กรุงเทพฯ--28 มี.ค.--แบรนด์ เวลท์
บริษัท สหกลอิควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SQ ผู้รับเหมางานเหมืองแบบครบวงจรเบอร์ 1 ของไทย และ CLMV เตรียมจ่ายเงินปันผล 0.05 บาทต่อหุ้น หลังกำไรปี 2559 เติบโตแรง 323 ล้านบาท
นาย ศาศวัต ศิริสรรพ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สหกลอิควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือSQ เปิดเผยว่า "ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2560 มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผล สำหรับผลประกอบการปี 2559 โดยจ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้นในอัตรา 0.05 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงิน 56,500,000 บาท โดยกำหนดให้วันที่ 4 พฤษภาคม 2560 เป็นวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) โดยจะปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันที่ 8 พฤษภาคม 2560 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 19 พฤษภาคม 2560"
" เนื่องจากบริษัทฯอยู่ระหว่างการลงทุนในเครื่องจักรและอุปกรณ์ขนาดใหญ่ กว่า 4,000 ล้านบาท ในโครงการเหมืองแม่เมาะสัญญา 8 และงานใหม่ ทำเหมืองแร่ดีบุกที่ประเทศพม่า เพื่อรองรับการเติบโตของผลประกอบการที่จะเกิดจากการบริษัทได้เซ็นสัญญารับงานมาแล้วประมาณ 39,000 ล้านบาท (ซึ่งบริษัทจะทยอยรับรู้รายได้ได้ถึง 9 ปี)คณะกรรมการจึงได้ มีมติจ่ายผลในอัตราดังกล่าว"
" ขณะนี้บริษัทฯ กำลังเตรียมประมูลงาน รับเหมาทำเหมืองแม่เมาะสัญญา 9 มูลค่างานประมาณกว่า 30,000ล้านบาทภายในกลางปีนี้ โดยที่ SQ เป็นผู้รับเหมาที่มีความเชี่ยวชาญด้านงานเหมืองแบบครบวงจรเบอร์ 1 ของไทย และ CLMV ที่มีประสบการณ์ความสำเร็จในการรับเหมางานเหมืองมากว่า 34 ปี แสดงให้เห็นถึงความพร้อมทั้งทางด้านบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญและเครื่องจักรในด้านการทำเหมืองเป็นหลัก และที่ผ่านมา เรายังส่งมอบงานตรงเวลามาโดยตลอดทำให้ลูกค้ามีความมั่นใจอีกด้วย"
อนึ่งในปี 2559 SQ มีรายได้รวม 2,890 ล้านบาท เติบโตจากปี 2558 ถึง 55% และ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 323 ล้านบาท โตจากปีที่แล้วถึง 264 % (โดยมีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 828 ล้านบาท โตจากปีที่แล้ว 69%) ซึ่งรายได้มาจากโครงการเหมืองแม่เมาะ โครงการที่ 8 จำนวน 897 ล้านบาท รายได้จากโครงการที่ 7 และ 7.1 จำนวน 1,238 ล้านบาท รวมไปถึงรายได้จากเหมืองหงสา ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว จำนวน 731 ล้านบาท"
ล่าสุดบริษัทฯได้รับงานเหมืองดีบุกที่เหมืองเฮนดรา ซึ่งตั้งอยู่ในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ โดยบริษัทจะเข้าไปขุดหน้าดินและแร่ดิบ รวมทั้งการจัดการแร่ดิบ ภายใต้มูลค่าสัญญากว่า 3,672 ล้านบาท ที่จะทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 7 ปี ทำให้บริษัทฯมีรายได้ที่แน่นอนปีละกว่า 500 ล้านบาท อีกทั้งขณะนี้ บริษัทฯ มีแบ็กล็อกหรือปริมาณงานในมือกว่า 39,000 ล้านบาท ถือว่าสูงที่สุดในประวัติการดำเนินธุรกิจมากว่า 46 ปี