กรุงเทพฯ--4 เม.ย.--แอร์รี่ส์
ผ่านพ้นไปอีกหนึ่งปีกับงานใหญ่ของวงการโฆษณาอย่างงานมหกรรมโฆษณาแอดเฟส งานรางวัลอันทรงเกียรติซึ่งจัดขึ้นโดยคนไทยและจัดขึ้นที่ประเทศไทยมาตลอดในช่วงเดือนมีนาคมของทุกปี โดยในปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 22-25 มีนาคม ณ โรงแรมรอยัล คลิฟ โฮเท็ล กรุ๊ป เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ครีเอทีฟและคนในวงการโฆษณาจากประเทศต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น จีน อินเดีย สิงคโปร์ นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย และอีกหลากหลายประเทศในภูมิภาคได้มารวมตัวกันที่ศูนย์ประชุมพีช โรงแรมรอยัล คลิฟ โฮเท็ล กรุ๊ปพัทยา จังหวัดชลบุรี และเนื่องจากมหกรรมโฆษณาแอดเฟสมีอายุครบ 20 ปีในปีนี้ ธีมของงาน "20 Years of Diversity"จึงมีความเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เรียกได้ว่าเป็นจุดเด่นของงานอย่าง การมุ่งเน้นนำเสนองานซึ่งคงไว้ซึ่งอัตลักษณ์และความหลากหลายของเชื้อชาติ ภาษา วัฒนธรรม และศาสนา ซึ่งภูมิภาคนี้ได้ชื่อว่าเป็นภูมิภาคที่มีความหลากหลายที่สุดในโลก ความหลากหลายอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวนี้เองที่เป็นจุดกำเนิดของความคิดและความเชื่อที่นำมาสร้างสรรค์งานอันเป็นเลิศมากมายนับไม่ถ้วน ซึ่งในปีนี้มีคนในวงการโฆษณาจากภูมิภาคเอเซียแปซิฟิคและตะวันออกกลาง เข้าร่วมงานเกือบ 1,200 คน จาก 72 เมือง 32 ประเทศ
งานนี้ประกอบไปด้วยกิจกรรมหลัก 3 ส่วนด้วยกัน ได้แก่ การประกวดผลงานโฆษณา การบรรยายของนักคิดสร้างสรรค์งานโฆษณา และการแสดงนิทรรศการผลงานที่ส่งเข้าประกวด และกิจกรรมเสริม 2 ส่วน ได้แก่ Young Lotus Creative Workshopและ Fabulous Four New Directors อีกทั้งยังมีการพบปะเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของนักโฆษณามืออาชีพจากทั่วโลก ซึ่งเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการจัดงานที่มุ่งยกระดับมาตรฐานงานโฆษณา เป็นเวทีพบปะสังสรรค์แลกเปลี่ยนความรู้และทัศนคติระหว่างบุคคลในแวดวงโฆษณาและบริษัทที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจโฆษณา
ซึ่งในส่วนของการประกวดผลงานโฆษณาในปีนี้นั้น มีผลงานเข้าประกวดรวมทั้งสิ้น 3,011 ชิ้นงาน ใน 18 ประเภท ซึ่งถูกตัดสินโดยคณะกรรมการทั้งสิ้น 56 คน จาก 20 เมืองทั่วทวีปเอเชียแปซิฟิคและตะวันออกกลาง และที่มาไกลมากคือคนสำคัญที่สุดคนหนึ่งของงาน นั่นก็คือ Ted Royer ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายสร้างสรรค์ ของเอเจนซี่ดังจากกรุงนิวยอร์คที่ชื่อ "Droga 5" ซึ่งบินตรงมาทำหน้าที่ ประธานคณะกรรมการตัดสิน โดยกรรมการตัดสินทั้ง 18 ประเภทได้พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า มีผลงานดีๆ ให้เห็นมากมายในปีนี้ และผลของการประกวดทั้ง 18 ประเภทก็คือ
