กรุงเทพฯ--16 ธ.ค.--124 คอมมิวนิเคชั่นส
รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา มั่นใจ ”เขาค้อ” แหล่งท่องเที่ยวมีศักยภาพ เดินทางสะดวก เที่ยวได้ตลอดปี ด้านเอกชนเสนอเพิ่มงบพัฒนา ดันขึ้นแท่นสถานที่ท่องเที่ยวระดับชาติ
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา- จากการหารือร่วมกันระหว่าง นายประชา มาลีนนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กับผู้ประกอบการโรงแรมและ รีสอร์ทขนาดใหญ่ใน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ประกอบด้วย นายพงษ์พันธ์ สัมภวคุปต์ ประธานกรรมการบริหารโครงการไพน์ เมาท์เทน รีสอร์ท นายเมทนี บูรณศิริ ประธานบริหารโครงการ เมทนีดล นางสาวอร โรจนเสถียร กรรมการบริหารโครงการชีวาศรม นายจุลพงษ์ คุ้นวงษ์ ประธานบริหารโครงการไร่บีเอ็น นายศักดิ์ชาย อยู่วิทยา ตัวแทนจากภูเพชร รีสอร์ท และนายธรรมจักร เหลืองประเสิรฐ กรรมการบริหารโรงแรมอิมพีเรียล ภูแก้ว พร้อมตอกย้ำแหล่ง Unseen Thailand แห่งใหม่ ที่ประชุมได้ข้อสรุปร่วมกันว่า อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งของประเทศไทยที่ควรได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ
เนื่องจากเขาค้อเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีศักยภาพสูง โดยมีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามเป็นธรรมชาติ มีภูมิอากาศที่สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี มีความสะดวกและมีระยะทางไม่ไกลนักจากกรุงเทพ หรือพื้นที่ทางภาคเหนือและภาคตะวันออก
อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการภาคเอกชนเห็นว่า ปัจจุบันงบประมาณที่หน่วยงานภาครัฐจัดสรรให้สำหรับการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ อยู่ในอัตราที่น้อยมาก ส่งผลให้การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวต่างๆเป็นไปได้ยากและเกิดความเสื่อมโทรม ขณะที่สนามบิน จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งถือเป็นสนามบินที่มีความพร้อมแห่งหนึ่งในประเทศ และน่าจะเป็นช่องทางที่ช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว ก็ไม่มีการใช้ประโยชน์โดยในปัจจุบันไม่มีสายการบินลงจอด
นายพงษ์พันธ์ สัมภวคุปต์ ประธานบริหาร บริษัท แกรนด์ แอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ทางบริษัทฯ และกลุ่มผู้ประกอบการได้ผนึกกำลังกันเพื่อชี้แจงถึงศักยภาพในการท่องเที่ยวของเขาค้อ เนื่องจากเขาค้อมีคุณลักษณะหลากหลายที่สามารถผลักดันให้เกิดการท่องเที่ยว อาทิ สภาพอากาศที่หนาวและเย็นสบายตลอดทั้งปี มีความงดงามตามธรรมชาติด้วยขุนเขาจนถูกขนานนามให้เป็นสวิสเซอร์แลนด์ของเมืองไทย มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานตั้งแต่อาณาจักรศรีเทพ ตลอดจนถึงอนุสรณ์การสู้รบและปราบปรามลัทธิคอมมิวนิสต์ โดยการส่งเสริมและผลักดันการท่องเที่ยวเขาค้อ จะเป็นการเพื่อกระจายรายได้สู่คนในพื้นที่อีกด้วย”
นายเมทนี บูรณศิริ ตัวแทนจากโครงการเมทนีดล กล่าวว่า”เขาค้อมีศักยภาพและสิ่งดึงดูดในการมาท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นทัศนียภาพที่สวยงาม นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งที่พบ”แมงกะพรุนน้ำจืด” ซึ่งเป็นแหล่งเดียวในประเทศไทย และเป็นเพียงไม่กี่แห่งในโลกอีกด้วยซึ่งน่าจะถูกบันทึกให้อยู่ใน “Unseen Thailand” ได้”
ทั้งนี้หน่วยงานภาครัฐควรให้งบประมาณการส่งเสริมการท่องเที่ยวทั้งในเรื่องการโฆษณาประชาสัมพันธ์เขาค้อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ และควร ปรับปรุงบำรุงรักษาและพัฒนาสถานที่ท่องเที่ยวเดิม อาทิ พระตำหนักเขาค้อ เจดีย์พระบรมสารีริกธาตุฯ พิพิธภัณฑ์อาวุธ (ฐานอิทธิ) อนุสรณ์สถานผู้เสียสละเขาค้อ อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง (หนองแม่นา) น้ำตกศรีดิษฐ์ เป็นต้น ซึ่งในรายละเอียดของการดำเนินการ ควรทำการจัดตั้งคณะทำงานเพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวใน อ.เขาค้อ
นอกจากนั้น ควรมีการสนับสนุนงบประมาณ เพื่อส่งเสริมการปรับภาพลักษณ์ของ อ.เขาค้อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ และบรรจุ อ.เขาค้อลงในแผนส่งเสริมการท่องเที่ยวหลักของประเทศ เชื่อว่าภายหลังจากมีการดำเนินการดังกล่าว อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ที่จะสร้างรายได้ให้กับประเทศด้วยเช่นกัน
ข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
อินทิรา ใจอ่อนน้อม
ม.ล. ฉัตรามณี เกษมศรี
คชภพ สงวนวงศ์
บริษัท 124 คอมมิวนิเคชั่นส จำกัด (มหาชน)
โทร. 02-662-2266--จบ--