กรุงเทพฯ--31 มี.ค.--กลุ่มสารนิเทศการคลัง กระทรวงการคลัง
เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2560 นายชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ ประธานกรรมการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) และนางวรางค์ ไชยวรรณ กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ร่วมกันเปิดตัวโครงการ "รวมพลังสร้างสรรค์ตะกาฟุล" ..นึกถึง ตะกาฟุล นึกถึงไอแบงก์.. ณ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย สำนักงานใหญ่ อาคารคิวเฮ้าส์อโศก
นายชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ กล่าวว่า "เราต้องยอมรับสภาวการณ์แข่งขันของธุรกิจธนาคารมีการแข่งขันกันอย่างสูง และจะยิ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคต ถึงแม้ธนาคารจะมีส่วนสำคัญในการผลักดันธุรกิจทางด้านตะกาฟุล (ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตตามหลักศาสนาอิสลาม) สู่การเป็นผู้นำในปัจจุบัน ก็ต้องไม่หยุดนิ่ง ที่จะต้องมีการพัฒนาทั้งด้านบุคลากรภายในองค์กร การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การบริการ หรือเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของประชนทั้งชาวไทยมุสลิม และทุกศาสนิก ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ด้านประกันชีวิต ผมเล็งเห็นความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะถือเป็นปัจจัยในชีวิตอย่างหนึ่ง ที่ช่วยให้เกิดการออมเงิน การสร้างความมั่นคงเมื่อวัยเกษียณ หรือเจ็บป่วย รวมทั้งเป็นทรัพย์สินให้กับลูกหลานต่อไปในอนาคต"
"จากความสำเร็จของโครงการ "ตะกาฟุลร่วมใจเพื่อ IBank" ในปีที่ผ่านมาประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี มีพนักงานของธนาคารทั้งในสำนักงานใหญ่ และสาขา ให้ความสนใจและกระตือรือร้นเป็นอย่างมาก ทำให้เงินสมทบบรรลุตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ และสำหรับปีนี้โครงการ "รวมพลังสร้างสรรค์ตะกาฟุล" เรายังได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรอันดีของธนาคาร ทั้ง บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ที่ให้การสนับสนุนเราในด้านผลิตภัณฑ์ ตะกาฟุลที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างทั่วถึง และโครงการนี้เป็น อีกหนึ่งก้าวของเราที่จะพลิกสถานการณ์ทางธุรกิจ และเรามั่นใจในศักยภาพของพนักงานทุกคนเช่นกัน การเริ่มโครงการอย่างนี้อย่างต่อเนื่อง ก็เสมือนเป็นสนามให้พนักงานได้ลองปฏิบัติ และเป็นการพัฒนาสิ่งต่างๆ รอบด้านตัวเราเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต" นายชัยวัฒน์ กล่าว
