PTG ตั้งเป้าวอลุ่มขายโต 30-40% ขึ้นแท่นจำนวนปั๊มน้ำมันเบอร์ 1 ทุ่ม 5,000 ลบ.ลุยขยายธุรกิจพลังงานครบวงจร

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday March 23, 2017 17:30 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--23 มี.ค.--เดอะเวย์ คอมมิวนิเคชั่น "พีทีจี เอ็นเนอยี" เดินหน้าเติบโตต่อเนื่อง ตั้งเป้าปริมาณขายโต 30-40% ขึ้นแท่นจำนวนปั๊มน้ำมันเบอร์ 1 ขยายสถานีบริการน้ำมันครบ 1,800 สาขา ทุ่มงบลงทุน 5,000 ลบ. ก้าวสู่ผู้นำธุรกิจบริการด้านพลังงานแบบครบวงจร นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทฯตั้งเป้าปริมาณการขายเพิ่มขึ้นราว 30-40% เมื่อเทียบกับปี 2559 ที่มีปริมาณการขายรวมอยู่ที่ 2.9 พันล้านลิตร โดยบริษัทฯวางงบลงทุนมูลค่า 5,000 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนในการขยาย และปรับปรุงธุรกิจหลัก 3,500 ล้านบาท ธุรกิจ Non-oil 500 ล้านบาท และธุรกิจใหม่ 1,000 ล้านบาท ในส่วนของสถานีบริการน้ำมัน ปัจจุบันเรามีจำนวนกว่า 1,400 สาขา ภายในสิ้นปีนี้เราตั้งเป้าว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 1,800 สาขาทั่วประเทศ อีกทั้งยังมุ่งเพิ่มจำนวนผู้ถือบัตร PT Max Card เป็น 7.4 ล้านสมาชิก เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ที่มีจำนวน 5.6 ล้านสมาชิก ด้านกลุ่มธุรกิจ นอน-ออยล์ (Non-Oil) นำโดยกาแฟพันธุ์ไทยจะมีสาขาครบ 100 สาขา ในกลางปีนี้ และจะเพิ่มจำนวนขึ้นเป็น 200 สาขาทั่วประเทศ ภายในสิ้นปี 2560 ซึ่งจะไม่ได้จำกัดพื้นที่แค่เพียงในสถานีบริการน้ำมันเท่านั้น แต่เราจะขยายไปตามห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า มหาวิทยาลัย และสนามบินต่างๆ เพื่อทำให้เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น ตลอดจนเพิ่มจำนวนร้านแม็กซ์ มาร์ท (Max Mart) เป็น 140 สาขาทั่วประเทศ รวมถึงน้ำมันเครื่องคุณภาพสูง ภายใต้แบรนด์ PT Maxnitron ที่กำลังจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไตรมาส 1 นี้ โดยตั้งเป้ายอดขายที่ 5 ล้านลิตร ในปี 2560 ในขณะที่การลงทุนในโครงการอุตสาหกรรมปาล์ม คอมเพล็กซ์ (Palm Complex) ที่ล่าสุดจะสามารถเริ่มกระบวนการผลิตไบโอดีเซลได้เต็มรูปแบบในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้แล้ว ธุรกิจที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งที่จะเข้ามาเสริมก็คือเอทานอล ล่าสุดได้ประกาศจับมือกับบริษัท เอี่ยมบูรพา จำกัด ก่อสร้างโรงงานผลิตเอทานอลจากกากมันสำปะหลัง ซึ่งมีกำลังผลิต 2 แสนลิตรต่อวัน มูลค่าการลงทุน 1.5 พันล้านบาท ผ่านบริษัทร่วมทุน "อินโนเทค กรีน เอ็นเนอยี" ซึ่งพีทีจีถือหุ้น 60% โดยใช้เทคโนโลยีของ "ซัปโปโร โฮลดิ้ง" จากประเทศญี่ปุ่น เพื่อใช้เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ช่วยลดต้นทุน เสริมศักยภาพการทำกำไรในระยะยาว นอกจากนี้ การลงทุนในบริษัท อาม่า มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ AMA ผู้เชี่ยวชาญในการให้บริการขนส่งสินค้าเหลวทางทะเลและทางบก ซึ่งเข้ามาช่วยเพิ่มศักยภาพด้านการบริหารจัดการระบบขนส่งให้ได้ประโยชน์สูงสุด และยังสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่บริษัททั้งในปัจจุบัน และอนาคต "ในปี 2560 เราตั้งเป้าที่จะขยายสาขาให้เป็น 1,800 สาขา ซึ่งถ้าสามารถขยายสถานีบริการตามที่วางเป้าหมายไว้ เราจะขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของจำนวนสถานีบริการน้ำมัน รวมถึงเป้าหมายในการเพิ่มปริมาณการขายที่ 30-40% นั้น จะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ส่วนแบ่งการตลาดของเราเพิ่มขึ้น รวมถึงธุรกิจนอน-ออยล์ และธุรกิจด้านพลังงานอื่นๆ เราก็มีแผนที่จะขยายอย่างต่อเนื่องเพื่อความเป็นหนึ่งในการเป็นผู้ให้บริการด้านพลังงานอย่างครบวงจร" นายพิทักษ์กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