กรุงเทพฯ--22 มี.ค.--เจซีแอนด์โค พับลิครีเลชั่นส์
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) เปิดกลยุทธ์การเจาะตลาดเฉพาะกลุ่มให้กับผู้ประกอบการ แนะกลุ่มกลุ่มผู้บริโภคสตรีวัย 18 – 22 ปีเป็นตลาดใหม่ที่น่าสนใจ เนื่องจากมีผู้บริโภคในกลุ่มนี้มีจำนวนกว่า 1.2 ล้านคน มีอัตรากำลังซื้อต่อปีเฉลี่ย 150,000 ล้านบาท และมีพฤติกรรมการใช้จ่ายที่มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมเผยรายชื่อ 5 กลุ่มอุตสาหกรรมที่กำลังมีการเติบโตและเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้บริโภคสตรีวัยนี้ ได้แก่ 1.อุตสาหกรรมด้านอาหารและเครื่องดื่ม 2.อุตสาหกรรมเพื่อความงาม 3.กลุ่มอุตสาหกรรมแฟชั่นเครื่องนุ่งห่ม 4.อุตสาหกรรมเพื่อสุขภาพ และ 5.อุตสาหกรรมด้านไลฟ์สไตล์ โดยยังได้ได้จัดเตรียมศูนย์บริการ โครงการ และกิจกรรมต่างๆสำหรับผู้ประกอบการที่มีความสนใจในการเจาะตลาดเฉพาะกลุ่ม อาทิ ศูนย์บริการธุรกิจอุตสาหกรรม(BSC) โครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด โครงการสร้างและพัฒนาผู้ประกอบการใหม่เชิงสร้างสรรค์และนวัตกรรม
สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจรายละเอียด สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักพัฒนาผู้ประกอบการ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โทรศัพท์ 02-2024521 หรือเข้าไปที่ www.dip.go.th
ดร.พสุ โลหารชุน อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า กลยุทธ์การเจาะตลาดเฉพาะกลุ่ม หรือการจับกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายในวงแคบถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่สำคัญที่จะช่วยส่งเสริมให้การดำเนินอุตสาหกรรมเกิดโอกาสในด้านใหม่ๆเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะการเพิ่ม Market Share หรือ ส่วนครองตลาด ทั้งยังช่วยให้เกิดความได้เปรียบคู่แข่งขันเนื่องจากมีคู่แข่งในตลาดน้อยหรืออาจไม่มีอยู่เลย โดยหนึ่งในตลาดที่กำลังเติบโตและมีความน่าสนใจไม่น้อยคือกลุ่มผู้บริโภคสตรีวัย 18 – 22 ปี หรือกลุ่มนักศึกษาในระดับปริญญาตรีซึ่งในปัจจุบันมีจำนวนไม่น้อยกว่า 1.2 ล้านคน (ที่มา : สารสนเทศอุดมศึกษา) มีอัตรากำลังซื้อคิดเป็นมูลค่าการตลาดได้กว่า150,000 ล้านบาทต่อปี และมีพฤติกรรมการใช้จ่ายที่มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับการเข้าถึงตลาดและการจับผู้บริโภคในกลุ่มนี้นับเป็นโอกาสทางการดำเนินธุรกิจหรืออุตสาหกรรมที่สำคัญโอกาสหนึ่ง เนื่องจากกลุ่มดังกล่าวเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่ยังไม่ได้มีพฤติกรรมการจงรักภักดีต่อแบรนด์ มีการตัดสินใจในการเลือกซื้อสินค้าอย่างรวดเร็ว สามารถสร้างความประทับใจและต่อยอดถึงการเพิ่มโอกาสในการจดจำสินค้าได้ เริ่มตั้งแต่เมื่อเข้าสู่วัยทำงาน การมีครอบครัว จนถึงระยะยาวในอนาคตต่อไป โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่กำลังมีการเติบโตและเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้บริโภคสตรีวัย 18 – 22 ปี ได้แก่
