กรุงเทพฯ--30 ม.ค.--ธนาคารกสิกรไทย
ธนาคารกสิกรไทย เลือกสาขาในเขตรอบนอกที่มีธุรกรรมน้อยปรับรูปแบบเป็นสาขาโครงสร้างพิเศษ เพิ่มอีก 31 สาขา รวมเป็น 63 สาขาทั่วประเทศ หลังพบว่าช่วยลดค่าใช้จ่ายได้ถึง 30%
นายธงชัย เจริญสิทธิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า จากการที่ธนาคารได้ทดลองปรับโครงสร้างสาขาในเขตรอบนอกที่มีปริมาณธุรกิจน้อยให้เป็นสาขาโครงสร้างพิเศษเพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณธุรกิจในพื้นที่ที่รับผิดชอบที่มีปริมาณลดลง เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวโดยสาขาโครงสร้างพิเศษจะมีพนักงานประมาณ 4-7 คนต่อสาขา และมีผู้ช่วยผู้จัดการสาขาเป็นผู้บริหารสูงสุดในสาขา
ผลจากการทดลองสาขาโครงสร้างพิเศษรุ่นแรกจำนวน 32 สาขามาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2543 พบว่า สาขาโครงสร้างพิเศษสามารถลดค่าใช้จ่ายด้านพนักงานลงได้ประมาณ 20% และลดค่าใช้จ่ายที่ไม่ใช่ด้านพนักงานลงได้ประมาณ 30% ซึ่งอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ดังนั้นธนาคารจึงมีโครงการปรับโครงสร้างสาขาในเขตพื้นที่รอบนอกที่มีปริมาณธุรกรรมน้อยเป็นสาขาโครงสร้างพิเศษเพิ่มอีก 31 สาขา รวมเป็น 63 สาขา จากสาขาทั้งหมดของธนาคาร 532 สาขาทั่วประเทศ
สำหรับสาขาโครงสร้างพิเศษ จะให้บริการด้านการเงินทั่วไปที่ไม่ใช่สินเชื่อ เช่น การฝากถอน โอนเงิน บริการบัตรเอทีเอ็ม บัตรเดบิต ส่วนบริการสินเชื่อจะดูแลเฉพาะสินเชื่อส่วนบุคคล คือ สินเชื่อบัตรเครดิตที่ได้รับอนุมัติจากสำนักงานใหญ่แล้ว สำหรับบริการเกี่ยวกับเงินกู้ เงินกู้เบิกเกินบัญชี จะให้สาขาเต็มรูปแบบที่อยู่ใกล้เคียงเป็นผู้ดูแลลูกค้าแทน
อย่างไรก็ตามธนาคารจะมีการพิจารณาเพิ่มอำนาจของผู้ช่วยผู้จัดการสาขาโครงสร้างพิเศษบางแห่ง ให้สามารถทำธุรกรรมในขอบเขตที่กว้างขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าในพื้นที่ และหากเศรษฐกิจฟื้นตัว ปริมาณธุรกิจและลูกค้าที่มาทำธุรกรรมมีเพิ่มมากขึ้นก็จะยกฐานะเป็นสาขาเต็มรูปต่อไป--จบ--
-อน-