TWPC ส่งซิกผลงาน Q1/60 สดใส เข้าสู่ช่วง High-season ย้ำเป้าแผนธุรกิจในปีนี้ ขึ้นแท่นผู้นำธุรกิจในกลุ่มประเทศ CLMV

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday March 23, 2017 17:00 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--23 มี.ค.--IR network "โฮ เรน ฮวา" บิ๊กบอส TWPC ส่งซิกแนวโน้มผลงานในไตรมาส 1/2560 สดใส รับอานิสงส์เข้าสู่ช่วง High-season ของธุรกิจ ประกอบกับความต้องการของตลาดที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมย้ำเป้าแผนธุรกิจในปี 2560 ขึ้นแท่นสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจในภูมิภาคโดยเฉพาะกลุ่ม CLMV ระบุปัจจุบันได้เข้าไปเริ่มทำธุรกิจในกัมพูชาและเวียดนามแล้ว แย้มอยู่ระหว่างมองหาช่องทางการขยายการลงทุนไปในพม่าและลาวเพิ่มเติม นายโฮ เรน ฮวา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) (TWPC) เปิดเผยถึง แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2560 คาดว่าจะสามารถเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 4/2559 เนื่องจากเป็นช่วง High-season ของการดำเนินธุรกิจ ประกอบกับความต้องการของตลาดที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงคาดว่าจะเป็นปัจจัยหลักที่สนับสนุนให้ผลการดำเนินงานสามารถเติบโตต่อเนื่องได้ "ส่วนความคืบหน้าโรงงานแป้งมันสำปะหลังในประเทศกัมพูชา และโรงงานวุ้นเส้นในประเทศ คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จและสามารถเริ่มดำเนินการผลิตได้ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2560 ซึ่งเราเชื่อมั่นว่าจะเป็นอีกปัจจัยหลักสำคัญที่เข้าช่วยสนับสนุนการเติบโตของบริษัทฯ ส่งผลทำให้คาดว่าผลการดำเนินงานของปีนี้จะสามารถเติบโตได้ต่อเนื่องจากปีก่อน ซึ่งมีการเติบโตของรายได้และกำไรสูงสุดประวัติการณ์" นายโฮ เรน ฮวา กล่าว ทั้งนี้ แผนการดำเนินธุรกิจในปี 2560 บริษัทฯ วางเป้าหมายสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจในภูมิภาคโดยเฉพาะกลุ่มประเทศ CLMV ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ ได้เข้าไปเริ่มทำธุรกิจในประเทศกัมพูชาและประเทศเวียดนามแล้ว และอยู่ระหว่างมองหาช่องทางการขยายการลงทุนไปในประเทศเมียนมาร์และลาว พร้อมทั้งกระจายการลงทุนสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ หรือ High Value-Added มากขึ้น เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในแต่ละประเทศในอนาคต โดยบริษัทฯ วางงบลงทุนในระยะเวลา 3 ปีข้างหน้าไว้ประมาณ 1,000 - 2,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายธุรกิจ เสริมสร้างศักยภาพการเติบโตให้แข็งแกร่งและมั่งคงในระยะยาว และมุ่งมั่นสร้างผลตอบแทนที่ดีต่อผู้ถือหุ้นต่อไป อนึ่ง ผลประกอบการประจำปี 2559 บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 6,163 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 669 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54% จากปีก่อน อีกทั้งฐานะการเงินของบริษัทฯ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2559 มีเงินสดและเงินลงทุน รวมจำนวน 1,757 ล้านบาท และมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (Financial Debt to Equity ratio : D/E) เท่ากับ 0.03 เท่า ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับต่ำ สะท้อนให้เห็นว่าบริษัทฯ มีศักยภาพในการขยายการลงทุนได้อีกมากในอนาคต นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทฯ ยังมีมติจ่ายเงินปันผลสำหรับงวดผลการดำเนินงานในปี 2559 ในอัตรา 0.30 บาท/หุ้น โดยได้มีอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตรา 0.09 บาท/หุ้นไปเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2558 และกำหนดจ่ายเงินปันผลอีกครั้ง ในวันที่ 19 พฤษภาคม 2560 ให้ผู้ถือหุ้นที่จะชื่อปรากฏ ณ วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date) ในวันที่ 2 พฤษภาคม 2560 และวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 27 เมษายน 2560

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