้องการอัตราเร่งในช่วงความเร็วสูง Low Pressure Turbo ที่ควบคุมการทำงานผ่าน Waste gate Type Turbocharger จะช่วยเสริมการทำงานเพื่อให้ได้กำลังและแรงบิดที่สูงขึ้นในการขับขี่ โดย High Pressure Turbo และ Low Pressure Turbo จะมีการสลับการทำงานในช่วงกลางที่ความเร็วคงที่ เมื่อระบบทำงานผสานกัน จะให้ประสิทธิภาพเพื่อการเผาไหม้อย่างสูงสุด - การระบายความร้อนของไอดี (Intercooler) ระบบจะทำหน้าที่ระบายความร้อนของไอดีที่ถูกอัดมาจากการทำงานของเทอร์โบชารจ์เจอร์ซึ่งมีความร้อนสูงให้เย็นตัวลงก่อนที่จะผ่านเข้าห้องเผาไหม้ ทำให้มวลอากาศโดยรวมเล็กลง เพื่อนำอากาศเข้าสู่ห้องเผาไหม้ได้ปริมาณที่มากขึ้น ทำให้การเผาไหม้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด - ระบบการจ่ายน้ำมันแบบรางร่วม (Common Rail) ระบบจะมีเซ็นเซอร์ตรวจจับแรงดันน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อช่วยควบคุมแรงดันในรางให้เหมาะสม ด้วยการคำนวณรอบเครื่อง ปริมาณการฉีดน้ำมัน อุณหภูมิ และไอเสีย ทำให้การฉีดน้ำมันจากหัวฉีดทุกตัวมีความเสถียร และเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอีกด้วย - ระบบหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงแบบหลายจุด (Multi Injection) ระบบหัวฉีดน้ำมันจะทำงานแปรผันให้เหมาะสมกับรอบการทำงานของเครื่องยนต์ โดยจะคำนวณปริมาณและจังหวะในการฉีดน้ำมันกับการทำงานของรอบเครื่องในขณะขับขี่ ให้ใช้เชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยในเรื่องอัตราประหยัดน้ำมันและลดการสั่นสะเทือนจากการทำงานของเครื่องยนต์ อัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม - ระบบหยุดการทำงานของเครื่องยนต์ในรอบเดินเบา (Idle Stop System) ระบบจะลดการทำงานของเครื่องยนต์ที่ไม่จำเป็น โดยเครื่องยนต์จะหยุดการทำงานโดยอัตโนมัติขณะที่รถจอดนิ่ง และระบบจะสตาร์ทเครื่องยนต์อีกครั้ง เมื่อปล่อยเบรกหรือเหยียบคันเร่งในกรณีที่ระบบ Brake Hold ทำงาน ช่วยลดการใช้เชื้อเพลิงและช่วยให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม - ระบบหมุนเวียนไอเสีย (Exhaust Gas Recirculation System - EGR) ระบบหมุนเวียนไอเสียจะถูกควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่มีความแม่นยำสูง เพื่อนำไอเสียกลับมาในระบบเผาไหม้อีกครั้ง เพื่อช่วยให้ไอดีมีอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการจุดระเบิด ทำให้เกิดการเผาไหม้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งลดการปล่อยมลพิษออกจากตัวรถและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม - ตัวกรองอนุภาคไอเสียดีเซล (Diesel Particulate Filter - DPF) ตัวกรองจะทำหน้าที่ดักจับเขม่าของน้ำมันที่ออกมากับไอเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าตัวกรองอากาศเขม่าทั่วไป ทำให้มั่นใจในการควบคุมการปล่อยไอเสียให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุด การพัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม (Earth Dreams Technology) ของทั้งเครื่องยนต์ i-DTEC DIESEL TURBO ซึ่งมาพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด ได้รับการออกแบบให้มีอัตราทดเกียร์ที่รองรับการใช้งานจริงในทุกสภาพการขับขี่ ด้วยอัตราทดเกียร์ที่มากขึ้นถึง 9 สปีด จะช่วยลดภาระการทำงานของเครื่องยนต์ ให้อัตราเร่งที่ดีตั้งแต่การออกตัว ตอบสนองต่อการขับขี่และการเปลี่ยนเกียร์อย่างนุ่มนวล พร้อมช่วยลดเสียงรบกวนขณะขับขี่และให้การประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม เมื่อต้องการกำลังในการเร่ง โดยผู้ขับขี่กดคันเร่งเพิ่ม ระบบจะคำนวณอัตราทดเกียร์เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนเกียร์แบบก้าวกระโดดจากเกียร์ 9 มายังเกียร์ 5 และจากเกียร์ 7 มาเกียร์ 4 โดยไม่ต้องไล่ระดับ ซึ่งรวมถึงการเปลี่ยนเกียร์ 2 ระดับ หรือ 1 ระดับ รูปแบบอื่นๆ ด้วย ทั้งนี้ การเปลี่ยนเกียร์ในรูปแบบอื่นๆ ยังคงต้องอาศัยการทำงานที่ต่อเนื่อง ผ่านการไล่ระดับเกียร์เพื่อเปลี่ยนเกียร์ไปยังระดับที่ต้องการได้ ทั้งนี้ ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ ยังมาพร้อมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ E-DPS ใหม่ ทำงานโดยเปลี่ยนการควบคุมการส่งกำลังไปยังล้อหลังด้วยระบบไฟฟ้า ตอบสนองการทำงานได้รวดเร็วพร้อมกับให้แรงบิดที่ล้อหลังสูงขึ้น อีกทั้งเพิ่มความแม่นยำของการปรับแรงบิดที่ล้อหน้าและล้อหลังให้สมดุล พร้อมด้วยระบบเพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่ (Agile Handling Assist – AHA) และระบบช่วยควบคุมการบังคับพวงมาลัย (Motion-Adaptive Electric Power Steering - MA - EPS) ให้การทรงตัวขณะขับขี่ที่ดีเยี่ยม ทั้งในการเข้าโค้ง หรือทางลาดชัน เป็นต้น โดยการแนะนำ เครื่องยนต์ i-DTEC DIESEL TURBO ใน ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ ครั้งนี้ จะทำให้ ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ มีสมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังแต่ยังคงไว้ซึ่งอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