กรุงเทพฯ--31 มี.ค.--ฟิทช์ เรทติ้งส์
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้จัดสัมมนาในวันนี้ที่กรุงเทพฯ สำหรับผู้บริหารจากภาคธนาคาร ภาคเอกชน บริษัทประกันภัย และบริษัทจัดการกองทุน กว่า 100 ท่าน เพื่อให้มุมมองเกี่ยวกับภาคธนาคารของประเทศไทยในระยะ 3-5 ปี ข้างหน้า รวมถึงสภาวะตลาดการเงินของโลกในปัจจุบัน
นายพาสันติ์ สิงหะ ผู้อำนวยการอาวุโสภาคสถาบันการเงิน ของบริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้กล่าวถึงประเด็นที่สำคัญในด้านกฏเกณฑ์และการพัฒนาเทคโนโลยีที่อาจส่งผลกระทบต่อภาคธนาคารของประเทศไทย โดยหลักเกณฑ์การกำกับดูแลสถาบันการเงินของ Basel และ มาตรฐานทางบัญชีตามหลักเกณฑ์ IFRS9 จะส่งผลให้ธนาคารประสบอุปสรรคในการปฏิบัติตามได้ในระยะสั้น เช่น ในด้านการปรับปรุงระบบคอมพิวเตอร์ภายในและการปรับปรุงแบบจำลองเพื่อประเมินความสูญเสีย (Expected Loss Model) อย่างไรก็ตาม หลักเกณฑ์ดังกล่าวจะเพิ่มความสามารถของธนาคารในการรับมือกับสภาวะการถดถอยทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง รวมถึงเพิ่มความชัดเจนและความโปร่งใสให้แก่นักลงทุน
การเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีในปัจจุบันถือเป็นทั้งภัยคุกคามและเป็นโอกาสต่อภาคธนาคาร ซึ่งธนาคารต่างๆ ในประเทศไทยเริ่มเพิ่มการลงทุนในเทคโนโลยีด้านการเงิน (Fintech) ต่างๆ แต่โดยภาพรวมการลงทุนดังกล่าวยังน้อยและเป็นเพียงส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ตั้งรับของแผนดำเนินธุรกิจของธนาคาร ฟิทช์มองว่าการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยี (Disruption) ในอนาคตอันใกล้ น่าจะเกิดขึ้นกับด้านการบริการการชำระเงินเป็นหลัก ในขณะที่ในด้านการบริการให้กู้ยืม-รับฝาก ของธนาคารไทยจะยังได้รับผลกระทบในวงจำกัด โดยธนาคารจะยังได้รับประโยชน์จากการมีเครือข่ายธุรกิจที่แข็งแกร่ง รวมถึงสินค้าและบริการหลักจะยังคงมีข้อได้เปรียบเหนือผู้เล่นรายใหม่ ทำให้ผู้เล่นรายใหม่แข่งขันได้ยาก (Barrier to Entry) ซึ่งจะทำให้ธนาคารยังสามารถรักษาตำแหน่งทางการตลาดและความสามารถในการทำกำไรในระยะกลางไว้ได้ อย่างไรก็ตาม การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีประเภทต่างๆ เพื่อให้บริการแก่ลูกค้า (เช่น ธนาคารทางโทรศัพท์เคลื่อนที่) อย่างแพร่หลายมากขึ้นนั้น ทำให้ความเสี่ยงจากการโจรกรรมจากโลกออนไลน์ (Cyber risks) จะเพิ่มขึ้น ดังนั้นการวางแผนการบริหารจัดการความเสี่ยงของธนาคารจึงต้องให้ความสำคัญต่อการบริหารจัดการความเสี่ยงด้านไซเบอร์มากยิ่งขึ้น
ฟิทช์มีมุมมองเชิงลบ (Negative Sector Outlook)ต่อภาคธนาคารของประเทศไทยในปี 2560 เนื่องจากคาดการณ์ว่าสภาพการดำเนินธุรกิจจะยังคงอ่อนแออยู่ซึ่งจะส่งผลกดดันคุณภาพสินทรัพย์และอัตรากำไรของภาคธนาคารต่อไป อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงของอุตสาหกรรมฯ ถูกลดทอนลงจากระดับเงินกองทุนและเงินสำรองต่อหนี้สูญที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ที่อยู่ในระดับยอมรับได้ โดยธนาคารไทยที่ฟิทช์จัดอันดับเครดิต ส่วนใหญ่มีแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ (Stable Outlook)
งานสัมมนาในครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมบรรยายคือ คุณกอบสิทธิ์ ศิลปชัย, CFA ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน บมจ.ธนาคารกสิกรไทย ซึ่งได้กล่าวถึงแนวโน้มของตลาดการเงินและความเสี่ยงจากความผันผวนต่อพันธบัตร อัตราดอกเบี้ย และค่าเงิน ในปี 2560