กรุงเทพฯ--16 มี.ค.--ธนาคารกรุงเทพ
ธนาคารกรุงเทพ ร่วมกับ เนสท์ พันธมิตรผู้เชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมการลงทุนชั้นนำระดับโลก เปิดตัวโครงการ "Bangkok Bank InnoHub" ค้นหาผู้ประกอบการสตาร์ทอัพกลุ่มฟินเทคระดับเวิร์ลคลาสทั้งในประเทศและต่างประเทศ จำนวน 8 ทีม เข้าโปรแกรมอบรมหลักสูตรเข้มข้น และร่วมทำงานกับผู้บริหารมืออาชีพของธนาคารกรุงเทพ และผู้เชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมระดับสากลของเนสท์ รวม 12 สัปดาห์ เพื่อคิดค้นและสร้างสรรค์นวัตกรรมจากเทคโนโลยีใหม่ๆ มาให้บริการทางการเงินอย่างเป็นรูปธรรม เชื่อมโยงและสนองตอบนโยบายพัฒนาประเทศ 4.0 ของรัฐบาล พร้อมเปิดโอกาสให้ 'บัวหลวงเวนเจอร์ส'ร่วมลงทุนกับบริษัทสตาร์ทอัพหน้าใหม่ที่มีจำนวนมากทั่วโลก
นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารกรุงเทพได้ร่วมกับบริษัท เนสท์ องค์กรชั้นนำผู้มากด้วยประสบการณ์และความสำเร็จในการจัดโครงการสตาร์ทอัพกลุ่มฟินเทคให้กับบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ทั่วโลก จัดโครงการ 'Bangkok Bank InnoHub' เพื่อค้นหาและคัดสรรผู้ประกอบการสตาร์ทอัพกลุ่มฟินเทคระดับเวิร์ลคลาส ทั้งในประเทศ และต่างประเทศทั่วโลก จำนวน 8 ทีม ที่มีเทคโนโลยีสัมพันธ์โดยตรงกับตลาดในประเทศไทย หรือมีศักยภาพในการนำไปใช้ในตลาดอาเซียน เพื่อมอบโอกาสให้เข้าร่วมโปรแกรมอบรมหลักสูตรเข้มข้น ตอกย้ำความมุ่งมั่นของธนาคารในการสร้างความแข็งแกร่ง และกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลง คิดค้น และสร้างสรรค์นวัตกรรมจากเทคโนโลยีใหม่ๆ มาให้บริการในธุรกิจการเงินอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อตอบสนองและสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้า
ผู้ประกอบการสตาร์ทอัพกลุ่มฟินเทคที่ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการทั้ง 8 ทีม จะได้รับการดูแลจากผู้บริหารที่มากด้วยประสบการณ์ในอุตสาหกรรมการเงินของธนาคารกรุงเทพ อีกทั้งเครือข่ายและพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่งของเนสท์ทั่วโลก ในการให้คำแนะนำเชิงกลยุทธ์เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับโครงการริเริ่มที่มีศักยภาพหรือการพัฒนานวัตกรรมทางการเงินในรูปแบบใหม่ๆ ที่สามารถเข้ากับธุรกิจของธนาคาร พร้อมกันนี้ทางโครงการยังได้จัดเตรียมหลักสูตรระดับสากลที่จะเน้นเนื้อหาที่เป็นประโยชน์โดยตรงกับบริษัทสตาร์ทอัพหน้าใหม่ที่อยู่ในกลุ่มพัฒนาเทคโนโลยีด้านการชำระเงิน ด้านกระบวนการรู้จักลูกค้าผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Know Your Customer:E-KYC) การพัฒนาเทคโนโลยีด้าน Machine Learning และระบบเอไอ ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) โดยทีมงานผู้มีความเชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมของเนสท์ และที่ปรึกษาทางธุรกิจคอยให้คำแนะนำและความช่วยเหลือในการปรับทิศทางให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ทางธุรกิจที่ตั้งเป้าไว้