Interactive Lotus มีการส่งงานเข้าประกวดทั้งสิ้น 204 ชิ้น กรรมการได้ตัดสินใจให้ 15 รางวัลโดยเป็น Gold 3 รางวัล เป็น Silver 8 รางวัล และ Bronze 4 รางวัล ซึ่งรางวัล Gold ทั้ง 3 รางวัลได้แก่
- งาน "Life is Electric" จาก Panasonic และ "DNA Glass" จาก Suntory ซึ่งส่งโดย Dentsu Inc, Tokyo
- งาน "Reword" จาก Reword brand work ส่งโดย Leo Burnett Melbourne
- งาน "Hello" จาก NZ Transport Agency ส่งโดย Clemenger BBDO Wellington
Mobile Lotus มีการส่งงานทั้งสิ้น 89 ชิ้นงาน และกรรมการได้ให้ 17 รางวัล โดยแบ่งออกเป็น Grande Lotus 1 รางวัลGold 3 รางวัล Silver 7 รางวัล และ Bronze 6 รางวัล โดยรายละเอียดคือ
- งาน "Kibo Science 360 – A Space Experiment with Google" จาก Google ส่งโดย Dentsu TEC Inc., Tokyoที่ได้รับรางวัล Grande
ส่วนอีก 3 งานที่ได้รับรางวัล Gold คือ
- งาน "A Dog's Story" จาก Pedigree Dog Food ส่งโดย Colenso BBDO Auckland
- งาน "Native Mobile Music Video" จาก Lyrical School's ส่งโดย TBWA/Hakuhodo Inc.,Tokyo
- งาน "Signemoji" จาก China Association of Deaf ส่งโดย TBWA/ Shanghai
Print Craft Lotus มีการส่งผลงานทั้งสิ้น 165 ชิ้นงาน และกรรมการตัดสินใจให้ 21 รางวัล โดยแบ่งออกเป็น Gold 2รางวัล Silver 8 รางวัล และ Bronze 11 รางวัล ซึ่ง Gold 2 รางวัลนั้นตกเป็นของ Hakuhodo Indonesia และ Illusion Bangkok จากงาน "Liquid Navy Seals" ของ Vidisep Providone Iodine
Design Lotus มีการส่งผลงานทั้งสิ้น 242 ชิ้นงาน และกรรมการตัดสินใจให้ 29 รางวัล โดยแบ่งออกเป็น Grande 1รางวัล Gold 4 รางวัล Silver 11 รางวัล และ Bronze 13 รางวัล โดยรางวัล Gold ทั้ง 4 รางวัลตกเป็นของ Dentsu โดยรายละเอียดมีดังนี้
- งาน "Life is Electric" จาก Panasonic และ "Slow Train, Slow Life/ Get Back Tohoku" โดย Dentsu Inc., Tokyo
- งาน "Mist-ery Train/ Sea Train" จาก Kyoto Tango Railway โดย Dentsu Inc., Tokyo และ Dentsu Meitetsu Communications, Nagoya
- งาน "Picture Book without Pictures" จาก Instax ส่งโดย Beijing Dentsu Advertising Co., Ltd. และ Beijing and Dentsu Inc., Tokyo
Direct Lotus มีการส่งผลงานทั้งสิ้น 256 ชิ้นงาน กรรมการตัดสินใจให้ 34 รางวัล โดยแบ่งออกเป็น Grande Lotus Award 1 รางวัล Gold 8 รางวัล Silver 15 รางวัล และ Bronze 10 รางวัล โดยรายละเอียดของรางวัล Grande ได้มอบให้แก่ งาน "Touchable Ink" จาก Thai Sumsung Electronics และ Thai Association For The Blind Gold ส่งโดย J Walter Thompson Bangkok และ Gold ทั้ง 8 รางวัลคือ
- งาน "Hello" จาก NZ Transport Agency ส่งโดย Clemenger BBDO Wellington
- งาน "Heat Tech Window" จาก Heat Tech ส่งโดย Cheil Worldwide Seoul
- งาน "X-Ray Casts" จาก Anchor ส่งโดย Colenso BBDO Auckland
