กรุงเทพฯ--21 มี.ค.--โทเทิล ควอลิตี้ พีอาร์
· บริษัทนวัตกรรมน้ำข้ามชาติที่พัฒนาลากูนน้ำใสประดุลคริสตัล มีโครงการมากกว่า 600 โครงการและจดสิทธิบัตรเทคโนโลยีแล้วใน 190 ประเทศทั่วโลก
· โครงการของบริษัทข้ามชาตินี้มีจำนวนเพิ่มขึ้นกว่า 50% จากปีที่แล้ว จากการขยายตัวและการเติบโตอย่างรวดเร็ว
· บริษัทผู้พัฒนาลากูนน้ำใสประดุจคริสตัลนี้นำไลฟ์สไตล์ราวกับการอยู่ริมชายหาดอันงดงามสู่ทุกพื้นที่ทั่วโลก มอบความเพลินเพลินผ่านกิจกรรมทางน้ำให้กับผู้คน เช่น ว่ายน้ำ พายเรือคายัค พายเรือแพดเดิ้ลบอร์ดและอื่นๆ โดยมีค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างและบำรุงรักษาที่ต่ำ
คริสตัล ลากูนส์ บริษัทนวัตกรรมน้ำข้ามชาติที่ได้รับการขนานนามอย่างกว้างขวางว่าเป็น "สิ่งอำนวยความสะดวกระดับโลก"ปิดท้ายปี 2559 ด้วยโครงการมากกว่า 600 โครงการซึ่งอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาและขั้นตอนการเจรจาที่แตกต่างกันไปใน 60 ประเทศ ตัวเลขนี้ชี้ให้เห็นถึงการเติบโตถึง 50% เมื่อเทียบกับตัวเลข 400 โครงการที่บริษัทมีในช่วงต้นปี นอกจากนี้ บริษัทยังประสบความสำเร็จในการจดสิทธิบัตรเทคโนโลยีใหม่นี้ใน 190 ประเทศในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งในภายหลังชี้ให้เห็นถึงการเติบโตเกือบ 36% จากจำนวนสิทธิบัตร 160 เล่มที่บริษัทมีในช่วงต้นปี 2559
คริสตัล ลากูนส์ยังคงเดินหน้าเพิ่มมูลค่าและรับประกันความสำเร็จของอสังหาริมทรัพย์ในทวีปเอเชียด้วย 20 โครงการซึ่งอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาที่แตกต่างกันไป ในปัจจุบัน มีโครงการที่เปิดดำเนินการแล้วจำนวน 2 โครงการ หนึ่งในนั้นคือ โครงการ "บินตัน เทรชเชอร์ เบย์" (Bintan Treasure Bay) ในประเทศอินโดนีเชีย และอีกโครงการหนึ่งในอำเภอหัวหิน ประเทศไทย
ในปี 2560 บริษัทวางแผนที่จะเซ็นสัญญาอย่างน้อยสองโครงการในประเทศไทย เกาหลีใต้และมาเลเชีย สามโครงการในประเทศเวียดนามและหนึ่งโครงการในประเทศอินโดนีเชีย
มร. ไฮเม่ ริเวร่า ผู้อำนวยการภูมิภาคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท คริสตัล ลากูนส์ กล่าวถึงทิศทางของบริษัทในประเทศไทยว่า "คริสตัล ลากูนส์ได้ยืนยันที่จะลงทุนในประเทศไทย โดยจะพัฒนา 15 โครงการในอีก 3 ปีข้างหน้า มูลค่าการลงทุน 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 7 หมื่นล้านบาท) ในเมืองต่างๆ เช่น กรุงเทพฯ ภูเก็ต ชลบุรี และสัตหีบ"
