กรุงเทพฯ--21 มี.ค.--ฟิทช์ เรทติ้งส์
ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศคงอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศ (National Insurer Financial Strength - National IFS) ของบริษัท เอไอเอ จำกัด สาขาประเทศไทย (เอไอเอ ประเทศไทย) ที่ 'AAA(tha)' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต
อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินสะท้อนถึงสถานะทางกฏหมายของเอไอเอ ประเทศไทย ที่มีสถานะเป็นสาขาของ AIA Company Limited (AIACL) ซึ่งเป็นบริษัทหลักในการดำเนินธุรกิจของกลุ่ม AIA Group Limited (AIAGL) โดย AIA Group เป็นกลุ่มบริษัทประกันชีวิตชั้นนำในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค มีการดำเนินธุรกิจใน 18 ประเทศทั่วภูมิภาค และมีสินทรัพย์รวมที่ 185 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2559 (สิ้นปีงบการเงิน 2559)
เอไอเอ ประเทศไทย เป็นผู้นำตลาดประกันชีวิตในประเทศไทยมาเป็นเวลานาน โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาด ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2559 ที่ 21.3% ของเบี้ยประกันชีวิตรับรวมทั้งหมดของอุตสาหกรรม โดยมีปัจจัยสนับสนุนมาจากการที่ เอไอเอ ประเทศไทย มีกรมธรรม์ที่มีผลบังคับใช้อยู่จำนวนมาก เครือข่ายตัวแทนขายที่แข็งแกร่ง ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ และการที่บริษัทมีชื่อเสียงที่ดี ฟิทช์เชื่อว่าการพัฒนาคุณภาพของตัวแทนขาย ผลิตภัณฑ์ และบริการ จะสร้างความแข็งแรงให้กับธุรกิจของ AIA Group อย่างต่อเนื่อง
ความสามารถในการทำกำไรของ AIA Group และ เอไอเอ ประเทศไทย ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง โดย AIAGL มีมูลค่าปัจจุบันของกรมธรรม์ใหม่ (Value of New Business: VONB) เพิ่มขึ้น 28% เป็น 2.8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และอัตรากำไรจากการดำเนินงานหลังหักภาษี (Operating Profit after Tax: OPAT) เพิ่มขึ้น 15% เป็น 4.0 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ณ สิ้นปีงบการเงิน 2559 นอกจากนี้ เอไอเอ ประเทศไทย มีความสามารถในการทำกำไรที่ปรับตัวสูงขึ้นและสอดคล้องกับความสามารถในการทำกำไรของ AIA Group โดย ณ สิ้นปีงบการเงิน 2559 โดย เอไอเอ ประเทศไทย มีอัตรากำไรของมูลค่าปัจจุบันของกรมธรรม์ใหม่ (VONB margin) ที่ปรับตัวสูงขึ้นเป็น 82% และมีอัตรากำไรจากการดำเนินงานหลังหักภาษีเพิ่มขึ้นเป็น 768 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ประเทศไทยเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่เป็นลำดับสาม เมื่อพิจารณาจากสัดส่วน VONB ของ เอไอเอ ประเทศไทย เทียบกับ AIA Group ดังนั้นฟิทช์จึงคาดว่าประเทศไทยจะยังคงเป็นตลาดนอกประเทศจีนที่มีความสำคัญต่อ AIA Group
ฟิทช์เชื่อว่า AIAGL จะยังคงรักษานโยบายการลงทุนที่ระมัดระวัง โดยจัดสรรการลงทุนส่วนใหญ่ในสินทรัพย์ตราสารหนี้ที่มีความมั่นคง (quality fixed-income)
เอไอเอ ประเทศไทย ยังสามารถรักษาโครงสร้างเงินกองทุนที่แข็งแรงได้ต่อเนื่องจากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง โดยสะท้อนจากอัตราส่วนเงินกองทุนต่อเงินกองทุนที่ต้องสำรองตามกฏหมายของประเทศไทย (Risk-based capital) ของ เอไอเอ ประเทศไทยที่ 450% ณ สิ้นเดือนกันยายน 2559 ซึ่งสูงกว่าระดับขั้นต่ำตามเกณฑ์ที่ 140% อยู่มาก
ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต
อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศของ AIA Thailand อยู่ในอันดับเครดิตที่สูงที่สุดแล้ว ดังนั้นจึงไม่สามารถปรับเพิ่มอันดับให้สูงขึ้นได้อีก
การปรับตัวอ่อนแอลงของโครงสร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน (credit profile) ของ AIAGL อาจส่งผลกระทบในเชิงลบต่ออันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ เอไอเอ ประเทศไทย ซึ่งรวมถึงการปรับตัวลดลงอย่างมากของผลการดำเนินงานเป็นเวลาต่อเนื่อง เช่น อัตรากำไรก่อนภาษีเงินได้ต่อสินทรัพย์เฉลี่ยที่ต่ำกว่า 1% (ปีงบการเงิน 2559 : 2.8%) อัตราส่วนหนี้สิน (Financial leverage ratio) สูงกว่า 20% (ปีงบการเงิน 2559 : 9%) และ อัตราส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอันดับเครดิตต่ำกว่าระดับที่สามารถลงทุนได้ต่อส่วนทุน (Below investment-grade bonds/total equity) สูงกว่า 40% (ปีงบการเงิน 2559 : 17%)