- งาน "The Riderless Bike" จาก Steve Waugh Foundation ส่งโดย Havas Group/Red Agency Sydney
- งาน "Pocket Patrol" จาก Samsung ส่งโดย Leo Burnett Sydney
- งาน "Made Possible by Melbourne" จาก University of Melbourne ส่งโดย McCann Melbourne
- งาน "Safe & Sound Music Player" จาก LMG Insurance Road Safety Campaign ส่งโดย BBDO Bangkok
- งาน "Absorbplate" จาก Thai Health Promotion Foundation ส่งโดย BBDDO Bangkok
Promo Lotus มีผลงานส่งทั้งสิ้น 248 ชิ้นงาน โดยกรรมการได้ตัดสินใจให้ 33 รางวัล โดยแบ่งเป็น Grande 1 รางวัลGold 6 รางวัล Silver 15 รางวัล และ Bronze 11 รางวัล ซึ่งรางวัล Grande ตกเป็นของงาน "The Dead Hour by Nescafe" จาก Nescafe โดย McCann Worldgroup India และส่วน Gold ทั้ง 6 รางวัลนั้น 2 รางวัลเป็นของงาน "YMCAPlaynasium" จาก YMCA Victoria โดย McCann Melbourne ส่วนอีก 4 รางวัลมีรายละเอียดคือ
- งาน "Adidas Odds" จาก Adidas โดย Taproot Dentsu, Mumbai
- งาน "A Table To End Hunger" จาก The Hunger Project Australia โดย McCann Sydney/DEC PR Sydney
- งาน "Reword" จาก Reword โดย Leo Burnett Melbourne
- งาน "Made Possible ByMelbourne" จาก University of Melbourne โดย McCann Melbourne
Press Lotus มีผลงานส่งทั้งสิ้น 127 ชิ้นงาน และกรรมการตัดสินใจให้ 8 รางวัล โดยแบ่งเป็น Gold 2 รางวัล Silver 2รางวัล และ Bronze 4 รางวัล โดย Gold นั้นเป็นของ
- งาน "Balloons Campaign" จาก Snickers โดย Impact BBDO Dubai
- งาน "The Battle" จาก World Explorer โดย Ogilvy Group Thailand
Outdoor Lotus มีผลงานส่งทั้งสิ้น 258 ชิ้นงาน และกรรมการตัดสินใจให้ 20 รางวัล โดยแบ่งเป็น Grande 1 รางวัล Gold 2 รางวัล Silver 9 รางวัล และ Bronze 8 รางวัล โดยรางวัล Grande นั้นตกเป็นของ TBWA/Hakuhodo Tokyo จากงาน"Giga Selfie" ของ Australia ส่วน Gold ทั้ง 2 รางวัลนั้นเป็นของ
- งาน "Landcruiser Emergency Network" จาก Toyota โดย Saatchi & Saatchi, Sydney, Australia
- งาน "The Unusual Football Field" จาก AP Thailand Public Co., Ltd. โดย CJ Worx Bangkok
New Director Lotus มีผลงานส่งทั้งสิ้น 13 ชิ้นงานรวมไปถึง Fabulous Four และรายละเอียดรางวัลที่ได้คือ Silver 1รางวัล และ Bronze 3 รางวัล
Film Craft Lotus มีผลงานส่งทั้งสิ้น 287 ชิ้นงาน โดยกรรมการตัดสินใจให้ 37 รางวัล โดยแบ่งเป็น Gold 4 รางวัล Silver 18 รางวัล Bronze 15 รางวัล โดย Gold ทั้ง 4 รางวัลเป็นของ
- งาน "Consequences" จาก Transport Accident Commission โดย Clemenger BBDO Melbourne/ Finch Sydney
- งาน "Hot Drive" จาก JMS โดย Hakuhodo Kettle Inc., /Hakuhodo Inc., Tokyo
- งาน "A Quarrel" จาก Netflix โดย Dentsu Inc.,/ Dash Co., Ltd.