คริสตัล ลากูนส์มีโครงการในทวีปลาตินอเมริกา จำนวน 87 โครงการซึ่งอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาที่แตกต่างกันไป ด้วยมูลค่าการลงทุนรวม 12.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 4 แสนล้านบาท) โดยมีโครงการในประเทศชิลี 28 โครงการ อาร์เจนตินา 11 โครงการ และ 5 โครงการในเปรู รวมไปถึงอีกหลายโครงการในประเทศบราซิล อุรุกวัย ปารากวัย คอสตาริกา โบลิเวีย เอกวาดอร์ กัวเตมาลา ปานามา และโดมินิกัน
โครงการพัฒนาของคริสตัล ลากูนส์ที่โดดเด่นมากที่สุดในระดับโลกของปี 2559 ได้แก่ "โบทานิกา" (Botanica) ในประเทศออสเตรเลีย "เบย์ไซด์" (Bayside) ในประเทศสหรัฐอเมริกา "สเตลลา ดิ แมร์" (Stella Di Mare) และ "อิล มงเต้ กาลาลา ซอคห์นา" (Il Monte Galala-Sokhna) ในประเทศอียิปต์ และสองโครงการพัฒนาล่าสุดในทวีปแอฟริกาจะมีลากูนน้ำใสประดุจคริสตัลที่แสนยอดเยี่ยมถึง 6 ลากูนในพื้นที่ขนาด 4 เฮคเตอร์ (หรือ 25 ไร่) ซึ่งรวมถึงชายหาดสีขาวบริสุทธิ์ที่ทอดยาวเป็นระยะทาง 3 กิโลเมตรที่จะมาเป็นส่วนหนึ่งของทิวทัศน์ที่สวยงามของสถานที่แห่งนี้
คริสตัล ลากูนส์เป็นบริษัทเดียวในโลกที่นำเสนอเทคโนโลยีในการพัฒนาลากูนน้ำใสประดุจคริสตัลขนาดใหญ่และคุ้มค่าในการลงทุน เหมาะสมเพื่อการว่ายน้ำและเล่นกีฬาทางน้ำอื่นๆ ลากูนขนาดใหญ่เหล่านี้เป็นสิ่งอำนวยความสะดวกที่สำคัญต่อโครงการอสังหาริมทรัพย์และการท่องเที่ยวทุกมุมโลก เนื่องจากช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับพื้นที่และส่งผลเชิงบวกให้กับอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลก
คริสตัล ลากูนส์ ได้พัฒนาระบบกรองน้ำอัลตราซาวด์ซึ่งใช้พลังงานน้อยกว่าระบบกรองแบบเดิมถึง 2% และใช้ปริมาณน้ำที่ต่ำมาก โดยเทียบเป็น 30 เท่าน้อยกว่าสนามกอล์ฟและครึ่งหนึ่งของสวนสาธารณะที่มีขนาดเดียวกัน ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยเทคโนโลยีของ คริสตัล ลากูนส์ จึงสามารถนำน้ำทุกประเภทมาใช้ในลากูนได้ ไม่ว่าจะเป็น น้ำจืด น้ำเค็ม หรือน้ำกร่อยก็ตาม มีการใช้น้ำจากชั้นหินอุ้มน้ำใต้ดินในทะเลทราย หรือน้ำประเภทอื่นๆ ที่นำไปใช้ในทางเลือกอื่นๆ ไม่ได้ คริสตัล ลากูนส์ใช้เทคโนโลยีที่มีความยั่งยืนและใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
จนถึงตอนนี้ คริสตัล ลากูนส์ ได้รับการบันทึกสถิติจากกินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ดส์ 2 ครั้งว่าเป็นลากูนน้ำใสประดุจคริสตัลที่สร้างโดยมนุษย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก จากโครงการ ซาน อัลฟองโซ เดล มาร์ (San Alfonso del Mar) ในประเทศชิลี และโครงการที่ชาร์ม เอล ชีค (Sharm El Sheikh) ประเทศอียิปต์ ที่ตอนนี้ทำลายสถิติเป็นลากูนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยขนาด 12.5 เฮกตาร์ (หรือ 76.25 ไร่)