กรุงเทพฯ--28 มี.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานช่วงวันที่ 14 – 27 มีนาคม 2560 มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากวาตภัยรวม 26 จังหวัด 99 อำเภอ 179 ตำบล 554 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย5,644 หลัง ผู้เสียชีวิต 3 ราย ผู้บาดเจ็บ 5 ราย ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยทหาร จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจความเสียหาย แจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค อุปกรณ์ซ่อมแซมบ้านเรือน และให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯโดยด่วนแล้ว อย่างไรก็ตาม จากการติดตามสภาพอากาศ พบว่า ในช่วงวันที่ 27 – 29 มีนาคม 2560 จะมีพายุฤดูร้อนเพิ่มมากขึ้นครอบคลุมพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ขณะที่ภาคใต้จะมีฝนตกหนักบางแห่ง ปภ.จึงได้ประสานให้จังหวัดดังกล่าวจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ เฝ้าระวังสถานการณ์ภัย รวมถึงเตรียมเครื่องมือและวัสดุอุปกรณ์ให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างทันท่วงที
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ในช่วงวันที่ 14 – 27 มีนาคม2560 มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากวาตภัย รวม 26 จังหวัด 99 อำเภอ 179 ตำบล 554 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 5,644 หลัง ผู้เสียชีวิต 3 ราย ผู้บาดเจ็บ 5 ราย แยกเป็น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 17 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ เลย สกลนคร มหาสารคาม นครราชสีมา หนองคาย ร้อยเอ็ด ขอนแก่น ชัยภูมิ บึงกาฬ อำนาจเจริญ อุดรธานี บุรีรัมย์ กาฬสินธุ์ และหนองบัวลำภู ภาคเหนือ 3 จังหวัด ได้แก่ พะเยา เพชรบูรณ์ และกำแพงเพชร ภาคกลาง 4 จังหวัด ได้แก่ ลพบุรี นครสวรรค์ สุโขทัย และชัยนาท และภาคตะวันออก 2 จังหวัด ได้แก่ สระแก้ว และตราด ซึ่งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัด หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้น โดยแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค กระเบื้องมุงหลังคา และวัสดุอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้านเรือนแก่ผู้ประสบภัยโดยด่วนแล้ว รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่สำรวจ ประเมินและจัดทำบัญชีข้อมูลความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ทั้งการชดเชยความเสียหายของบ้านเรือนเป็นวัสดุก่อสร้าง หรือจ่ายเงินช่วยเหลือตามความเหมาะสม อีกทั้งจ่ายเงินสงเคราะห์ค่าจัดการศพตามระเบียบและหลักเกณฑ์ที่กำหนดแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต ทั้งนี้ จากการติดตามสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ในช่วงวันที่ 27 - 29 มีนาคม 2560จะเกิดพายุฤดูร้อนเพิ่มมากขึ้นครอบคลุมพื้นที่ต่างๆ แยกเป็น ภาคเหนือ บริเวณจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ พิษณุโลก พิจิตร และกำแพงเพชร ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณจังหวัดขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมาบุรีรัมย์ และสุรินทร์ ภาคตะวันออก บริเวณจังหวัดนครนายก ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ภาคกลาง บริเวณจังหวัด นครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา ชัยนาท อุทัยธานี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคใต้จะมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลาภูเก็ต และพังงา ปภ.จึงได้ประสานจังหวัดดังกล่าวเตรียมรับมือพายุฤดูร้อน โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศและเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด อีกทั้งจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างทันท่วงที ตลอดจนแจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังอันตรายจากพายุลมแรง อยู่ให้ห่างจากต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา และสิ่งก่อสร้างที่ไม่แข็งแรงในระยะนี้ไว้ด้วย ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากพายุฤดูร้อนสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป