กรุงเทพฯ--3 เม.ย.--กลุ่มสารนิเทศการคลัง กระทรวงการคลัง
คปภ.บูรณาการความร่วมมือกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและมูลนิธิเมาไม่ขับ ผนึกกำลังกับภาคอุตสาหกรรมประกันภัย จัดกิจกรรมรณรงค์ความปลอดภัยทางถนน "สงกรานต์ปีนี้เดินทางสุขใจ ด้วยการประกันภัย" มุ่งเป้าลดการสูญเสียตามกรอบปฏิญญามอสโก ซึ่งกำหนดให้ปี 2554 – 2563 เป็นทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน โดยรณรงค์เรื่องเมาไม่ขับ พร้อมผุดมาตรการแบบครบวงจรส่งเสริมให้ประชาชนสามารถเข้าถึงระบบประกันภัยอย่างจุใจ ทั้งมาตรการส่วนลดเบี้ยประกันภัยให้แก่ผู้เอาประกันภัยที่ติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) มาตรการสนับสนุนให้ประชาชนจัดทำประกันภัยรถยนต์ตามเอกสารแนบท้ายกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ปลอดแอลกอฮอล์ เพื่อรับส่วนลดค่าเบี้ยประกันภัย มาตรการ "รถชนแล้ว ถ่ายรูปไว้ แยกได้ ไม่ต้องรอ" รวมถึง ส่งมอบของขวัญชิ้นพิเศษประกันภัย 222 ให้ความคุ้มครอง 100,000 บาท พ่วงค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุ 5,000 บาท เปิดจำหน่ายจนถึงสิ้นเดือนเมษายนนี้
ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนได้ร่วมกันกำหนดแผนบูรณาการการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2560 ขึ้น โดยมุ่งเน้นการบูรณาการร่วมกันของทุกภาคส่วน ใช้การบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ และบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด จริงจัง และต่อเนื่อง เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุทางถนน ทั้งจากคน ยานพาหนะ ถนน และสิ่งแวดล้อม โดยมีหัวข้อการรณรงค์ คือ "ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร" ซึ่งมีเป้าหมายการดำเนินงานคือ เพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2560 และจำนวนการเกิดอุบัติเหตุทางถนนให้ลดลงเหลือน้อยที่สุด ซึ่งสำนักงาน คปภ. ในฐานะที่เป็นหนึ่งในคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ได้เล็งเห็นความสำคัญของการแก้ปัญหาอุบัติเหตุทางถนนดังกล่าว จึงได้ร่วมกับสมาคมประกันวินาศภัยไทย สมาคมประกันชีวิตไทย จัดโครงการรณรงค์ความปลอดภัยทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2560 ภายใต้ธีม "สงกรานต์ปีนี้เดินทางสุขใจด้วยการประกันภัย"เพื่อสร้างจิตสำนึกสร้างวัฒนธรรมที่ดีในการขับขี่อย่างปลอดภัย และตระหนักในการใช้รถใช้ถนน รวมทั้งป้องกันพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุทางถนน โดยมีนายกอบชัยฉัตรชัย บุญอรณะ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และนายมนต์ชัย ทัพไชย กรรมการมูลนิธิเมาไม่ขับ ให้เกียรติเข้าร่วมใน พิธีเปิดพร้อมร่วมแถลงข่าว ณ ที่ทำการสำนักงาน คปภ.
ในช่วงที่ผ่านมา สำนักงาน คปภ. ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค รวมทั้งภาคอุตสาหกรรมประกันภัย ได้ร่วมกันดำเนินการเกี่ยวกับมาตรการการดูแลผู้ประสบภัยจากรถให้ได้รับการช่วยเหลือเยียวยาอย่างทันท่วงทีรวดเร็ว ถูกต้อง และเป็นธรรม ทั้งนี้ได้มีการบูรณาการความร่วมมือทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ โดยส่วนกลางได้จัดกิจกรรมรณรงค์ความปลอดภัยทางถนนภายในองค์กร ทั้งสำนักงาน คปภ. และภาคอุตสาหกรรมประกันภัย โดยให้พนักงานทุกคนปฏิบัติตามมาตรการองค์กรอย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ได้มีการมอบหมวกนิรภัยให้แก่เด็กนักเรียนในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร เพื่อใช้สวมใส่ทุกครั้งเมื่อขับขี่รถจักรยานยนต์ สำหรับในส่วนภูมิภาค ผู้อำนวยการสำนักงาน คปภ.ภาค/จังหวัด และภาคอุตสาหกรรมประกันภัย ได้ดำเนินงานแบบบูรณาการกับ ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนระดับจังหวัด โดยมี ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานศูนย์ประจำจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด เพื่อรณรงค์การขับขี่อย่างปลอดภัย รวมทั้งให้บริการประชาชนตลอดช่วงเทศกาลสงกรานต์ ในขณะเดียวกันก็จะขับเคลื่อนความร่วมมือกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) อย่างเข้มข้น ซึ่งมีกรอบดำเนินการร่วมกันใน 4 บทบาทหลัก คือ การร่วมกันรณรงค์ส่งเสริมการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตามแผนทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน การเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการประกันภัยรถภาคบังคับ และการประกันภัยสำหรับรายย่อย (ไมโครอินชัวรันส์) ตลอดจนให้คำแนะนำ เกี่ยวกับข้อกฎหมายเพื่อคุ้มครองสิทธิประโยชน์ด้านการประกันภัย ให้กับเจ้าหน้าที่ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) และภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการประสานงาน แลกเปลี่ยนข้อมูล และให้ความร่วมมือระหว่างกันในการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนตระหนักถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ให้ความร่วมมือกับรัฐในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนและเห็นความสำคัญในการบริหารความเสี่ยงโดยใช้ระบบประกันภัยเป็นเครื่องมือ โดยได้ร่วมมือกับมูลนิธิเมาไม่ขับและองค์กรภาครัฐอื่นๆ ในการออกมาตรการต่างๆด้านประกันภัยเพื่อช่วยในการลดอุบัติเหตุบนท้องถนนและส่งเสริมให้คนเมาแล้วไม่ขับรถ
ทั้งนี้ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์แห่งความสุขที่จะถึงนี้สำนักงาน คปภ.ได้จัดเตรียมมาตรการส่งความสุขด้านการประกันภัยให้กับประชาชนไว้มากมายด้วยกัน ประกอบด้วยมาตรการลดเบี้ยประกันภัยสำหรับผู้ติดตั้งกล้อง CCTV ในรถยนต์ที่เอาประกันภัย ตามคำสั่งนายทะเบียนที่ 8/2560 เรื่อง การใช้อัตราเบี้ยประกันภัยรถยนต์ สำหรับรถยนต์ที่ติดตั้งกล้องวงโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ที่ติดตั้งกับรถยนต์ ให้บริษัทประกันภัยให้ส่วนลดเบี้ยประกันภัยในการรับประกันภัยตามกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ทุกประเภทเป็นส่วนลดอื่นในอัตราร้อยละ 5 – 10 ของเบี้ยประกันภัยสุทธิ เพื่อส่งเสริมให้เจ้าของรถมีการติดตั้งระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (Closed – Circuit Television : CCTV) ที่ติดตั้งกับรถยนต์ อันเป็นอุปกรณ์ที่มีส่วนช่วยในการตรวจสอบวินัยจราจร อีกทั้งใช้เป็นหลักฐานสำคัญในการยืนยันการกระทำความผิดจากการใช้รถยนต์
รวมทั้งยังออกมาตรการสนับสนุนให้ประชาชนละเว้นการเมาแล้วขับรถด้วยการออกคำสั่งนายทะเบียนที่ 11/2560 ให้แก้ไขแบบข้อความกรมธรรม์ประกันภัยและเอกสารแนบท้ายของกรมธรรม์ประกันภัย โดยปรับลดปริมาณแอลกอฮอล์ให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก ซึ่งจากเดิมระบุว่า "การขับขี่โดยบุคคลซึ่งในขณะขับขี่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเส้นเลือดไม่น้อยกว่า 150 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์" แก้ไขเป็น "การขับขี่โดยบุคคลซึ่งในขณะขับขี่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกินกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์"ให้ถือว่า "เมาสุรา" ผลก็คือ กรณีมีผู้ขับขี่รถยนต์คันเอาประกันภัยภาคสมัครใจ ขณะเกิดอุบัติเหตุมีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกินกว่า 50 มิลลิกรัมปอร์เซ็นต์จะไม่ได้รับความคุ้มครองทั้งชีวิตและทรัพย์สิน แต่บุคคลภายนอกยังได้รับความคุ้มครองจากประกันภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สินเหมือนเดิม โดยเมื่อบริษัทประกันภัยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้บุคคลภายนอกที่ได้รับความเสียหายแล้ว ก็จะไปไล่เบี้ยเรียกร้องจากผู้เอาประกันภัยที่เมาสุราต่อไป ซึ่งคำสั่งนี้จะมีผลใช้บังคับสำหรับการทำสัญญาประกันภัยภาคสมัครใจตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2560 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ คปภ. ยังได้มีการรณรงค์และสนับสนุนให้ประชาชนจัดทำประกันภัยรถยนต์ ตามเอกสารแนบท้ายกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ปลอดแอลกอฮอล์ โดยผู้เอาประกันภัยจะได้รับส่วนลดเบี้ยประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจทุกประเภทเป็นส่วนลดอื่นในอัตราร้อยละ 10 ของเบี้ยประกันภัยสุทธิ เพียงแค่ผู้เอาประกันภัยแจ้งกับบริษัทที่รับประกันภัยว่าขอเพิ่มเติมสัญญาแนบท้ายตัวนี้เพื่อใช้เป็นหลักฐานว่าผู้เอาประกันภัยจะขับขี่รถยนต์โดยปลอดแอลกอฮอล์ก็จะได้รับส่วนลดทันที่ร้อยละ 10 ซึ่งขณะนี้มีบริษัทประกันภัยที่ได้รับความเห็นชอบให้ใช้เอกสารแนบท้ายและอัตราเบี้ยประกันภัย ปลอดแอลกอฮอล์นี้แล้วทั้งสิ้น 10 บริษัท ประกอบด้วย บมจ. เทเวศประกันภัย บมจ. ทิพยประกันภัย บมจ. สมโพธิ์ เจแปน นิปปอนโคอะ ประกันภัย บมจ.ไทยศรีประกันภัย บมจ.อาคเนย์ประกันภัย บมจ.ไทยประกันภัย บมจ.กรุงเทพประกันภัย บมจ.ชับบ์สามัคคีประกันภัย บมจ. เมืองไทยประกันภัย และบมจ. ประกันภัยไทยวิวัฒน์
อีกทั้งสำนักงาน คปภ. มีนโยบายที่จะส่งเสริมให้ประชาชนมีหลักประกันความคุ้มครองอุบัติเหตุให้กับตนเองและครอบครัวโดยเฉพาะการเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์จึงร่วมกับภาคธุรกิจประกันภัยส่งมอบของขวัญชิ้นพิเศษสุด ซึ่งกรมธรรม์ประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์แบบพิเศษ เรียกว่า "กรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุสงกรานต์สุขใจ พลัส" หรือ "ประกันภัย 222" ซึ่งถือเป็นการต่อยอดความสำเร็จของกรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุเทศกาลสุขใจ หรือ ประกันภัย 100 ด้วยเบี้ยประกันภัยเพียง 222 บาทต่อปี โดยไม่ต้อง "ตาย" ก็สามารถได้รับประโยชน์จากประกันภัยซึ่งจะให้ความคุ้มครองผลประโยชน์ค่ารักษาพยาบาล เนื่องจากอุบัติเหตุไม่เกิน 5,000 บาทต่อปีเพิ่มเติมมาด้วย
ดร.สุทธิพล ในตอนท้ายว่า ด้วยความห่วงใยต่อประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2560 ที่กำลังจะมาถึงนี้ สำนักงาน คปภ. อยากฝากเตือนผู้ที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนา หรือการเดินทางท่องเที่ยว ให้ขับขี่ยานพาหนะด้วยความไม่ประมาท คาดเข็มขัดนิรภัย ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ต้องสวมหมวกนิรภัย เมาไม่ขับ พักผ่อนให้เพียงพอ เตรียมสภาพร่างกายและตรวจสภาพรถให้พร้อม และปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้สิ่งที่สำคัญก่อนการเดินทางคือการตรวจสอบกรมธรรม์ประกันภัย และวันหมดอายุของการประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ด้วย แม้ว่าการทำประกันภัย ไม่สามารถป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ แต่หากเกิดอุบัติเหตุแล้ว การประกันภัยสามารถช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของท่านได้ ทั้งนี้ ในช่วง 7 วันอันตราย สำนักงาน คปภ. ได้เปิดให้บริการรับคำปรึกษาเกี่ยวกับการประกันภัยตลอด 24 ชั่วโมงทางสายด่วน คปภ. 1186