(ต่อ4) จูบอหังการ ล่าข้ามโลก กำหนดฉาย 3 สิงหาคม 2544

ข่าวทั่วไป Monday July 9, 2001 09:55 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--9 ก.ค.--บัวนา วิสต้า อินเตอร์เนชั่นแนล
ปี 1991 ภาพยนตร์ของเบซงเรื่อง Atlantis ได้รับการยกย่องจากนักวิจารณ์อเมริกันว่า เป็น Fantasia ฉบับใต้ทะเล และภาพฝันในท้องน้ำ โดยเขาใช้เวลาถ่ายทำถึง 16 เดือนรอบโลก เพื่อแสดงให้เห็นถึงจินตนาการอันบริสุทธิ์ผ่านทางภาพยนตร์ Atlantis ผสมผสานบทพูด และบทบรรยาย เพื่อหลอมรวมเข้ากับสกอร์อันต่อเนื่องของอีริค แซร์รา ให้สอดคล้องกับภาพใต้ท้องทะเล เป็นการแปลความรักของนักสร้างภาพยนตร์ที่มีต่อโลกอันแสนงดงามที่ซ่อนอยู่ใต้มหาสมุทรลึกออกมาด้วยภาษาภาพยนตร์
ปี 1993 เบซงเริ่มเตรียมโปรดักชันของ The Fifth Element ซึ่งใช้เวลาขัดเกลาบทภาพยนตร์เป็นปี จากเรื่องราวของเขาเอง บวกกับทีมอาร์ติสจากนานาประเทศ เพื่อร่วมกันออกแบบฉาก รวมถึงตัวละครที่วาดเรื่องราวให้อยู่ในศตวรรษที่ 23 และเมื่องบสร้างของโปรเจกต์นี้อยู่ตัวแล้ว เบซงก็หันมาเขียนบทภาพยนตร์เรื่องต่อไป นั่นคือ The Professional
The Professional ย้อนกลับมาสู่ธีมที่ La Femme Nikita เคยสำรวจมาก่อนแล้ว นำแสดงโดย ฌอง เรโน และนาตาลี พอร์ตแมน ซึ่งเป็นเรื่องราวของนักฆ่าคนหนึ่ง ที่มีความรักฉันท์พ่อกับเด็กสาวกำพร้าคนหนึ่ง ที่ถูกเจ้าหน้าที่รัฐบาล (แกรี โอลด์แมน) ตามฆ่า ภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จไปทั่วโลก ทันทีที่ออกฉาย และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลซีซาร์ สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และลุค เบซง ก็ได้เข้าชิงสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยมด้วย
ปี 1997 The Fifth Element ภาพยนตร์ไซไฟของเบซง ซึ่งนำแสดงโดย บรู๊ซ วิลลิส ประสบความสำเร็จทั้งด้านรายได้ และคำวิจารณ์อย่างงดงาม และเมื่อเร็วๆ นี้ เบซงก็เพิ่งได้รับรางวัลจาก British Academy Award จากการอำนวยการสร้าง Nil By Mouth ร่วมกับแกรี โอลด์แมนอีกด้วย
ส่วนภาพยนตร์ฝีมือกำกับเรื่องที่ 8 ของเบซง คือ มหากาพย์ประวัติศาสตร์ The Messenger: The Story of Joan of Arc ที่มีมิลลา โจโววิช แสดงนำนั้น ออกฉายเมื่อปี 1999 ซึ่งในปีนั้นเอง เขาก็ได้ทำหน้าที่อำนวยการสร้างให้กับ Taxi 2 ซึ่งกำกับโดย เชราร์ ครอว์ซีค รวมถึง The Dancer ที่กำกับโดยเฟรด การ์สัน ด้วย
ผลงานการสร้างภาพยนตร์ที่ผ่านมาของเบซง นอกเหนือจาก KISS OF THE DRAGON แล้ว ยังมี 15 Aoct, Yamakasi les Samourais des temps modernes และ Wasabi ภาพยนตร์ที่ถ่ายทั้งในฝรั่งเศส และญี่ปุ่น นำแสดงโดย ฌอง เรโน และกำกับโดย เชราร์ ครอว์ซีค นอกจากนี้ เขายังเป็นผู้ก่อตั้งสตูดิโอภาพยนตร์ของยุโรปแห่งใหม่ ชื่อ Europa ร่วมกับปิแอร์ อองจ์ เลอ โปกอง อีกด้วย ซึ่งเขาไม่เพียงแต่เป็นผู้สร้างภาพยนตร์ 4-8 เรื่องต่อปีเท่านั้น แต่เขายังรับจัดจำหน่าย และขายภาพยนตร์ วิดีโอ รวมถึงเพลงต่างประเทศด้วย