นายสาระ ล่ำซำ เปิดเผยว่า "บมจ. เมืองไทยประกันชีวิต ต้องขอบคุณทางธนาคารฯ ที่ได้ให้บริษัทฯ เข้าร่วมโครงการ "รวมพลังสร้างสรรค์ตะกาฟุล" อีกครั้ง จากครั้งก่อนคือโครงการ "ตะกาฟุลร่วมใจเพื่อ IBank" ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ทางเมืองไทยประกันชีวิต ก็ยังยึดมั่นและให้ความสำคัญในการนำเสนอสิ่งที่เราห่วงใยให้กับพี่น้องชาวมุสลิมและประชาชนทั่วไป โดยผ่านผลิตภัณฑ์ตะกาฟุลของบริษัทฯ ซึ่งเรามีบอร์ดเมืองไทยชะรีอะห์ ที่ให้คำปรึกษาในด้านหลักการศาสนาที่ถูกต้องและโปร่งใส ซึ่งโครงการในปีนี้เรานำ "ผลิตภัณฑ์ตะกาฟุล 10/4" ที่มีจุดเด่นที่ให้ความคุ้มครองระยะยาว 10 ปี แต่ชำระเงินสมทบตะกาฟุลระยะสั้นเพียง 4 ปี โดยมีเงินหลักประกันตะกาฟุลขั้นต่าที่ 20,000 บาท สมัครได้ง่ายโดยไม่ต้องตรวจสุขภาพและไม่ต้องตอบคำถามสุขภาพ ส่วนผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์การวางแผนชีวิตและออมเงินระยะยาว "ตะกาฟุลออมทรัพย์ 20/15" เน้นการออมเงินระยะยาวด้วยจำนวนเงินสมทบตะกาฟุลที่ไม่สูงมากนัก พร้อมความคุ้มครองชีวิตถึง 20 ปี แต่ชำระเงินสมทบตะกาฟุล 15 ปี เพื่อสร้างหลักประกันที่มั่นคงให้แก่ครอบครัว และธนาคารได้รับค่าธรรมเนียมที่สูง"
"เราเน้นย้ำด้านการให้บริการเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งเรามีสำนักงานบริการสาขาที่ครอบคลุมหลายพื้นที่ การให้บริการ Call Center # 1766 กิจกรรม Smile Club กระบวนการทำงานต่างๆ ภายในบริษัทฯ อีกทั้งยังมีทีมงานฝ่ายขายและฝ่ายสนับสนุนที่จะอำนวยความสะดวกและสนับสนุนทุกท่านตลอดเวลา" นายสาระ กล่าว
ด้าน นางวรางค์ ไชยวรรณ เปิดเผยว่า "ไทยประกันชีวิตและธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย เป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่ดีต่อกันมาอย่างต่อเนื่องโครงการ "รวมพลังสร้างสรรค์ตะกาฟุล" เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ไทยประกันชีวิตได้รับเกียรติให้มีส่วนร่วมสนับสนุนเพื่อสร้างหลักประกันที่มั่นคงให้กับพี่น้องชาวมุสลิม ผ่านการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม ถูกต้องตามหลักศาสนา ตามความเห็นชอบของคณะกรรมการชารีอะห์ไทยประกันชีวิต ซึ่งประกอบด้วย แบบเตาฟี๊ดร์ 10/5 สำหรับผู้ที่ต้องการออมเงินระยะสั้น เพราะชำระเงินสมทบตะกาฟุลเพียง 5 ปี แต่ได้รับฮิบะห์สูงถึง 500% ของเงินหลักประกันตะกาฟุล เมื่อครบกำหนดสัญญา นอกจากนี้ ในระหว่างสัญญา ยังได้รับฮิบะห์ 10% ทุกๆปี สมัครได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องตรวจสุขภาพหรือแถลงข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ ส่วนแบบตะฮ์ซีน 20/20 เหมาะสาหรับพี่น้องมุสลิมที่ต้องการสร้างความมั่นคงให้กับครอบครัวในระยะยาว โดยครบสัญญารับฮิบะห์ 110% ของเงินหลักประกันตะกาฟุล"
"ไทยประกันชีวิตมุ่งพัฒนาบริการที่มากกว่าและแตกต่าง ไม่ว่าจะเป็นไทยประกันชีวิตฮอตไลน์ บริการฉุกเฉินทางการแพทย์และเคลื่อนย้ายผู้ป่วยฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง หรือไทยประกันชีวิตแคร์เซ็นเตอร์ ศูนย์ดูแลสิทธิประโยชน์ลูกค้า รวมถึงมีสาขาและศูนย์บริการลูกค้าพร้อมให้บริการมากกว่า 300 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งไทยประกันชีวิตยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ดูแลพี่น้องมุสลิม รวมถึงขอบคุณผู้บริหารธนาคารอิสลามฯ ที่มอบความไว้วางใจให้บริษัทฯ เข้าร่วมโครงการครั้งนี้" นางวรางค์ กล่าวทิ้งท้าย