1.อุตสาหกรรมด้านอาหารและเครื่องดื่ม ปัจจุบันผู้บริโภคในกลุ่มสตรีล้วนให้ความสำคัญกับอาหารและและเครื่องดื่มจนอาจเรียกได้ว่าเป็นสิ่งจำเป็นอันดับหนึ่งในการจับจ่ายใช้สอยในชีวิตประจำวัน โดยสิ่งที่มีอิทธิพลสำหรับผู้บริโภคในกลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะมาจากปัจจัยด้านแรงจูงใจ และปัจจัยทางสังคม ไม่ว่าจะเป็น โฆษณาชวนเชื่อ กิจกรรมส่งเสริมการขาย ทัศนคติที่ไปในทิศทางเรื่องความสวยความงาม พฤติกรรมการบอกต่อ รวมทั้งกระแสนิยมตามกลุ่มผู้บริโภคในสังคม สำหรับกลุ่มอาหารที่มีแนวโน้มและโอกาสในการเติบโตในกลุ่มผู้บริโภคดังกล่าวนี้ ได้แก่ อาหารตามกระแสนิยม อาหารและเครื่องดื่มที่มีผลต่อรูปร่างและความสวยความงาม อาหารและเครื่องดื่มที่ให้พลังงานทดแทน รวมทั้งขนมขบเคี้ยวที่ดีต่อสุขภาพและนวัตกรรมใหม่ๆ ทั้งนี้ อาจกล่าวได้ว่าสิ่งที่ยิ่งแปลกหรือแตกต่างจากผลิตภัณฑ์ทั่วไปยิ่งมีอิทธิพลต่อผู้บริโภคในกลุ่มดังกล่าวนี้ค่อนข้างสูง
2.อุตสาหกรรมเพื่อความงาม สำหรับสินค้าในด้านนี้เป็นกลุ่มสินค้าที่ผู้บริโภคในกลุ่มดังกล่าวยินยอมจ่ายเทียบเท่ากับอาหารและเครื่องดื่มอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากในวัยนี้เป็นวัยที่ให้ความสำคัญกับเรื่องความสวยความงาม ชอบแสวงหาสิ่งที่ทำให้รูปลักษณ์ของตนเองดูดีและมีระดับในสายตาของคนรอบข้างอย่างมาก โดยสิ่งที่มีอิทธิพลกับพฤติกรรมต่อการเลือกซื้อสินค้าในกลุ่มนี้ได้แก่ โฆษณาชวนเชื่อโดยเฉพาะในสื่อออนไลน์ การเลือกใช้ตามบุคคลที่มีชื่อเสียง กิจกรรมส่งเสริมการขาย รูปแบบของผลิตภัณฑ์ รวมทั้งแบรนด์สินค้า สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ผู้บริโภคในกลุ่มนี้ให้ความนิยมในการเลือกซื้อและมีแนวโน้มในการเติบโตและการแข่งขันสูงได้แก่ กลุ่มเครื่องสำอางเพื่อการตกแต่งใบหน้า กลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลผิวพรรณ กลุ่มน้ำหอม และกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม
3.กลุ่มอุตสาหกรรมแฟชั่น เป็นที่ทราบดีว่าผู้บริโภคกลุ่มเพศหญิงจะมีพฤติกรรมการซื้อสินค้าแฟชั่นเข้ามากกว่าผู้บริโภคกลุ่มเพศชาย โดยสินค้าแฟชั่นนับเป็นสินค้าที่มีอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิตมากที่สุดอีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งเป็นส่วนที่ช่วยส่งเสริมให้กลุ่มผู้บริโภคในกลุ่มนี้ดูมีความทันสมัย เรียกความสนใจได้จากบุคคลรอบข้าง สำหรับสิ่งที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าในกลุ่มนี้ได้แก่ รูปแบบที่ทันสมัย ตราสินค้าโดยเฉพาะค่านิยมเรื่องแบรนด์เนม การโฆษณาตามช่องทางต่างๆ ทั้งนี้แฟชั่นถือเป็นสิ่งที่มีระยะเวลาไม่ยาวนานนัก มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ดังนั้นผู้ประกอบการจึงต้องหมั่นศึกษากระแสในสังคม รวมทั้งพฤติกรรมของผู้บริโภคในกลุ่มนี้ที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งหากสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้มากก็ยิ่งได้เปรียบคู่แข่งที่มีอยู่ได้สูงขึ้นตามไปด้วย