รอเบิร์ต มาร์ก คาเมน - Robert Mark Kamen (ร่วมเขียนบท) มีผลงานเขียนภาพยนตร์ที่ผ่านมาอาทิ Lethal Weapon 3, The Karate Kid, The Karate Kid II, A Walk in the Clouds, The Power of One, Tap และ The Fifth Element ของลุค เบซง คาเมนเคยได้รับปริญญาตรี ด้านวรรณคดี จากมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก และปริญญาเอก ด้าน American Studies จาก University of Pensylvania สาขาวรรณคดี เขาอาศัยอยู่ในนิวยอร์ก และเป็นผู้ผลิตไวน์ ในเมืองโซโนมา แคลิฟอร์เนีย
สตีเวน เชสแมน - Steven Chasman (ผู้อำนวยการสร้าง) เคยเป็นทนายมาก่อน จนถึงปี 1993 แชสแมนเข้าร่วมเอเยนซีดารานักแสดง International Creative Management ซึ่งเขาทำงานเป็นตัวแทนให้กับนักแสดงและผู้กำกับมากมาย และยังช่วยสร้างเส้นทางอาชีพนอกสนามกีฬาให้แก่นักกีฬาชื่อดัง อาทิ ดิออน แซนเดอร์ส, เคน กริฟฟีย์ จูเนียร์ และเดนนิส รอดแมน
หลังจากทำงานที่ ICM มาถึง 6 ปีเต็ม เชสแมนก็ก่อตั้ง Current Entertainment ซึ่งเป็นผู้จัดหานักดนตรี นักแสดง ผู้กำกับ และนักกีฬา ขึ้นมา ซึ่งลูกค้าของ Current Entertainment ก็มี เจ็ต ลี, ลีลี โซเบียสกี, คริส คริสตอฟเฟอร์สัน, ชายานน์, เชกี คาร์โย, ผู้กำกับคิวบู๊ คอรี หยวน และนักแสดงและซุปเปอร์สตาร์นักบาส เดนนิส ร็อดแมน นอกจากนี้ เชสแมนยังทำหน้าที่อำนวยการสร้างภาพยนตร์เรื่อง The One ที่มีเจ็ต ลีนำแสดงอีกด้วย
แฮปปี้ วอลเตอร์ส - Happy Walters (ผู้อำนวยการสร้าง) จบการศึกษาจาก The University of Michigan ก่อนจะย้ายมายังลอส แองเจลิส เพื่อเริ่มต้นอาชีพด้านดนตรี ลูกค้ารุ่นแรกๆ ของเขามี ไซเปรส ฮิลล์, House of Pain, Red Man และสมาชิกของวง Wu Tang Clan จากนั้น วอลเตอร์ก็เริ่มต้นทำงานกับ Sony Records และบริษัทของเขาเอง Immortal Records ซึ่งเขาได้ร่วมงานกับวงดนตรีอย่าง Korn และ Incubus
ปลายปี 1999 Immortal เปลี่ยนผู้ร่วมถือหุ้น และไปรวมกับ Virgin Records ในปัจจุบันรายชื่อใน Immortal /Virgin ประกอบไปด้วย The Urge, Bare Jr., 30 Seconds to Maes, U.S. Crush และอัลบัมทริบิวต์ Strait Up
หลังจากประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงในฐานะผู้ควบคุมดนตรี และเอ็กเซ็กคิวทีฟโปรดิวเซอร์ให้กับซาวนด์แทร็กของภาพยนตร์เรื่อง Judgement Night วอลเตอร์ก็สร้างบริษัทผลิตงานดนตรีขึ้นมา โดยใช้ชื่อว่า Sidewinder Music ซึ่งภาพยนตร์ที่บริษัทของเขาจัดทำซาวนด์แทร็กให้ก็มี Spawn, There's Something About Mary, Scream 2, The Next Best Thing, Family Man, Head Over Heels, American Pie และ The Klumps: The Nutty Professor II
