กรุงเทพฯ--28 มี.ค.--ซีพีเอฟ
ธุรกิจห้าดาว ย้ำร้านห้าดาวทั้ง 5,000 สาขาทั่วประเทศเป็นธุรกิจของคนไทย 100% สนับสนุนรายย่อยมีกิจการที่มั่นคงด้วยอาชีพ "เถ้าแก่เล็ก" ใช้ความสำเร็จของไทยเป็นโมเดลให้ประเทศอื่นที่ห้าดาวเข้าไปลงทุน ตั้งเป้าปี 2560 ขยายความสำเร็จให้คนไทยเพิ่มเป็น 6,000 สาขา
นายสถิต สังขนฤบดีประธานผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ เปิดเผยว่า ซีพีเอฟเดินหน้าสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยสู่เถ้าแก่เล็กมืออาชีพ โดยเฉพาะในธุรกิจห้าดาวที่เป็นธุรกิจแรกที่บริษัทเปิดให้ประชาชนทั่วไปได้มาร่วมสร้างโอกาสเริ่มต้นและเป็นเจ้าของธุรกิจผ่านโครงการ "เถ้าแก่เล็กธุรกิจห้าดาว" ตั้งแต่ปี 2543 ในรูปแบบแฟรนไชส์แบบ 100% เพื่อให้เป็นธุรกิจของประชาชนทั่วไปที่ต้องการประกอบอาชีพค้าขายและเป็นเจ้าของธุรกิจเอง หรือเถ้าแก่เล็ก ด้วยการร่วมทุนกับบริษัท ในธุรกิจไมโครแฟรนไชส์ ซึ่งเป็นธุรกิจเล็กที่เหมาะกับผู้ลงทุนที่มีเงินลงทุนไม่สูงมากนัก แต่สามารถคืนทุนไว ได้กำไรเร็ว ใช้พื้นที่ไม่มาก มีอุปกรณ์และวัตถุดิบพร้อมขายได้เลย บริษัทมีครูพี่เลี้ยงเถ้าแก่เล็กและพนักงานของบริษัทที่จัดฝึกอบรมและถ่ายทอดทักษะการบริหารธุรกิจให้กับผู้ประกอบการรายย่อย ทำให้สามารถบริหารจัดการได้อย่างมืออาชีพ
"โครงการเถ้าแก่เล็กเป็นการต่อยอดจากความสำเร็จจากธุรกิจที่บริษัทได้ดำเนินการเองมาตั้งแต่ปี 2528 ปัจจุบันร้านห้าดาวทั้ง 5,000 แห่งทั่วประเทศ ดำเนินการโดยเถ้าแก่เล็กทั้งหมด และมีบริษัทเป็นผู้สนับสนุนด้านความรู้ด้านการบริหารจัดการ และยังเป็นธุรกิจแฟรนไชส์ที่มีระบบช่วยพัฒนาความสามารถของเถ้าแก่เล็กทุกคนให้สามารถดำเนินธุรกิจทำรายได้ที่มั่นคงและเติบโตอย่างต่อเนื่อง" นายสถิต กล่าว
ธุรกิจห้าดาวถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่หลายคนทำได้ ทั้งคนอายุน้อยที่ปัจจุบันต่างมีความต้องการที่จะมีธุรกิจเป็นของตัวเอง รวมถึงคนอายุมากก็ยังสามารถเป็นเจ้าของธุรกิจได้และเป็นผู้ดูแลเอง นอกจากนี้ ธุรกิจห้าดาวยังมีโมเดลร้านหลายรูปแบบ จากซุ้มขายสินค้าประเภทเดียว สู่ซุ้มขายสินค้าหลายประเภท จนถึงร้านฟาสต์ฟู้ดขนาดเล็กที่ลูกค้าสามารถทานได้ที่ร้าน และยังเพิ่มทางเลือกธุรกิจที่หลากหลาย ทั้งไก่ย่าง ไก่ทอด ข้าวมันไก่ห้าดาว บะหมี่ห้าดาว เรดี้มีล ไส้กรอกโรลเลอร์กริลล์ ฯลฯ
"สำหรับปีนี้เราตั้งเป้าขยายซุ้มและร้านห้าดาวเพิ่มขึ้นเป็น 6,000 ราย โดยการสร้างให้เถ้าแก่เล็กสามารถเติบโตอย่างมีคุณภาพ เป็นเจ้าของธุรกิจอาหารที่ผู้บริโภคเชื่อมั่นเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยของสินค้าและมีความเป็นเลิศด้านการบริการ รวมทั้งเติบโตคู่กับธุรกิจห้าดาวอย่างมั่นคงและยั่งยืน ปัจจุบันโมเดลความสำเร็จของเถ้าแก่เล็กธุรกิจห้าดาวยังได้ขยายไปยังอินเดีย เวียดนาม เมียนมาร์ บังคลาเทศ กัมพูชาและลาว" นายสถิต กล่าว
ด้าน นายวิรัต กันคำแพงตัวอย่างเถ้าแก่เล็กที่ประสบความสำเร็จกับกิจการข้าวมันไก่ห้าดาว สาขาอ่อนนุช 17 กล่าวว่า อดีตเคยเป็นฝ่ายตรวจสอบในโรงงานทอผ้าในกรุงเทพทำงานอยู่ 4 ปี จึงกลับบ้านที่นครราชสีมาเพื่อดูแลลูกที่เพิ่งคลอดและยึดอาชีพทำไร่ทำนา กระทั่งปี 2555 ญาติที่ทำร้านก๋วยเตี๋ยวอยู่ที่ซอยอ่อนนุช 17 ให้มาช่วยขายข้าวมันไก่ที่เพิ่งเซ้งกิจการมา หลังจากช่วยญาติได้สักพักก็อยากมีอาชีพเป็นของตัวเอง ประกอบกับได้เห็นร้านเถ้าแก่เล็กข้าวมันไก่ห้าดาว ซึ่งสินค้ามีมาตรฐานเป็นที่รู้จักของลูกค้า มีการจัดการที่ดี ร้านค้าสะอาด และตอบโจทย์คนเมืองที่ต้องการอาหารง่ายๆรับประทาน จึงขอเข้าร่วมโครงการกับห้าดาวทันที
"ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจเถ้าแก่เล็กห้าดาว ตอบโจทย์และตรงกับที่คาดหวังไว้ตั้งแต่แรก คิดว่าตัวเองตัดสินใจถูกที่ร่วมธุรกิจนี้ วันนี้เรามีคุณภาพชีวิตดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มีอาชีพที่เป็นธุรกิจของตนเอง มีรายได้ที่มั่นคงแน่นอน สามารถสร้างบ้านที่โคราชให้ครอบครัวได้ เราได้อยู่กับครอบครัวและเลี้ยงดูพวกเขาให้อยู่ดีมีสุขได้จากอาชีพนี้" นายวิรัต กล่าวทิ้งท้าย