กรุงเทพฯ--28 มี.ค.--IR network
SENA วางเป้ารากฐานใหม่ในการก้าวเดินในปี 2560 เมื่อพบว่า "จุดอ่อน" ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ คือ ต้องเผชิญหน้ากับความเสี่ยงรอบด้าน ทั้ง การแข่งขันของผู้ประกอบการ ความผันผวนของต้นทุนวัสดุก่อสร้าง และการสรรหาที่ดินเป็นต้น
ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ชั้นแนวหน้าของเมืองไทย และในฐานะ Developer รายแรกที่ทำหมู่บ้านโซลาร์เต็มรูปแบบ ให้ความเห็นกับ " STOCK FOCUS" ถึงการ"นำเอาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ มาพัฒนาสินค้าและบริการ "Eco Innovation" และกลายเป็น"จิ๊กซอว์ตัวใหม่" ที่เข้ามาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคในยุคดิจิทัล ซึ่งจะช่วยผลักดันธุรกิจของบริษัทฯเติบโตแข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต
แผนธุรกิจปีนี้ ลุยเปิด 10 โครงการ
ในปีนี้โครงการบริษัทฯจะมูลค่าโครงการเพิ่มขึ้น 3 เท่าตัวจากปีก่อนที่เปิดโครงการเพียง 5 โครงการมูลค่าโครงการ 3,200 ล้านบาท โดยเราวางแผนเปิดตัวโครงการใหม่จำนวน 10 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 12,000 ล้านบาท และจะมีโครงการที่เราร่วมทุน"ฮันคิว เรียลตี้" ด้วย ซึ่งโครงการจะแบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 9 โครงการ และที่อยู่อาศัยแนวราบ 1 โครงการ และในปียังถือเป็นปีที่มีมูลค่าที่เพิ่มมากขึ้น โดยทุกโครงการที่เปิดตัวในปี 2560 จะมีการติดแผงโซลาร์เซลล์
เจาะกลุ่มแนวรถไฟฟ้า เหตุดีมานด์สูง
ราคาที่ดินตามแนวรถไฟฟ้าตอนนี้ เราพบว่าราคาพุ่งพรวดหลายเท่าตัวและหายากมากขึ้น ขณะที่ความต้องการโครงการคอนโดมิเนียมในทำเลติดแนวรถไฟฟ้าก็มีเพิ่มขึ้นเช่นกัน ซึ่ง SENA มีรองรับทั้งโครงการ เดอะคิทท์ไลท์ บางกระดี เฟส 2 ,โครงการ เดอะนิช โมโน สุขุมวิท 50, โครงการ เดอะคิทท์ สุขุมวิท 113 เฟส2 , เดอะนิช ไอดี แจ้งวัฒนะ ติวานนท์ (สวนกุหลาบนนท์) เป็นต้น หรือแม้กระทั่งตลาดในต่างจังหวัด ที่เกิดจากภายใต้รัฐบาล โครงการก่อสร้างเส้นทางคมนาคม ก็ทำให้เราศึกษาที่ต่อยอดในอนาคตด้วย
วางแผนการขยายธุรกิจอย่างไรภายใต้การแข่งขัน
เราได้มีการพัฒนาทุกรูปแบบ เพื่อให้มีความครบเครื่องในการดำเนินธุรกิจ ได้จัดตั้งบริษัท "เสนา ฮันคิว 1" บริษัทร่วมทุนกับบริษัท ฮันคิว เรียลตี้ จำกัด (ประเทศญี่ปุ่น) ในฐานะกลุ่มบริษัท Hankyu Hanshin Holding Group ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ในญี่ปุ่น เพื่อร่วมกันพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ด้วยทุนจดทะเบียนทุนจดทะเบียนแรกตั้ง 1 ล้านบาท และจะเพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 74 ล้านบาท เป็น 75 ล้านบาท โดย SENAถือหุ้นในสัดส่วน 51% ในช่วงปลายปีก่อน ซึ่งคาดว่าจะสามารถเห็นการเริ่มโครงการได้ในช่วงไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ของปีนี้ ทั้งนี้ หากเป็นไปตามเป้าหมายเรียบร้อย จะส่งผลต่อการเพิ่มมูลค่าเพิ่มให้กับการพัฒนาโครงการอสังหาฯ และการผลักดันรายได้และกำไร ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน
SENA ตั้งงบลงทุนเท่าไหร่ ในการนำเทคโนโลยี สร้างธุรกิจ
นอกจากนี้นำเทคโนโลยีมาพัฒนา สิ่งที่เราทำอยู่แล้วให้ดียิ่ง ๆ ขึ้น และพัฒนาสิ่งใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้า อย่าง " Eco Innovation" ด้วยงบลงทุน 5 ล้านบาท "Eco คือการประหยัดพลังงาน และประหยัดเวลา Innovation คือการใช้พลังงานไฟฟ้าจากแผงโซลาร์ที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายส่วนกลางและเป็นพลังงานสะอาด การทำแอพพลิเคชั่น SENA 360 SERVICE ที่ช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงบริการหลังการขายของบริษัทได้โดยง่าย เกิดเป็นช่องทางรายได้ใหม่ที่จะผลักดัน และส่งผลการเติบโตแบบก้าวกระโดดครั้งใหม่
" การนำแนวคิดด้านนวัตกรรมมาใช้ ถือว่าประโยชน์ในธุรกิจอสังหาฯเพื่อยกระดับกระบวนการทำงาน บริหารจัดการธุรกิจ และ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ ที่สอดรับกับความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า สร้างโอกาสในการต่อยอดรายได้ทางธุรกิจ ทั้งในและต่างประเทศ ช่วยผลักดันให้ก้าวสู่ แบรนด์ที่รู้จักมากขึ้น รวมถึงการนำเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยในยุคดิจิทัล"
ประเมินภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ปีนี้อย่างไร
ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ การซื้อขายที่อยู่อาศัยน่าจะกลับมาฟื้นตัวได้ โดยผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์น่าจะทยอยกลับมาลงทุนเปิดโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ออกสู่ตลาด และให้ความสำคัญกับการจัดกิจกรรมการตลาดอย่างเข้มข้น โดยมีแรงหนุนจากอัตราดอกเบี้ยที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ จำนวนผู้ประกอบการรายใหม่จากธุรกิจรายใหญ่อื่น ๆ เข้ามาแข่งขันในตลาดมากขึ้น โดยมองว่าอสังหาฯเป็นธุรกิจที่ให้ผลตอบแทนการลงทุนสูงและเติบโตต่อเนื่องมีโครงการขนาดใหญ่เพิ่มขึ้น
มีที่ดินในมือเพียบ รองรับโครงการได้อีก 1-2 ปี
ปัจจุบัน SENA ได้มีการซื้อที่ดินเพื่อเปิดโครงการใหม่ได้พร้อมแล้วในการขยายธุรกิจ ในปีนี้เราวางงบลงทุนไว้ประมาณ 1 พันล้านบาท และหากมีที่ดินในขยายการลงทุนเราก็พร้อมเพราะปัจจุบันเรามีเงินทุนทั้งจากหุ้นกู้ การร่วมกับพัธมิตร ฯลฯ ในการขับเคลื่อนธุรกิจได้อย่างสบาย
จากนี้ไปคงต้องติดตามดูว่า "เสนาดีเวลลอปเม้นท์" หลังการเสริมความแข็งแกร่งด้านทุน และนำเทคโนโลยีมาใช้ โดยผู้มีประสบการณ์มายาวนาน จะผงาดขึ้นแท่นผู้นำธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ของไทยได้อย่างมั่นคงอย่างไร