กรุงเทพฯ--30 มี.ค.--พีอาร์ดีดี
สภาวะตลาดวันที่ 30 มีนาคม 2560 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,247.55-1,253.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 20,450 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,450 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFJ17 อยู่ที่ 20,490 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 40 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,530 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.37 น.ของวันที่ 30/03/2560)
แนวโน้มวันที่ 31 มีนาคม 2560
อังกฤษได้เริ่มกระบวนการออกจากสหภาพยุโรป หรือ Brexit อย่างเป็นทางการแล้ว สหราชอาณาจักรมีเวลา 2 ปีในการเจรจาเงื่อนไขของการออกจากอียูก่อนที่จะมีผลบังคับใช้ในปลายเดือนมี.ค. 2562 ขณะเดียวกันก็ต้องเจรจากับประเทศอื่นๆ ในอียูอีก 27 ประเทศ เรื่องการคลัง, การค้า, ความมั่นคง และประเด็นที่ซับซ้อนอื่นๆ ท่ามกลางการเรียกร้องอิสรภาพของสกอตแลนด์ ความกังวลดังกล่าว กระตุ้นแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ให้สามารถทรงตัวรักษาระดับไว้ได้ ขณะที่นักลงทุนจับตาความคืบหน้าของรัฐบาลอังกฤษเตรียม เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติเกรท รีพีล บิล (Great Repeal Bill) เพื่อเริ่มต้นกระบวนการถอดอำนาจทางกฎหมายของสหภาพยุโรป (EU) ออกจากประเทศ เพราะหากไม่สามารถเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุนได้ประเด็นดังกล่าวก็จะกลับมากระตุ้นแรงซื้อเข้าสู่ตลาดทองคำเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม ในระยะสั้นดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินดีดตัวขึ้นขึ้นแตะจุดสูงสุดรอบ 9 ปัจจัยดังกล่าว สร้างแรงขายเข้าสู่ตลาดทองคำ ทั้งนี้ โดยดอลลาร์ได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของยูโรเพราะนักลงทุนคาดว่า ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) อาจจะยังไม่ยุตินโยบายการเงินแบบผ่อนคลายในเร็วๆนี้ ประกอบกับ ดอลลาร์ได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมจากถ้อยแถลงของนายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก กล่าวว่า ประธานเฟดสาขาต่างๆ ส่วนใหญ่ให้การสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในปี 2560 อย่างต่อเนื่อง ซึ่งกระแสข่าวเหล่านี้มีผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาค่อนข้างมากจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตามประเมินว่าราคาทองคำหากไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านบริเวณ 1,263-1,272 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจเกิดแรงขายออกมาให้ราคาทองคำอ่อนตัวลง แต่หากราคาสามารถยืนแนวรับบริเวณได้ในโซน 1,247-1,239 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เชื่อว่าราคาทองคำจะสามารถดีดตัวขึ้นอีกครั้ง
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำอาจเคลื่อนไหวลักษณะ Sideway โดยนักลงทุนสามารถซื้อและขายทำกำไรในกรอบราคา สำหรับนักลงทุนที่มีทองคำในมือ แนะนำให้ทำกำไรหากราคาดีดตัวขึ้นและไม่ผ่านแนวต้าน 1,263-1,272 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยหากราคามีการย่อตัวลงมาบริเวณแนวรับ 1,247 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำรอจังหวะเข้าซื้อโดยสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อยอาจเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาบริเวณ 1,239 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และรอขายทำกำไรบางส่วนบริเวณแนวต้านแรกที่ 1,263 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากผ่านได้ให้รอไปปิดสถานะทำกำไรบริเวณแนวต้านถัดไปที่ 1,272 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ เพื่อลดความเสี่ยงพอร์ตการลงทุน ซึ่งหากนักลงทุนไม่มีวินัยในการลงทุนที่จะตัดขาดทุน จะทำให้เกิดความเสียหายที่ไม่อาจควบคุมได้อีกต่อไป
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,247 (20,300บาท) 1,239 (20,150บาท) 1,230 (21,050บาท)
แนวต้าน 1,263 (20,550บาท) 1,272 (20,700บาท) 1,280 (20,950บาท)
GOLD FUTURES (GFJ17)
แนวรับ 1,247 (20,450บาท) 1,239 (20,300บาท) 1,230 (20,150บาท)
แนวต้าน 1,263 (20,700บาท) 1,272 (20,850บาท) 1,280 (21,050บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999