กรุงเทพฯ--16 มี.ค.--กลุ่มประชาสัมพันธ์ กระทรวงวัฒนธรรม
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) เปิดเผยว่า จากการประชุมติดตามงานและแผนการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรม (สป.วธ.) โดยได้รับรายงานเกี่ยวกับการเบิกจ่ายงบประมาณประจำปี 2560 ในภาพรวมของ สป.วธ. ซึ่งข้อมูล ณ วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2560 พบว่า มีการเบิกจ่ายงบฯ ร้อยละ 34.20 ซึ่งการเบิกจ่ายงบฯ ดีกว่าปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ได้กำชับให้เร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนที่ไม่สามารถก่อหนี้ผูกพันให้ทันตามที่ สำนักงบประมาณกำหนดกรอบเวลาภายในมีนาคมนี้
นอกจากนี้ได้มอบหมายให้รวบรวมข้อมูลผลการดำเนินการตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (เอ็มโอยู) ด้านวัฒนธรรมระหว่างประเทศไทยกับประเทศต่างๆ ที่มีทั้งหมด 40 ประเทศ และขยายความร่วมมือทวีภาคีด้านวัฒนธรรมระหว่างไทยกับประเทศต่างๆ รวมทั้งประสานงานกับสถานทูตประเทศต่างๆ ในไทย เพื่อร่วมมือกันจัดทำปฏิทินและจัดกิจกรรมศิลปวัฒนธรรมของแต่ละประเทศที่จะจัดขึ้น ในไทยตลอดทั้งปี เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้คนไทยและต่างชาติมาเข้าร่วมกิจกรรมเหล่านี้
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวอีกว่า ที่ประชุมได้ติดตามความคืบหน้าโครงการพัฒนาศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยให้เป็นพื้นที่บริการทางวัฒนธรรมระดับนานาชาติ โดยจากการที่ วธ.ได้นำเสนอโครงการฯ ต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อเร็วๆนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเห็นด้วยกับโครงการนี้ ซึ่ง วธ. ต้องเสนอของบผูกพันรองรับ โดยขณะนี้ได้บรรจุโครงการดังกล่าวไว้ในโครงการภายใต้ยุทธศาสตร์ระยะ 20 ปีของ วธ. แล้ว
นายวีระ กล่าวด้วยว่า โครงการระยะที่ 2 มอบหมายให้ สป.วธ. ตั้งคณะกรรมการพิจารณาการดำเนินโครงการฯระยะที่ 2 พร้อมทั้งให้จัดประชุมระดมความคิดเห็นศิลปิน นักแสดงและภาคประชาชน เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายได้มีส่วนร่วมในการออกแบบโครงการระยะที่ 2 อย่างไรก็ตามเบื้องต้น วธ. มีแนวคิดจะก่อสร้างอาคารโรงละครแห่งใหม่ อาคารข้อมูลองค์ความรู้ทางศิลปวัฒนธรรม ซึ่งอาจจะทำในรูปแบบของห้องสมุดดิจิทัล ศูนย์ฝึกอบรมด้านศิลปวัฒนธรรม โรงภาพยนตร์ 4 มิติ เป็นต้น รวมทั้งให้ไปศึกษารูปแบบการดำเนินการพัฒนาศูนย์วัฒนธรรมของประเทศต่างๆ อาทิ จีน เกาหลีใต้ สิงคโปร์ ฮ่องกง
ทั้งนี้ ได้ให้นำผลสรุปจากการประชุมระดมความคิดเห็น รวมถึงผลศึกษารูปแบบจากประเทศต่างๆ มาใช้ประกอบการพิจารณาในการออกแบบ เพื่อให้โครงการมีความทันสมัย มีความเป็นสากลและใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ หลังจากนั้นจะมีการประกวดแบบแนวคิดโครงการระยะที่ 2 ทั้งนี้ โครงการระยะที่ 2 ตั้งเป้าหมายจะก่อสร้างให้แล้วเสร็จในปี 2567 ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์การแสดงและการแลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรมระดับโลกในอนาคต