กรุงเทพฯ--3 เม.ย.--AdPocket
"AdPocket"โชว์ความสำเร็จขึ้นแท่น Media on Mobile อันดับ 1 ของประเทศชูยอดดาวน์โหลดกว่า 2 ล้านยูเซอร์ใน 1 ปี พร้อมอัดงบโปรโมตแบรนด์ผ่านสื่อ BTSหวังขยายฐานลูกค้าเจาะกลุ่มวัยทำงาน มุ่งตอบโจทย์ยอดขายให้ลูกค้าในยุค Mobile First
สืบเนื่องจากทุกวันนี้ชีวิตประจำวันของคนอยู่กับโทรศัพท์มือถือตลอด 7 วัน เกือบ 24 ชั่วโมง จนกลายเป็น "First Screen" แทนที่คอมพิวเตอร์ไปแล้ว ยิ่งในประเทศไทยมีสมาร์ทโฟนมากถึง 49 ล้านเครื่อง คนไทยใช้สมาร์ทโฟนโดยเฉลี่ยสูงถึง 6.2 ชั่วโมงต่อวัน มากกว่าการดูทีวีถึง 3 เท่า จึงกลายเป็นที่มาของ "AdPocket" สื่อโฆษณาที่มีประสิทธิภาพมากในยุค Mobile First เป็นสื่อที่จะตามติดผู้บริโภคไปในทุกที่ 24 ชั่วโมง เพราะทุกๆ ครั้งที่คุณหยิบมือถือขึ้นมาและคุณเห็นโฆษณาแล้ว ก็เหมือนการสร้างการรับรู้ และการจดจำไปเรื่อยๆ
คุณอลิศรา ดำรงค์พานิช ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดโมบาย จากแอดพ็อคเก็ต (Mobile Marketing Director, AdPocket ) กล่าวว่า "AdPocket" (แอดพ็อคเก็ต) แอปพลิเคชั่นโฆษณาบนหน้าจอล็อคสกรีนมือถือ อันดับ 1 ของประเทศไทย เป็นแพลตฟอร์มสื่อดิจิทัลรูปแบบใหม่ที่ผู้ใช้ได้รับประโยชน์ตอบแทน จากการดูโฆษณาและการปลดล็อคหน้าจอบนมือถือ ทั้งในรูปแบบการสะสมแต้มแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดเพื่อซื้อของหรือแลกของ จ่ายบิล เติมเงินฯลฯ ซึ่งกำลังมาแรงทั้งในต่างประเทศและในประเทศไทย ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีทั้งจากนักการตลาด นักโฆษณา และผู้ใช้งาน โดยใน 1 ปีที่ผ่านมามียอดดาวน์โหลดแล้วสูงกว่า 2 ล้านอินสตอล และการันตีความสำเร็จด้วยลูกค้าที่ใช้บริการแล้วกว่า100 ราย แอปพลิเคชั่นนี้มีจุดเริ่มต้นมาจากประเทศเกาหลีใต้ และประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีคนเกาหลีใช้แอปฯ นี้กว่า 20 ล้านคน จากจำนวนประชากรกว่า 50 ล้านคน ถือเป็นแพลตฟอร์มหลักในการลงโฆษณาบนมือถือของที่นั่น
"ไทยเรานำเข้ามาเป็นประเทศที่สองต่อจากเกาหลีใต้ เพราะก่อนจะมี AdPocket เวลาจะลงโฆษณาทางออนไลน์ คนมักนึกถึงแค่ไม่กี่ช่องทาง เช่น Facebook, Google, Line ฯลฯ แต่ยังมีอีกหลายคนที่ยังไม่รู้จักหรือให้ความสำคัญกับการลงโฆษณาผ่านทางหน้าจอล็อคสกรีน ทั้งๆ ที่ตลาดการโฆษณาบนมือถือนั้นใหญ่มาก และทุกวันนี้คนไทยใช้มือถือเยอะกว่าดูโทรทัศน์ หรืออ่านนิตยสาร มือถือกลายเป็นปัจจัยที่คนไทยขาดไม่ได้ เรามองเห็นโอกาสตรงจุดนี้ จึงได้นำ AdPocket เข้ามา เพราะเป็นแพลตฟอร์มที่อยู่ใกล้ชิดกับผู้คนมากที่สุด เข้าถึงง่าย สะดวก และรับรู้ผลเร็ว ฉะนั้นการโฆษณาผ่านทางหน้าจอล็อคสกรีนนี้จะช่วยให้นักการตลาดวางแผนการลงสื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่ไปกับการลงโฆษณาผ่านช่องทางออนไลน์อื่นๆ " ผู้บริหาร AdPocket กล่าว
ในส่วนของจุดเด่นของโฆษณาหน้าจอล็อคสกรีนมือถือนี้ คุณอลิศรา ย้ำว่า AdPocket นับเป็นทางเลือกใหม่ที่มาแรงของการลงโฆษณาบนมือถือ จนก้าวขึ้นเป็น Media on Mobile อันดับ 1 ของประเทศไทย เนื่องจากมีประโยชน์มากในการช่วยสร้างการรับรู้แบรนด์ให้กับผู้บริโภค เพราะทุกครั้งที่เปิดมาก็จะเห็นโฆษณาขึ้นมาอยู่บนหน้าจอมือถือ นั่นคือ High Reach เห็นโฆษณาได้แบบจังๆ เจอทันทีก่อนปลดล็อคหน้าจอเห็นชัด จดจำได้ง่าย, Low Aversion การต่อต้าน หรือไม่ชอบโฆษณาค่อนข้างต่ำ เนื่องจากผู้ใช้ที่ไม่ชอบโฆษณาบนหน้าจอล็อคสกรีนจะไม่ลงแอปนี้แต่แรกอยู่แล้ว, Full Engagement แบนเนอร์จะแสดงเต็มหน้าจอมือถือ หากเขาสนใจโฆษณาตัวไหน ก็สามารถเอานิ้วแตะลากไปทางซ้าย นั่นหมายถึงว่าเขามีปฏิสัมพันธ์กับโฆษณาชิ้นนั้นแล้ว และ Massive Display คือ การเห็นบ่อยๆ เปิดมาก็เห็นเลย จากการสำรวจผู้ใช้ AdPocket พบว่ามีจำนวนการปลดล็อคหน้าจอของ 1 ยูสเซอร์โดยเฉลี่ย 47 ครั้งต่อวัน ทำให้แสดงโฆษณาได้บ่อยครั้งขึ้น นอกจากนี้ AdPocket ยังสามารถวิเคราะห์ได้ถึงความสนใจของผู้ใช้ถึง 12 หมวดหมู่ ได้แก่ เกม ไอที/เทเลคอม/อิเล็กทรอนิกส์ การเงิน ท่องเที่ยว อาหาร บันเทิง แฟชั่น/ความสวยความงาม ยานยนต์ ช้อปปิ้ง กีฬา/พักผ่อน การตกแต่งบ้าน/ลิฟวิ่ง และความสนใจเกี่ยวกับเด็ก
"การใช้งาน AdPocket ไม่ได้รบกวนการใช้งานของยูสเซอร์ เพราะโฆษณาไม่ได้ขึ้นมาแทรกในระหว่างที่ผู้ใช้งานกำลังเสพสื่อ และที่สำคัญคอนเทนต์ที่โชว์บนหน้าจอล็อคสกรีนนั้นก็ไม่ได้มีแค่แบนเนอร์โฆษณาแต่เพียงอย่างเดียว ยังมีคอนเทนต์ที่น่าสนใจจาก Ookbee comic, Online Station, Ladyissue, Spice, Pepper, ข่าวจาก INN, วิดีโอคลิปเทคนิคต่างๆ จาก C Channel ฯลฯ ซึ่งการพัฒนาเนื้อหาเหล่านี้ เราคำนึงถึง User Experience เป็นสิ่งสำคัญ เมื่อใช้งาน AdPocket แล้วไม่เบื่อ เกิดความรู้สึกที่ดี นั่นก็คือประสบการณ์ที่ดีนั่นเอง"
สำหรับแนวทางการทำตลาดในปีนี้ ผู้บริหาร AdPocket กล่าวว่า ปีนี้เราค่อนข้างรุกตลาดอย่างหนักผ่านสื่อมีเดียต่างๆ เรามีแผนทำกิจกรรมตามสถานที่ต่างๆ ตลอดปี เพื่อขยายฐานผู้ใช้งานให้มีความเป็นแมสมากขึ้น โดยเน้นกลุ่มคนทำงานเพื่อเพิ่มยอดให้ได้ 5 ล้านอินสตอลในปีนี้ ควบคู่กับการทำ Customization เพื่อให้โฆษณา และคอนเทนต์สาระบันเทิงต่างๆ ที่นำเสนอตรงความต้องการและไลฟ์สไตล์คนผู้ใช้งานคนนั้นๆ โดยปีนี้เริ่มต้นการโปรโมตแบรนด์ผ่านสื่อบนรถไฟฟ้า และยังคงเน้นการทำตลาดออนไลน์เช่นที่ผ่านมา ผ่านทางสื่อออนไลน์ต่างๆ รวมถึงการเข้าถึงกลุ่มคนกลุ่มต่างๆ ผ่านทาง Net Idol หรือ influencer ที่มีชื่อเสียง ในส่วนของตัวแอปพลิเคชั่น เรามุ่งเน้นฟีเจอร์ที่จะช่วยผลักดันกลุ่ม Direct Sale หรือ Coupon ให้เป็นหัวหอกหลัก เพื่อตอบโจทย์ด้านยอดขายให้กับแบรนด์สินค้าและบริการที่มาลงโฆษณากับเรา ด้วยฐานของยูสเซอร์ที่เรามีกว่า 2 ล้านคน และโดยเฉลี่ยจะมีเงินอยู่ในเครื่องประมาณ 100 บาท รวมทั้งหมดก็คือเงินกว่า 200 ล้านบาท ถือเป็นอีมันนี่ที่เขายังไม่เอาออกมา เป็นเงินที่เขาได้มาฟรี นอกจากนี้ยังมีแจกเป็น eCoupon เพื่อเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้ยูสเซอร์เต็มที่
ส่วนเป้าหมายการเติบโตของ AdPocket นั้น คุณอลิศรา ระบุต่อว่า ในปีนี้เราเตรียมขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มผลิตภัณฑ์สินค้าอุปโภคบริโภคเพื่อให้สอดคล้องกับกลุ่มฟีเจอร์ที่เป็นหัวหอกหลักของเราและถ้าเป็นไปได้ในอนาคต เราอยากให้ผู้ใช้ AdPocket ไม่ต้องเสียค่าโทรศัพท์ โดยสามารถนำแต้มจากการปัดหน้าจอไปจ่ายค่าโทรศัพท์แทนได้ หรือนำแต้มที่เก็บได้ไปใช้ในการการกุศล หรือกิจกรรมอื่นๆ เป็นต้น
"จะว่าไปจะเรียกว่าเป็นมิชชั่นของบริษัทฯ ก็ได้ที่อยากจะให้คนไทยใช้โทรศัพท์ฟรี เราเองมีพาร์ทเนอร์ที่แข็งแกร่ง อย่างเครือ Ascend นั่นหมายความว่าเงินใน AdPocket ก็อาจจะไม่ได้ลิงก์แค่กับ Truewallet แล้ว แต่ลิงก์กับ Alipay ด้วย ซึ่งยังมีโอกาสต่อยอดไปได้ไกลอีกมากมาย และใน 3 – 5 ปีข้างหน้า เราอยากเป็นทางเลือกหนึ่งของการลงโฆษณาบนมือถือที่อยู่เคียงข้าง Facebook, LINE เพราะการสื่อสารการตลาดในยุคนี้ ลูกค้าไม่ได้ลงสื่อแพลตฟอร์มเดียวแต่ลงสื่อผสมผสาน เนื่องจากโปรดักส์แต่ละตัวมีกลยุทธ์ คุณลักษณะ และวัตถุประสงค์ หรือเป้าหมายไม่เหมือนกัน" ผู้บริหาร AdPocket กล่าว
AdPocket มีผู้ใช้เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดกว่า 2,200,000 ราย โดยมีสถิติที่สำคัญได้แก่ กลุ่มผู้ใช้ส่วนใหญ่เป็นผู้ชายที่ 53.5% กลุ่มผู้ใช้ส่วนใหญ่มีช่วงอายุ 15-19 ที่ 37% และช่วงอายุ 20-25 ที่ประมาณ 36% ในส่วนของความสนใจหลักของผู้ใช้ ได้แก่ เกมส์ 62%, ไอที 50%, การเงิน 44%, ช้อปปิ้งและเอนเตอร์เทนเม้น 42% และกีฬา 39% ซึ่งผู้ใช้แต่ละคนมีความสนใจได้หลายอย่าง
ในส่วนของพฤติกรรมการปลดล็อคมือถือ โดยเฉลี่ยแล้วคนไทยจะหยิบมือถือขึ้นมาปลดล็อคเพื่อใช้งานเฉลี่ยถึงวันละ 47 ครั้ง โดยผู้ชายจะมีพฤติกรรมปลดล็อคมากกว่าผู้หญิง โดยผู้ชายจะปลดล็อคเฉลี่ยวันละ 48 ครั้ง และผู้หญิงเฉลี่ยวันละ 46 ครั้ง ช่วงอายุที่มีการหยิบมือถือขึ้นมาปลดล็อคบ่อยครั้งที่สุด คือ 20-25 ปี โดยเฉลี่ยถึงวันละ 53 ครั้ง โดยคนกรุงเทพมีการหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาปลดล็อคใช้งานสูงสุดถึงวันละ 55 ครั้งต่อวัน
นอกจากนี้ Adpocket ยังพบว่าโฆษณาบนหน้าจอมือถือมีประสิทธิภาพสูงเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยมี CTR (click through rate) สูงถึง 5-10% สูงกว่าโฆษณาประเภท Display Banner ทั่วไปถึง 50 เท่า โดยอาจจะด้วยเพราะเป็นโฆษณาที่ปรากฏขึ้นในหน้าจอแรกของมือถือ ซึ่งผู้ใช้งานจะพบเห็นโฆษณาในความถี่ที่ค่อนข้างบ่อย
โดยในด้านของปริมาณการใช้งานนั้น มีการแสดงโฆษณาบนจอมือถือถึงกว่า 300 ล้านวิวต่อเดือน