นายพนุกร จันทรประภาพ ฝ่ายการลงทุนธุรกิจ ธนาคารกรุงเทพ กล่าวเพิ่มเติมว่า นับเป็นกิจกรรมโครงการภายใต้แนวคิดหลักInspiring Change โดยธนาคารเชื่อว่า InnoHub จะสามารถเชื่อมโยงและสนองตอบนโยบายพัฒนาประเทศ 4.0 ของรัฐบาลที่หลากหลาย สร้างมูลค่าเพิ่ม และเสริมความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจที่เน้นการให้บริการ ซึ่งธนาคารกรุงเทพในฐานะธนาคารพาณิชย์ชั้นนำระดับภูมิภาค มีความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนระบบ ecosystem ของประเทศไทย เพื่อมอบโอกาสให้กับบริษัทสตาร์ทอัพกลุ่มฟินเทคที่มีศักยภาพสูงได้บรรลุวัตถุประสงค์และขยายธุรกิจให้เติบโตได้ภายในระยะเวลาที่ต้องการ และยังเป็นโอกาสให้บริษัทสตาร์ทอัพกลุ่มฟินเทคในประเทศได้ขยายธุรกิจสู่ระดับภูมิภาคและระดับโลก ขณะเดียวกันก็เปิดโอกาสให้กับบริษัทสตาร์ทอัพกลุ่มฟินเทคระดับโลกสามารถสร้างเครือข่าย และความร่วมมือกับชุมชนฟินเทคในประเทศไทยและอาเซียน
พร้อมกันนี้ธนาคารกรุงเทพได้เปิดโอกาสให้ บริษัท บัวหลวงเวนเจอร์ส จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจเงินร่วมลงทุนในบริษัทที่มีศักยภาพการเติบโตสูง โดยเน้นธุรกิจขนาดกลาง ธุรกิจขนาดย่อม รวมทั้งบริษัทสตาร์ทอัพ ด้วยการเข้ามามีส่วนในการพิจารณาเลือกลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพกลุ่มฟินเทคจากภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก และให้คำปรึกษาในด้านการระดมเงินทุน
มร. ลอร์เรนซ์ มอร์แกน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เนสท์ กล่าวว่า ระบบ ecosystem ของประเทศไทยได้ผ่านช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นทั้งด้านการเติบโตและการเปลี่ยนแปลง เนสท์ ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นพันธมิตรร่วมกับธนาคารกรุงเทพที่มีจุดมุงหมายในการสร้างแรงผลักดัน สร้างคุณค่าและพัฒนาฟินเทคให้กับประเทศไทยและภูมิภาคให้มีเพิ่มมากยิ่งขึ้น สำหรับบริษัทสตาร์ทอัพกลุ่มฟินเทคที่เข้าร่วมโครงการนี้ไม่เพียงจะได้รับโอกาสการเติบโตในประเทศไทย แต่เรายังสร้างศูนย์กลางสำหรับสตาร์ทอัพหน้าใหม่เพื่อดึงดูดตลาดต่างๆ ในอาเซียนด้วย ดังนั้น ประเทศไทย จึงถูกวางตำแหน่งให้เป็นประตูสู่อาเซียนนั่นเอง
โครงการ Bangkok Bank InnoHub จะเปิดรับสมัครผู้ประกอบการสตาร์ทอัพกลุ่มฟินเทคที่มีผู้บริหารอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป จากทุกประเทศทั่วโลก ระหว่างวันพฤหัสบดีที่ 16 มีนาคม ถึงวันพุธที่ 10 พฤษภาคม 2560 เพื่อคัดเลือกจำนวน 8 ทีม เข้าร่วมโครงการฝึกอบรมที่ธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ ตั้งแต่เดือนมิถุนายน ระยะเวลา 12 สัปดาห์ พร้อมกำหนดจัดงานวัน Demo Day ที่จะเป็นเวทีในการนำเสนอแผนธุรกิจต่อกลุ่มนักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแถบประเทศอาเซียนในเดือนกันยายน 2560 นับเป็นโอกาสครั้งสำคัญที่จะก้าวไปสู่การระดมทุน และร่วมเป็นพันธมิตร
สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับโปรแกรม ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ www.bangkokbankinnohub.com