ไทรคอนเติบโตแข็งแกร่งขึ้นอย่างมากในประเทศไทย

ข่าวทั่วไป Thursday August 2, 2001 14:26 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--2 ส.ค.--ไทรคอน เรสเทอร์รองส์ต อินเตอร์เนชั่นแนล
ไทรคอน เรสเทอร์รองส์ต อินเตอร์เนชั่นแนล เจ้าของ ผู้บริหาร และผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ ร้านอาหารบริการด่วน เคเอฟซี และ พิซซ่า ฮัท ในประเทศไทย เปิดเผยวันนี้ว่าการดำเนินกิจการของไทรคอนได้เติบโตแข็งแกร่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในธุรกิจร้านอาหารบริการด่วน
ด้วยประสบการณ์ในตลาดนานกว่า 16 ปี เคเอฟซี มิใช่เพียงแค่แบรนด์อันดับ 1 ในตลาดไก่ทอดเท่านั้น หากยังครองความเป็นเจ้าตลาดในธุรกิจร้านอาหารบริการด่วน ขณะที่ พิซซ่า ฮัท ก็บุกตะลุยอย่างเต็มที่ในตลาดพิซซ่า
ไทรคอน กล่าวถึงปัจจัยหลายด้านที่ส่งผลให้การดำเนินกิจการของบริษัทฯ มีความแข็งแกร่งในช่วงเจ็ดเดือนแรกที่ผ่านมา อาทิ การแข่งขันในธุรกิจร้านอาหารบริการด่วนที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและรุนแรงในปีที่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดพิซซ่า การเพิ่มงบโฆษณาสินค้าอย่างมหาศาลในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา สอดคล้องกับช่วงระยะเวลาในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายของ พิซซ่า ฮัท ที่มีแคมเปญออกมาอย่างต่อเนื่องตลอดช่วงไตรมาสที่สอง การเปิดตัวสินค้าและบริการใหม่ เช่น ไอศกรีม เคเอฟซี ซอฟต์เสิร์ฟ เมนูพิซซ่าหน้าใหม่ "ไก่จี้ดจ้าด" จากไก่หมักสไตล์ไทยแท้ของพิซซ่า ฮัท บริการโทรเบอร์เดียว "1150" ส่งอาหารถึงบ้านหรือสำนักงาน รวมทั้งจำนวนลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการเพิ่มมากขึ้นทั้งในส่วนของไก่ทอดและพิซซ่า
ในช่วง 6 เดือนแรกที่ผ่านมา ยอดขายรวมของไทรคอนทั้งระบบเพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2543 เคเอฟซี ครองส่วนแบ่งตลาดประมาณ 41% ในธุรกิจร้านอาหารบริการด่วนโดยรวมทั้งหมด ขณะที่พิซซ่า ฮัท มีส่วนแบ่งตลาดระหว่าง 35-40 %ในส่วนของตลาดพิซซ่า
ปัจจุบันนี้ ประเทศไทยมีร้านเคเอฟซี รวมทั้งหมด 276 สาขา พิซซ่า ฮัท จำนวน 76 สาขา และภายในสิ้นปี 2544 นี้ ไทรคอนมีแผนที่เปิดสาขาให้ครบ 400 สาขา รวมทั้งสองแบรนด์ " เป้าหมายของเราคือ รักษาระดับความเป็นผู้นำของเคเอฟซีในตลาด ทั้งยังขยายในส่วนนี้ให้เติบโตต่อไป และทำให้ พิซซ่า ฮัท ก้าวขึ้นเป็นสุดยอดในส่วนของตลาดพิซซ่า" มร.เฮสเตอร์ ชิว รองประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทย สิงคโปร์และอินโดจีน ไทรคอน เรสเทอร์รองต์ส อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าว
นอกจากไก่ทอดแล้ว เคเอฟซีประเทศไทยยังได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ได้แก่ ไอศกรีมเคเอฟซี ซอฟต์เสิร์ฟ ซึ่งได้เปิดตัวสู่ตลาดประมาณเดือนพฤศจิกายน ปี 2543 ข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า ตลาดไอศกรีมในเมืองไทยยังมีช่องทางให้เติบโตอีกมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดต่างจังหวัด เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ พบว่า คนไทยยังบริโภคไอศกรีมในปริมาณน้อย เพียงแค่ 1.5 ลิตร ต่อคน ต่อปี ขณะที่มาเลเซียบริโภคประมาณ 3 ลิตร ส่วนคนออสเตรเลียทานคนละ 18 ลิตร ต่อปี และสำหรับปริมาณบริโภคสูงสุดได้แก่ ชาวอเมริกัน ซึ่งบริโภคมากถึง 22 ลิตร ต่อคน ต่อปี
ขณะนี้มีเคาน์เตอร์ไอศกรีมเคเอฟซี ซอฟต์เสิร์ฟ เปิดให้บริการแล้ว 81 สาขา เมื่อเฉลี่ยแล้วเท่ากับว่ามีการเปิด 1 เคาน์เตอร์ในทุก ๆ 3 วัน ไอศกรีมเคเอฟซี ซอฟต์เสิร์ฟ ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคเป็นอย่างดีตั้งแต่เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว บันทึกยอดขายสูงสุดต่อวันขายได้กว่า 6,000 โคน ที่ เคเอฟซีสาขารัตนาธิเบศ