นอกเหนือจากงานของเขาในธุรกิจดนตรีและงานควบคุมดนตรีแล้ว วอลเตอร์สยังได้ก่อตั้งแผนกผลิตภาพยนตร์และโทรทัศน์, บริษัทรับจัดงานแสดงสด และบริษัทแมเนจเมนต์ โดยทำงานร่วมกับบรรดานักดนตรี, นักแสดง และนักกีฬามากมาย
โปรเจกต์งานภาพยนตร์เรื่องปัจจุบันของเขา ก็คือ Life Without Dick นำแสดงโดย แซราห์ เจสสิกา ปาร์เกอร์ ภาพยนตร์อินดี เรื่อง Sol Goode, Chain of Fools นำแสดงโดยเจฟฟ์ โกลด์บลัม, แซลมา ฮาเย็ก และสตีฟ แซน ซึ่งวอลเตอร์ร่วมอำนวยการสร้างกับเมตต์ วีเวอร์ รวมถึงภาพยนตร์เรื่อง Ghetto Superstar ที่อำนวยการสร้างร่วมกับมาดอนนา และกาย โอเซียรีด้วย
คอรี หยวน - Cory Yuen มีผลงานภาพยนตร์ออกฉายที่ฮ่องกงมากว่า 30 เรื่อง แล้ว สำหรับผู้กำกับคิวบู๊คนนี้ หยวนเชี่ยวชาญในทุกๆ ด้านของการทำหนัง ไม่ว่าจะเป็นผู้กำกับ นักแสดง นักเขียนบท ผู้อำนวยการสร้าง หรือนักออกแบบท่าทางการแสดงบทบู๊ก็ตาม ภาพยนตร์อเมริกันเรื่องแรกของเขาก็คือ ภาพยนตร์แอ็กชันคอเมดี เรื่อง Lethal Weapon 4 ซึ่งเขาเป็นคนออกแบบท่าทางการต่อสู้ นอกจากนี้ เขายังรับหน้าที่เป็นผู้กำกับหน่วย 2 /ซีเควนซ์การต่อสู้ของ X-Men ด้วย
เขาเคยเป็นศิษย์เก่าของสถาบัน Chinese Opera Academy อันทรงเกียรติ และเคยเป็นหนึ่งในคณะ Seven Little Fortunes ซึ่งเป็นคณะละคร ที่มีเพื่อนร่วมคณะอย่างแจ็กกี้ ชาง (เฉินหลง) และแซมโม หุ่ง เป็นต้น เมื่อถึงปลายทศวรรษที่ 70 หยวน และเพื่อนคนอื่นๆ จึงได้ก้าวเข้าสู่โลกภาพยนตร์ จากนั้น อีกสองทศวรรษถัดมา หยวนก็ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์ยอดนิยมหลายเรื่องของฮ่องกง เขากำกับเจ็ต ลี ในภาพยนตร์เรื่องเยี่ยมของฮ่องกงอย่าง The Legend of Fong Sai-Yuk, The Legend of Fong Sai-Yok 2, High Risk, Bodyguard from Beijing, My Father is a Hero รวมถึงยังทำงานร่วมกับลี ใน Lethal Weapon IV และภาพยนตร์เรื่องใหม่ The One ด้วยเช่นกัน ส่วนผลงานภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ของเขา มีอาทิ Hero, The Black Rose และ Mahjong Dragon
เธียรี อาร์โบกาสต์ - Thierry Abogast, AFC (ผู้กำกับภาพ) มีผลงานภาพยนตร์ที่เขาทำงานร่วมกับลุค เบซง หลายเรื่องด้วยกัน เช่น The Fifth Element, La Femme Nikita และ The Messenger ส่วนผลงานภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ของเขา มีอาทิ The Horseman on the Roof, Ridicule, Black Cat White Cat (ซึ่งส่งให้เขาได้รับรางวัล European Film Award มาครอง) และ My Favorite Season
อาร์โบกาสต์เคยได้รับรางวัล Technical Grand Prize ในงานเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานน์ส เมื่อปี 1997 จากภาพยนตร์เรื่อง She's So Lovely และยังได้รับรางวัลซีซาร์ในสาขา ถ่ายภาพยนตร์ยอดเยี่ยมมาถึง 2 ครั้งด้วยกัน จากภาพยนตร์เรื่อง The Fifth Element และจาก The Horseman on the Roof (ยังมีต่อ)
-อน-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