กรุงเทพฯ--4 เม.ย.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ประสานจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออก เฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เตรียมพร้อมรับมือพายุฤดูร้อนช่วงวันที่ 31 มีนาคม - 2 เมษายน 2560 ในขณะที่ภาคใต้จะมีฝนตกเพิ่มขึ้นและฝนตกหนักหลายพื้นที่ ในช่วงวันที่ 31 มีนาคม – 4 เมษายน 2560 โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศและเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด จัดเตรียม ชุดเคลื่อนที่เร็ว และวัสดุอุปกรณ์ให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างทันท่วงที รวมถึงตรวจสอบสิ่งก่อสร้างและป้ายโฆษณาให้อยู่ในสภาพมั่นคงแข็งแรง ตัดแต่งกิ่งไม้และต้นไม้ที่เสี่ยงต่อการโค่นล้มบริเวณริมถนนและในพื้นที่ชุมชน เพื่อป้องกันอันตรายจากการล้มทับในช่วงที่มีลมกระโชกแรง
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ประเทศไทยมีสภาวะอากาศแปรปรวน ซึ่งจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง กับลูกเห็บตกบางพื้นที่ ซึ่งมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ ดังนี้ ช่วงวันที่ 31 มีนาคม – 2 เมษายน 2560จะมีพายุฤดูร้อนบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล และช่วงวันที่ 1 – 4 เมษายน 2560 ภาคใต้จะมีฝนตกเพิ่มขึ้น และฝนตกหนักหลายพื้นที่ ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงได้ประสานจังหวัด ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 1 - 18 และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัย เตรียมพร้อมรับมือสภาพอากาศแปรปรวน พายุฤดูร้อน และ ฝนตกหนักบางพื้นที่ในช่วงวันที่ 31 มีนาคม – 4 เมษายน 2560 โดยจัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด เฝ้าระวังสถานการณ์ภัยตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งจัดเตรียมเจ้าหน้าที่ชุดเผชิญเหตุ อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ทีมกู้ชีพกู้ภัยประจำตำบล ชุดกู้ชีพกู้ภัยทางน้ำและทางทะเล รวมถึงเครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยง ให้พร้อมปฏิบัติเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทันทีที่เกิดภัย รวมถึงตรวจสอบสิ่งก่อสร้างในพื้นที่สาธารณะและป้ายโฆษณาให้อยู่ในสภาพมั่นคงแข็งแรง ตัดแต่งกิ่งไม้และต้นไม้ที่เสี่ยงต่อการโค่นล้มบริเวณริมถนนและในพื้นที่ชุมชน เพื่อป้องกันอันตรายจากการล้มทับ พร้อมแจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังอันตรายจากสภาพอากาศแปรปรวน โดยดำเนินการผ่านวิทยุกระจายเสียง เสียงตามสาย หอกระจายข่าวประจำหมู่บ้าน เครือข่ายวิทยุสมัครเล่น สถานีโทรทัศน์ เคเบิ้ลทีวี และสื่อสังคมออนไลน์ สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ติดตามพยากรณ์อากาศและปฏิบัติตามประกาศเตือนภัยอย่างเคร่งครัด จัดเก็บสิ่งของที่ปลิวลมได้ในที่มิดชิด ดูแลสิ่งปลูกสร้างให้อยู่ในสภาพมั่นคงแข็งแรง โดยเฉพาะต้นไม้ที่เสี่ยงต่อการหักโค่น เมื่อเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ให้หลบเข้าไปอยู่ในอาคารหรือบ้านเรือนที่มั่นคงแข็งแรงปิดประตูและหน้าต่างให้มิดชิด เพื่อป้องกันแรงลมพัดสิ่งของเข้ามาในบ้าน ไม่หลบใต้ต้นไม้ใหญ่ใกล้ป้ายโฆษณา เสาไฟฟ้า หรือ สิ่งปลูกสร้างที่ไม่มั่นคงแข็งแรง รวมถึงไม่เข้าใกล้บริเวณที่เป็นโลหะ ไม่สวมใส่เครื่องประดับประเภทเงิน ทอง นาค รวมถึงงดเว้นการใช้เครื่องมือสื่อสารและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในช่วงที่เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง เพื่อป้องกันอันตรายจากการ ถูกฟ้าผ่า ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนพายุฤดูร้อนสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป