กรุงเทพฯ--16 มี.ค.--ปอร์เช่ ประเทศไทย
ปอร์เช่ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ ด้วยการเปิดตัวยนตกรรมสุดพิเศษ ออกสู่สายตาสาธารณชนเป็นครั้งแรกของโลกถึง 3 รุ่นด้วยกัน ท่ามกลางบรรยากาศอันแสนอลังการของงานมหกรรมยานยนต์ Geneva International Motor Show ครั้งที่ 87(จัดขึ้นระหว่างวันที่ 7 ถึง 19 มีนาคม 2017) ปอร์เช่มีความภาคภูมิใจอย่างยิ่งในการใช้เวทีอันยิ่งใหญ่แนะนำสมาชิกรายล่าสุดของรถยนต์สายพันธุ์สปอร์ตสมรรถนะสูง พานาเมร่า สปอร์ต ทัวริสโม่ (PanmeraSport Turismo) –พบกับรุ่นใหม่ของรถยนต์แกรนทัวริ่งสุดหรูจากปอร์เช่ ประตูท้ายกว้างขวางยิ่งขึ้นพื้นห้องเก็บสัมภาระวางตัวในแนวต่ำมอบความสะดวกสบายในการขนย้าย พร้อมพื้นที่บรรจุสัมภาระที่ได้ขยายเพิ่มขึ้น รองรับความอเนกประสงค์ด้วยห้องโดยสารตอนหลังที่ได้รับการออกแบบใหม่ สำหรับผู้โดยสาร 4+1 ที่นั่งรถสปอร์ต 4 ประตูที่ผสมผสานระหว่างความสะดวกสบายและตอบโจทย์ในการใช้งานประจำวันได้อย่างสมบูรณ์แบบ อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญของงานคือ ปอร์เช่ พานาเมร่าเทอร์โบเอสอี-ไฮบริด (PanameraTurbo S E-Hybrid)โดดเด่นด้วยสมรรถนะเหนือระดับจากพละกำลังสูงสุดถึง 680 แรงม้า(500 กิโลวัตต์)จากการทำงานของระบบขับเคลื่อน hybrid อัจฉริยะ เจเนอเรชั่นที่ 2นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ปอร์เช่วางตำแหน่งรถยนต์ plug-in hybrid ในฐานะเรือธงของรุ่น สำหรับรถสปอร์ตคันที่ 3 ซึ่งได้รับการเผยโฉมในงานนี้คือ ยนตกรรมสมรรถนะสูงสายพันธุ์สนามแข่ง ที่ได้รับการสร้างสรรค์ให้เหมาะกับทั้งการในชีวิตประจำวันและในสนามแข่ง ปอร์เช่911 จีทีเอส (911 GTS) เป็นอีกหนึ่งดาวเด่นของปอร์เช่ที่ปรากฎตัวขึ้นในโอกาสสำคัญนี้เช่นเดียวกัน
โดยบรรยากาศของงานเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่จากปอร์เช่ มีขึ้นระหว่างงานแถลงข่าว เมื่อวันที่ 7 มีนาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 9:15 (เขตเวลายุโรป CET) ณ.Palexpo, hall 1, stand 1050
สามารถติดตามภาพข่าวเพิ่มเติมได้ที่PorscheNewsroom(http://newsroom.porsche.de.) และฐานข้อมูลสำหรับสื่อมวลชน(http://presse.porsche.de)
ปอร์เช่ พานาเมร่า เทอร์โบ เอส อี-ไฮบริด (PanameraTurbo S E-Hybrid) : อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 34.4กิโลเมตรต่อลิตร (2.9 ลิตรต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร) ; อัตราการใช้พลังงานไฟฟ้า 16.2 กิโลวัตต์ชั่วโมงต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร ; อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์(CO2) 66 กรัมต่อกิโลเมตร
ปอร์เช่ 911 จีทีเอส (911GTS) : อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 10.3-12.0 กิโลเมตรต่อลิตร (9.7-8.3 ลิตรต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร) ; อัตราปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์(CO2) 220-188 กรัมต่อกิโลเมตร