กรุงเทพฯ--28 มี.ค.--ซีพีเอฟ
ซีพีเอฟเดินหน้า "โครงการซีพีเอฟรักษ์นิเวศ ลุ่มน้ำป่าสัก เขาพระยาเดินธง" จ.ลพบุรี ผู้บริหารและพนักงานจิตอาสากว่า 600 คน สานพลังสร้างฝายชะลอน้ำและเพาะกล้าไม้ เตรียมปลูกป่าภายใต้แผนยุทธศาสตร์ 5 ปี กำหนดพื้นที่ดำเนินการในขอบเขตพื้นที่ป่าไม้ถาวรของชาติเนื้อที่ 5,971 ไร่ เพื่ออนุรักษ์ฟื้นฟูป่าต้นน้ำลุ่มน้ำป่าสักอย่างยั่งยืน
นายนพดล ศิริจงดี รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ในฐานะประธานคณะทำงานยุทธศาสตร์ซีพีเอฟรักษ์นิเวศ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ กล่าวว่า ซีพีเอฟมุ่งมั่นสานต่อภารกิจความยั่งยืนในเสาหลักด้านสิ่งแวดล้อม "ดินน้ำป่าคงอยู่" โดยมีเป้าหมายปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ ผ่านการร่วมอนุรักษ์และฟื้นฟูพื้นที่ป่ายุทธศาสตร์ที่สำคัญของประเทศ ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ สำหรับพื้นที่ป่าต้นน้ำได้ดำเนิน "โครงการซีพีเอฟ รักษ์นิเวศ ลุ่มน้ำป่าสัก เขาพระยาเดินธง" ภายใต้โครงการเขาพระยาเดินธง "ศูนย์การเรียนรู้เฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี" โดยร่วมกับกรมป่าไม้ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) และเครือข่ายภาคประชาสังคม ซึ่งที่ผ่านมามีการจัดตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนการดำเนินงานและกำหนดกิจกรรมที่สอดคล้องตามกรอบแผนงาน
ในครั้งนี้ผู้บริหารและพนักงานจิตอาสากว่า 600 คน ร่วมแรงร่วมใจลงพื้นที่เพื่อสร้างฝายชะลอน้ำเพิ่มเติมรวม 20 ตัว และเพาะกล้าไม้ เตรียมปลูกป่าในโครงการซีพีเอฟ รักษ์นิเวศ ลุ่มน้ำป่าสัก เขาพระยาเดินธง เพื่ออนุรักษ์และฟื้นฟูป่าต้นน้ำลุ่มน้ำป่าสักอย่างยั่งยืน หลังจากที่ทำกิจกรรมครั้งแรกไปเมื่อเดือนมกราคม 2560
สำหรับความคืบหน้าจากการทำกิจกรรมครั้งแรก เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ได้สร้างฝายชะลอน้ำ 4 ตัว เป็นฝายกึ่งถาวร 1 ตัว และฝายผสมผสาน 3 ตัว มีการวางระบบน้ำหยดในแปลงปลูก 57 ไร่ โดยใช้ถังขนาด 1,000 ลิตร เป็นที่พักน้ำ และใช้ศักยภาพของทีมวิศวกรซีพีเอฟมาซ่อมบำรุงระบบน้ำและแผงโซล่าเซลล์ เพื่อสูบน้ำจากแหล่งน้ำในพื้นที่ขึ้นถังพักน้ำ ผลจากระบบน้ำหยด มีการติดตาม ดูแลอย่างต่อเนื่อง มีการกำจัดวัชพืช ในแปลงปลูก 57 ไร่ ทำให้ต้นไม้มีอัตรารอดสูงถึง 90 % การเพาะกล้าไม้ จำนวน 200,000 กล้า ซึ่งได้นำมาจัดเรียงไว้เรือนเพาะชำพร้อมสำหรับการปลูกในช่วงฤดูฝน ส่วนของการก่อสร้างอาคารสำนักงาน ระบบสุขาภิบาล มีความคืบหน้า 80 %
การดำเนินโครงการฯดังกล่าว คาดหวังว่าพื้นที่ป่าไม้ที่ได้รับการฟื้นฟูจนกลับมามีความอุดมสมบูรณ์ จะเป็นการเพิ่มพื้นที่ต้นน้ำลำธารให้กับลุ่มน้ำป่าสัก ลดปริมาณน้ำไหลหลากในฤดูฝนและเพิ่มปริมาณน้ำไหลในฤดูแล้ง ลดปริมาณตะกอนที่ไหลลงแม่น้ำลำธารและเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ช่วยลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากชั้นบรรยากาศ โดยการกักเก็บไว้ในต้นไม้ อินทรียวัตถุและในดิน ลดและบรรเทาปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก เป็นแหล่งพืชอาหาร สมุนไพร และไม้ใช้สอยให้กับชุมชน รวมทั้งยังเป็นแหล่งศึกษาและเรียนรู้เกี่ยวกับการฟื้นฟูสภาพป่าไม้ให้กับเยาวชน ประชาชน เป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ และช่วยสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับประชาชนที่อยู่โดยรอบ
ด้านนายวุฒิชัย สิทธิปรีดานันท์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซีพีเอฟ กล่าวว่า "โครงการซีพีเอฟรักษ์นิเวศ ลุ่มน้ำป่าสัก เขาพระยาเดินธง" นอกจากซีพีเอฟให้การสนับสนุนในเรื่องของงบประมาณแล้ว ยังมีส่วนร่วมในการดำเนินการอนุรักษ์ ฟื้นฟู ติดตาม ประเมินผลด้วย เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามวัตถุประสงค์ ในอาณาเขตและแนวทางที่กรมป่าไม้กำหนดร่วมกันไว้ โดยกำหนดขอบเขตพื้นที่ดำเนินการในขอบเขตพื้นที่ป่าไม้ถาวรของชาติ เนื้อที่ 5,971 ไร่ ระยะเวลา 5 ปี ( ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2559- เมษายน 2563) ซึ่งที่ผ่านมามีพนักงานจิตอาสาเข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก
"โครงการซีพีเอฟรักษ์นิเวศ ลุ่มน้ำป่าสัก เขาพระยาเดินธง" จะเป็นต้นแบบในการดำเนินงานปลูกป่าถาวรอย่างเป็นระบบ สามารถวัดผลและประเมินผลที่ได้รับจากการดำเนินงานได้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อกระบวนการฟื้นฟูป่าในอนาคตและเกิดประโยชน์ต่อสาธารณะ "นายวุฒิชัยกล่าว
ทั้งนี้ กรมป่าไม้ ซีพีเอฟ และหน่วยงานที่ปรึกษา จะร่วมกันประเมินผลสำเร็จของการดำเนินโครงการ โดยทำการประเมินผลการฟื้นตัวของพื้นที่ป่าไม้ การกักเก็บคาร์บอน การให้บริการเชิงนิเวศ และผลทางด้านเศรษฐกิจและสังคมของชุมชนที่อยู่โดยรอบพื้นที่โครงการ