ไอศกรีม เคเอฟซี ซอฟต์เสิร์ฟ ผลิตเป็นการเฉพาะโดย บริษัท บาสกิ้น-ร้อบบิ้นส์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่โรงงานนวนคร "ความสำเร็จของไอศกรีม เคเอฟซี ซอฟต์เสิร์ฟ เกิดจากความตั้งใจอย่างมุ่งมั่นของพวกเราที่จะมอบไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟที่มีคุณภาพ ภายใต้ราคาที่เหมาะสม และปัจจัยที่ทำให้เราสามารถมอบสินค้า คุณภาพแบบนี้ได้ เพราะว่าเราได้ร่วมทำงานอย่างใกล้ชิดกับพันธมิตร ซึ่งได้แก่ บริษัท บาสกิ้น-ร้อบบิ้นส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้พัฒนาและผลิตไอศกรีม เคเอฟซี ซอฟต์เสิร์ฟ " มร.ชิว กล่าวเสริม
ไอศกรีมเคเอฟซี ซอฟต์เสิร์ฟ มอบความอร่อยที่อุดมด้วยคุณค่าทางโภชนาการ ด้วยส่วนผสมที่ผลิตจากนมแท้ 100% นอกจากนั้น เคเอฟซี ยังได้ลงทุนเพิ่มสำหรับตู้เก็บไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟที่มีเทคโนโลยีสูง ประกอบด้วยอุปกรณ์รักษาอุณหภูมิความร้อนให้คงที่ เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ถึงคุณภาพ สุขอนามัยที่ได้มาตรฐาน และความสดใหม่ของไอศกรีม ด้วยส่วนผสมที่ดีเยี่ยมผนวกกับเทคโนโลยีเฉพาะ ทำให้เคเอฟซีมั่นใจว่าได้มอบไอศกรีมคุณภาพที่ดีที่สุดให้แก่ผู้บริโภค
ภายในสิ้นปีนี้ เคเอฟซี จะเพิ่มจำนวนเคาน์เตอร์ซอฟต์เสิร์ฟให้ได้อย่างน้อย 100 สาขา เฮสเตอร์ ชิว กล่าวเพิ่มเติมว่า "เรายังมีแผนที่จะออกผลิตภัณฑ์ไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟใหม่อีก ภายในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการดำเนินงานของเคเอฟซี ประกอบกับการสนับสนุนอย่างดีจากพันธมิตรของเรา เราจึงมีความตั้งใจที่จะทำให้เคเอฟซี ซอฟต์เสิร์ฟ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่หลากหลาย ของผู้บริโภค"
สำหรับในส่วนของพิซซ่า ฮัท เมื่อเร็ว ๆ นี้ พิซซ่า ฮัท ได้ออกโปรโมชั่นใหม่ "พิซซ่าโกลดี้ครัสท์" สำหรับคนรักชีส ให้อิ่มอร่อยถูกใจกับพิซซ่าสูตรใหม่ ประกอบด้วยชีส 3 ชนิด ทั้ง มอสซาเรลล่าชีส สตริงชีส และเพิ่ม เชดด้าชีส บนขอบ ก่อนนำไปอบจนเป็นสีทองอร่าม ครบถ้วนความเข้มข้น กลมกล่อม อร่อยถูกใจคนรักชีสเป็นพิเศษ
ผลการสำรวจผู้บริโภคของไทรคอน ซึ่งจัดทำโดยบริษัทวิจัยเอซีนีลเส็น ในช่วงเดือนมกราคม ถึง มิถุนายน 2544 จากกลุ่มผู้ใช้บริการร้านอาหารบริการด่วนจำนวน 960 คน อายุตั้งแต่ 15-49 ปี ในเขตกรุงเทพมหานคร พบว่าผู้บริโภค83% กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า เคเอฟซี คือร้านที่ดีที่สุดสำหรับไก่ทอด ขณะที่ 90% ระบุว่า พิซซ่า ฮัท คือร้านที่ดีสุดสำหรับรับประทานพิซซ่า สำหรับความคิดเห็นโดยรวมของอาหาร ไม่ว่าจะเป็นรสชาด คุณภาพ และความสม่ำเสมอในมาตรฐานของอาหาร ทั้งแบรนด์เคเอฟซี และพิซซ่า ฮัท ครองอันดับสูงสุดในแต่ละชนิดอาหาร
"ความชื่นชอบของลูกค้าคือสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับเราและเป็นปัจจัยที่มีนัยยะสำคัญในการกำหนดตัวสินค้าของเรา" มร. ชิว กล่าว "ลูกค้าบอกเราชัดเจนมากว่าร้านที่ดีที่สุดสำหรับไก่ทอดและพิซซ่า คือ เคเอฟซี และพิซซ่า ฮัท"
ไทรคอน เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจร้านอาหารแบบระบบแฟรนไชส์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยจำนวนร้านมากกว่า 33,000 แห่งในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก ทั้งสามแบรนด์ของไทรคอน คือ เคเอฟซี พิซซ่า ฮัท และทาโก เบล ต่างเป็นผู้นำของโลกในตลาดไก่ทอด พิซซ่า และร้านอาหารแม็กซิกัน ด้วยยอดขายทั้งระบบกว่า 22,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2543
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่ http://www.kfc.com และ http://www.pizzahut.com
แถลงข่าวในนาม : ไทรคอน เรสเทอร์รองต์ส อินเตอร์เนชั่นแนล
รายละเอียดเพิ่มเติม : สายชล ทรัพย์มากอุดม, ผู้จัดการฝ่ายการสื่อสารสัมพันธ์
ไทรคอน เรสเทอร์รองต์ส อินเตอร์เนชั่นแนล
โทร. 653-2900 ต่อ 6215
email: saichon.submakudom@tricon-yum.com-- จบ--
-อน-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