กรุงเทพฯ--24 มี.ค.--โอกิลวี่ พับลิค รีเลชั่นส์
ซาโต้ ผู้นำของโลกด้านโซลูชั่นออโต้ไอดีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานขององค์กรและผู้ผลิต ประกาศลงทุนทำวิจัยด้านคลินิกครั้งแรกเกี่ยวกับป้ายที่ใช้เทคโนโลยี UHF RFID ร่วมกับโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยมี (Mie University) ของญี่ปุ่น เพื่อพัฒนาสายรัดข้อมือที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ป่วยที่มีความปลอดภัย พร้อมช่วยลดปริมาณงานของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลและผู้ป่วย
โดยในขั้นแรก ทั้งสองจะร่วมกันวิจัยผลกระทบจากเครื่องอ่าน UHF RFID แบบพกพาที่มีต่ออุปกรณ์การแพทย์ที่ฝังในตัวผู้ป่วย เช่น เครื่องกระตุ้นคลื่นไฟฟ้าหัวใจ โดยการทำวิจัยด้านคลินิกในครั้งนี้จะครอบคลุมผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยมีที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป โดยจะเริ่มวิจัยตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม 2559 – 31 ธันวาคม 2561
ระบบบาร์โค้ดที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยมีใช้อยู่ในปัจจุบันนั้น เป็นการจัดการข้อมูลเกี่ยวกับการให้ยาแก่ผู้ป่วย การเก็บตัวอย่างเลือด โดยมีการครวจสอบข้อมูลถึง 3 จุด โรงพยาบาลต้องการพัฒนาระบบเพื่อปิดจุดอ่อนของระบบเช่น การที่ต้องปลุกผู้ป่วยขึ้นมากลางดึก หรือการที่เครื่องอ่านไม่สามารถอ่านข้อมูลได้อย่างสมบูรณ์หรือคลาดเคลื่อนจากความจริงเป็นครั้งคราว เนื่องจากสายรัดข้อมือหักพับ ทำให้อ่านข้อมูลไม่ได้หรือไม่ถูกต้อง
การนำป้าย UHF RFID ของซาโต้เฮลท์แคร์มาใช้ จะทำให้สามารถเรียกดูข้อมูลได้ในระบบทางไกล ทำให้ไม่จำเป็นต้องหยิบจับเครื่องอ่านโดยตรง ในการทดสอบการใช้เครื่องก่อนที่จะเริ่มมีการวิจัยชิ้นนี้ พบว่าสามารถเรียกดูข้อมูลได้สะดวกแม้ว่าจะมีสิ่งกีดขวางระหว่างตัวเครื่องอ่านและชิปที่บันทึกข้อมูล เช่น มีผ้าห่มคลุมตัวผู้ป่วย เป็นต้น ดังนั้นการวิจัยชิ้นนี้จะช่วยทำให้สามารถเรียกดูและยืนยันข้อมูลเกี่ยวกับผู้ป่วยได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว
นอกจากนี้ ป้ายและสายรัดข้อมือแบบ UHF RFID ยังมีต้นทุนต่ำกว่าป้ายแบบ HF และมีระยะห่างที่สามารถอ่านข้อมูลจากป้ายได้ไกลกว่า จากรายงานของกระทรวงกิจการภายในและการสื่อสารของญี่ปุ่นเปิดเผยว่าเครื่องอ่านที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ก็จะไม่ส่งผลเสียต่ออุปกรณ์ต่างๆ เช่น เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ (pacemaker) หรือเครื่องกระตุกหัวใจ (defibrillator) ไม่ว่าระยะห่างระหว่างเครื่องอ่านและอุปกรณ์ทางการแพทย์ดังกล่าวจะเป็นเท่าไร
มร. โยชิโนริ อาซูมิ รองประธานฝ่ายข้อมูลทางการแพทย์ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยมี อธิบายว่า "ป้าย UFH ที่นี่จะให้ตรวจสอบข้อมูลได้ด้วยต้นทุนที่ถูกมาก ทำให้เรามีโอกาสเพิ่มในอนาคต เนื่องจากพยาบาลและเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลจะมีภาระลดลงในการตรวจสอบข้อมูล
"ป้ายผู้ป่วยแบบสายรัดข้อมือจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยสูงสุดให้แก่ผู้ป่วย พร้อมทั้งยังให้ความสะดวกสบายได้อย่างมาก เพราะเครื่องนี้จะสามารถอ่านข้อมูลได้ในระยะไกล ผู้ดูแลผู้ป่วยก็ไม่จำเป็นต้องปลุกหรือย้ายหรือขยับตัวผู้ป่วยโดยไม่จำเป็นเมื่อต้องการอ่านข้อมูลบนป้ายสายรัดข้อมูล ระบบนี้นับได้ว่าเป็นนวัตกรรมที่น่าทึ่งและสามารถให้ทั้งความถูกต้องและความสะดวกสบาย" มร. ฮิโรยูกิ โคนูมะ ประธานซาโต้ เฮลธ์แคร์ กล่าว