กรุงเทพฯ--20 มี.ค.--กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
กระทรวงแรงงาน โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน วอนสถานประกอบกิจการปฏิบัติต่อลูกจ้างผู้ติดเชื้อเอชไอวี อย่างถูกต้องไม่เลือกปฏิบัติและพร้อมให้ความช่วยเหลือ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของลูกจ้าง
นายสุเมธ มโหสถ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ( กสร. ) กล่าวว่า กสร.ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของปัญหาลูกจ้างผู้ติดเชื้อเอชไอวีในสถานประกอบกิจการ ที่ส่งถึงผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของตัวลูกจ้างและผลประกอบการของสถานประกอบกิจการ รวมถึงส่งผลต่อการพัฒนาสังคม เศรษฐกิจ และความมั่นคงของประเทศด้วย ซึ่งปัญหาที่ประสบคือ ลูกจ้างมีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ ลูกจ้างที่ติดเชื้อเอชไอวีถูกรังเกียจและไม่ได้รับความช่วยเหลืออย่างถูกต้อง กสร. จึงขอความร่วมมือสถานประกอบกิจการทำความเข้าใจกันระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง ให้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างเหมาะสม นายจ้างต้องปฏิบัติต่อลูกจ้างผู้ติดเชื้อเอชไอวีอย่างถูกต้องและพร้อมให้ความช่วยเหลือ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของลูกจ้าง ทั้งนี้ เพื่อสร้างหลักประกันให้กับสถานประกอบกิจการได้มีกลไกการป้องกันและการจัดการ ที่จะลดผลกระทบ เรื่องเอดส์อย่างเหมาะสมสอดคล้องกับแนวปฏิบัติของสากลบนพื้นฐานกรอบการทำงานที่มีคุณค่าและมีศักดิ์ศรีในการทำงาน
อธิบดี กสร. กล่าวเพิ่มเติมว่า การที่ลูกจ้างผู้ติดเชื้อเอชไอวีจะอยู่ร่วมกันในสถานประกอบกิจการ ได้อย่างเหมาะสมนั้น นายจ้างควรส่งเสริมและสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับลูกจ้างทุกคน เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีการแพร่กระจายของเชื้อเอชไอวี ตามหลักวิทยาศาสตร์และระบายวิทยา รวมถึงให้ลูกจ้างได้ทำงานตามปกติในตำแหน่งงานและลักษณะงานที่เหมาะสมสำหรับผู้ติดเชื้อที่ยังทำงานได้ และส่งเสริมสิทธิในการรักษาความลับส่วนบุคคล เพื่อสถานประกอบกิจการจะไม่สูญเสียบุคลากรที่มีคุณภาพ ทักษะและประสบการณ์ในการทำงาน และก่อให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีของสถานประกอบกิจการที่มีต่อสังคมในการส่งเสริมให้ลูกจ้างมีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีศักยภาพเพียงพอที่จะสนับสนุนขีดความสามารถในการแข่งขัน ของประเทศอันจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติโดยส่วนรวม