4.อุตสาหกรรมเพื่อสุขภาพ การมีสุขภาพที่ดีและรูปร่างที่สวยงามถือเป็นหนึ่งในความต้องการอันดับต้นๆของกลุ่มสตรี ในระยะหลายปีที่ผ่านมานั้นกลุ่มผู้บริโภคในกลุ่มนี้ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าวอย่างจริงจังจนทำให้แนวโน้มการผลิตและการอุปโภคบริโภคสินค้าที่ดีต่อสุขภาพจึงเพิ่มขึ้นตามมาอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจด้านเสื้อผ้าเพื่อสุขภาพ การบริการด้านการออกกำลังกาย วิตามินและอาหารเสริมสุขภาพชนิดต่างๆ เป็นต้น ซึ่งในอนาคตสินค้าในกลุ่มนี้มีโอกาสที่จะกลายเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวัน ผู้ประกอบการจึงควรศึกษาพฤติกรรมและความต้องการเพื่อผลิตสินค้ารูปแบบใหม่ๆ ให้ตอบสนองผู้บริโภคโดยเฉพาะในสังคมเมือง ซึ่งจะทวีสูงมากขึ้นในอนาคต
5.อุตสาหกรรมด้านไลฟ์สไตล์ สินค้าไลฟ์สไตล์หรือสินค้าประเภทอุปกรณ์เสริมเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของกลุ่มสตรีวัยนี้ โดยผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ที่ผู้บริโภคยินยอมจ่ายจะเป็นสินค้าประเภทที่มีความแปลก โดดเด่นไม่ต้องการเหตุผลในการเลือกซื้อ และสะท้อนถึงตัวตนของบุคคล อาทิ ของขวัญของชำร่วย เครื่องประดับ อุปกรณ์เสริมโทรศัพท์ สำหรับการทดลองตลาดและศึกษาแนวทางในอุตสาหกรรมด้านนี้ถือว่ามีความน่าสนใจไม่น้อยเนื่องจากเป็นอีกหนึ่งโอกาสที่จะช่วยผลักดันให้เกิดธุรกิจใหม่ๆในอนาคต
อย่างไรก็ดี กสอ.ได้จัดเตรียมศูนย์บริการและโครงการต่างๆสำหรับผู้ประกอบการที่มีความสนใจในการเจาะตลาดเฉพาะกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นศูนย์บริการธุรกิจอุตสาหกรรม (BSC) ที่ให้บริการทั้งในด้านข้อมูลตั้งแต่เริ่มต้นธุรกิจ การวินิจฉัยและวิเคราะห์สภาพปัญหา ตลอดจนการพัฒนาทักษะบุคลากรและผู้ประกอบการอย่างเต็มรูปแบบ พร้อมด้วยกิจกรรมและโครงการต่างๆเพื่อบูรณาการ SMEsในปี 2560 กว่า 10 โครงการ ด้วยงบประมาณกว่า 460 ล้านบาท อาทิ กิจกรรมส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมรายสาขา โครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด โครงการสร้างและพัฒนาผู้ประกอบการใหม่เชิงสร้างสรรค์และนวัตกรรม โครงการพัฒนาอุตสาหกรรมแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ เป็นต้น
สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจรายละเอียด สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักพัฒนาผู้ประกอบการ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โทรศัพท์ 02-2024521 หรือเข้าไปที่ www.dip.go.th