- งาน "Adidas A Tale Of Two" จาก Adidas โดย Taproot Dentsu Mumbai
Radio Lotus มีผลงานส่งทั้งสิ้น 76 ชิ้นงาน และกรรมการได้ตัดสินใจให้ 6 รางวัลโดยแบ่งเป็น Gold 1 รางวัล Silver 1รางวัล และ Bronze 4 รางวัล โดย Gold นั้นตกเป็นของ McCann Worldgroup India Mumbai จากงาน "The Dead Hour By Nescafe" จาก Nescafe
Film Lotus มีผลงานส่งทั้งสิ้น 366 ชิ้นงาน ซึ่งถือว่าเป็นประเภทที่มีผลงานส่งประกวดมากที่สุด และกรรมการได้ตัดสินใจให้ 25 รางวัล โดยแบ่งเป็น Gold 3 รางวัล Silver 7 รางวัล และ Bronze 15 รางวัล โดย Gold นั้นมีรายละเอียดคือ
- งาน "The World's First Kawaii (Cute) Miso Soup" จาก Dentsu Inc., / Tohokushinsha Film Corporation
- งาน "The Lucky Ones" จาก Parkinson's NSW โดย J Walter Thompson Sydney
- งาน "Native Mobile Music Video" จาก Lyrical School โดย TBWA/ Hakuhodo Inc., Tokyo
Effective Lotus มีผลงานส่งทั้งสิ้น 54 ชิ้นงาน และกรรมการได้ตัดสินใจให้ 7 รางวัล โดยเป็น Grande 1 รางวัล และEffective หรือ Gold อีก 6 รางวัล โดย Grande นั้นตกเป็นของ Dentsu Inc., Osaka และ Garigarikun Production Co., Ltd. ส่วน Effective นั้นมีรายละเอียดคือ
- งาน "Name It Burger" จาก McDonald's โดย DO (Dentsu & Beacon)/ Leo Burnett and Beacon Communication KK, Tokyo
- งาน "Pocket With Love" จาก Tencent Charity/ Xihan Action โดย Publicis China, Guangzhou
- งาน "Free Puppies Forever" จาก Seeing Eye Dogs Australia โดย McCann Melbourne
- งาน "Cat Street View" จาก Hiroshima Tourism โดย I&S BBDO Tokyo
- งาน " Second Life Toys" จาก Organ Transplant โดย Dentsu Inc., Tokyo
- งาน "Forward The Cure" จาก Uhmpang Hospital Foundation โดย The Leo Burnett Group Thailand
Media Lotus มีผลงานส่งทั้งสิ้น 250 ชิ้นงาน และกรรมการได้ตัดสินใจให้ 35 รางวัล โดยแบ่งเป็น Grande 1 รางวัล Gold 10 รางวัล Silver 15 รางวัล และ Bronze 9 รางวัล โดยรางวัล Grande นั้นตกเป็นของ CJ Worx จากงาน "The Unusual Football Field" ของ AP Thailand Public Company Limited และรางวัล Gold 10 รางวัลนั้นมีรายละเอียดคือ
- งาน "Spread The Joy" จาก Samsung Televisions โดย Cheil India, Gurgaon
- งาน "Singing Nature" จาก New Music Promotion for Shinichi Osawa โดย J Walter Thompson Japan, Tokyo
- งาน "Toilet Paper For Smart Phones" จาก Services for Travelers โดย Tokyo Agency Inc., Tokyo
- งาน "Heat Tech Window" จาก Heat Tech โดย Cheil Wordwide Seoul
- งาน "Still Life" จาก End ALS โดย McCann Erickson Japan, Tokyo
- งาน "Dettol Germbusters" จาก Dettol โดย McCann Worldgroup India, Mumbai
- งาน "Amnesty Unblocker" จาก World Day Against Cyber Censorship โดย Colenso BBDO Auckland
- งาน "Landcruiser Emergency Network" จาก Toyota โดย Saatchi & Saatchi Sydney
- งาน "Reword" จาก Reword โดย Leo Burnett Melbourne
- งาน "The Missing Look-Alike" จาก Missing Person Center โดย BBDO Bangkok
Branded Content & Entertainment Lotus ซึ่งเป็นประเภทรางวัลที่โตขึ้นอย่างมากโดยมีผลงานส่งทั้งสิ้น 154 ชิ้นงาน โดยกรรมการได้ตัดสินใจให้ 11 รางวัล แบ่งเป็น Branded Content 10 รางวัล และ Grande Branded Content อีก 1รางวัล โดย Grande Branded Content นั้นตกเป็นของ Dentsu Taiwan Inc., Taipei จากงาน "Single Belief" ของ The Glenlivet
Integrated Lotus มีผลงานส่งเข้าทั้งสิ้น 24 ชิ้นงาน โดยกรรมการตัดสินใจมอบรางวัลให้ทั้งสิ้น 1 รางวัลโดยเป็นรางวัลIntegrated Lotus โดยรางวัลนี้ตกเป็นของ Taproot Dentsu, Mumbai จากงาน "Adidas Odds" ของ Adidas
Innova Lotus มีผลงานส่งเข้าทั้งสิ้น 36 ชิ้นงาน คณะกรรมการตัดสินใจมอบรางวัลให้ 3 รางวัลแบ่งเป็น Grande Innova Lotus 1 รางวัล ซึ่งตกเป็นของ Dentsu Inc., Tokyo จากงาน "Smile Lock Outlet" ของ Toyota I-Road และอีก 2 รางวัล ซึ่งก็คือ Innova Lotus ได้แก่
- งาน "Landcruiser Emergency Network" จาก Toyota โดย Saatchi& Saatchi Sydney
- งาน "Reword" จาก Reword โดย Leo Burnett Melbourne
Lotus Roots ซึ่งถือเป็นหัวใจของแอดเฟส อีกทั้งยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับธีมในปีนี้ นั่นก็คือ 20 Years of Diversity ซึ่งปีนี้มีผลงานส่งเข้ามาทั้งสิ้น 162 ชิ้นงาน คณะกรรมการตัดสินใจให้ 4 รางวัล แบ่งเป็น Grande 1 รางวัล และ Lotus Roots 3 รางวัล โดย Grande นั้นตกเป็นของ TBWA/Santiago Mangada Puno, Manila จากงาน "Correcting History"ของ Campaign Against The Return of the Marcoses to Malacanang ส่วนรางวัล Lotus Roots 3 รางวัล นั้นได้ให้กับ
- งาน "Heart to Heart: All for that First Hello" จาก Elevit โดย J Walter Thompson Shanghai
- งาน "Legally Bride" จาก KAFA Woman's Rights NGO โดย Leo Burnett Beirut
- งาน "Wardrobe Apartment" จาก Society for Community Organisation โดย BBDO Hong Kong
ในงานยังมีการมอบรางวัลพิเศษอย่าง Lotus Legend ให้กับบุคคลระดับตำนานในวงการโฆษณาที่ได้ทำคุณประโยชน์และผลงานดีๆ มากมายให้กับวงการ ซึ่งถือเป็นเรื่องน่ายินดีที่ในปีนี้แอดเฟสได้มอบรางวัลนี้ให้กับ สุทธิศักดิ์ สุจริตตานนท์ประธานและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสร้างสรรค์ บีบีดีโอ กรุงเทพ ซึ่งถือเป็นคนไทยคนแรกที่ได้รับรางวัลนี้
ในส่วนของการบรรยายนั้น ในปีนี้ทางแอดเฟสได้ต้อนรับวิทยากรที่มีชื่อเสียงระดับโลกและทรงอิทธิพลต่อวงการโฆษณาในสาขาต่างๆ จากทั่วทุกมุมโลกมาบรรยายในหัวข้อต่างๆ เพื่อให้ความรู้และสร้างแรงบันดาลใจ พร้อมจุดประกายความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ใหม่ๆ ให้กับคนในวงการเพื่อนำไปสร้างสรรค์งานที่มีคุณภาพ อาทิ Luke Ritchie จาก Interactive Arts กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ Claudia Cristovao จาก AKQA กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น Rohit Ohri จาก FCB India กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย และกราฟฟิกดีไซเนอร์สาวไทยคนเก่งที่ไปโด่งดังไกลถึงกรุงวอชิงตันดีซี Pum Lefebure ผู้ก่อตั้ง Design Army ณ กรุงวอชิงตันดีซี ประเทศสหรัฐอเมริกา
ค้นหารายละเอียดหรือข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.ADFEST.com