กรุงเทพฯ--4 เม.ย.--IR network
ผู้ถือหุ้น FPI ผ่านฉลุย!!! เคาะจ่ายปันผลในอัตรา 0.10 บาท/หุ้น ในวันที่ 28 เม.ย.นี้ พร้อมอนุมัติออกหุ้นกู้วงเงินไม่เกิน 1,000 ล้านบาท รองรับแผนขยายการลงทุน ลุยโรงไฟฟ้าชีวมวลเต็มเหนี่ยว "สมพล ธนาดำรงศักดิ์"มั่นใจรายได้-กำไร ปี"60 ทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง อานิสงส์ออเดอร์ใหม่งาน OEM ทะลัก จ่อบุ๊ครายโรงไฟฟ้าขนาดกำลังการผลิต 7.5 MW เข้ามาทันทีในไตรมาส 2/60 นี้
นายสมพล ธนาดำรงศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) (FPI) เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2560 มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับงวดผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม-31 ธันวาคม 2559 ในอัตรา 0.10 บาท/หุ้น กำหนดจ่ายวันที่ 28 เมษายน 2560 พร้อมอนุมัติให้ออกและเสนอขายหุ้นกู้วงเงินไม่เกิน 1 พันล้านบาท เพื่อเสริมสภาพคล่อง หรือเป็นเงินลงทุนในการขยายธุรกิจ และเป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท
สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2560 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ในส่วนของกำไรคาดว่าจะทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง โดยได้รับปัจจัยหนุนจากออเดอร์ใหม่ที่มีเข้ามาตลอด โดยเฉพาะงานด้าน OEM จากลูกค้าในยุโรป ซึ่งปัจจุบันได้รับความไว้วางใจในการส่งคำสั่งผลิตเพิ่มขึ้นตลอด โดยงานผลิตชิ้นส่วนแบบ OEM ถือว่ามีอัตรากำไรขั้นต้นค่อนข้างสูง ทำให้กำไรเติบโตอย่างโดดเด่น ปัจจุบันมีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) ประมาณ 900 ล้านบาท ซึ่งทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ 450 ล้านบาท ส่วนที่เหลือรับรู้ในปี 2561
เขากล่าวอีกว่า เพื่อเป็นการเพิ่มแหล่งที่มาของรายได้ และกระจายความเสี่ยงการดำเนินธุรกิจ สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น บริษัทฯได้มีการรุกเข้าสู่ธุรกิจพลังงานทดแทน โดยได้ร่วมมือกับบริษัท อีซีเอฟ พาวเวอร์ จำกัด (ECF-P) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บมจ.อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค (ECF) จัดตั้งบริษัท เซฟ เอนเนอร์จี โฮลดิ้งส์ จำกัด (SAFE) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุน ได้เซ็นสัญญาเข้าซื้อโครงการโรงไฟฟ้าของบริษัท ไพร์ซ ออฟ วู้ด กรีน เอนเนอร์จี จำกัด ขนาดกำลังการผลิต 7.5 เมกะวัตต์ คาดว่าจะสามารถจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบในเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ในต้นไตรมาส 2/60 นี้ ซึ่งจะทำให้บริษัทฯเปิดฉากรับรู้รายได้จากธุรกิจพลังงานทดแทนเข้ามาทันทีในปีนี้
อนึ่ง ผลการดำเนินงานของบริษัทฯในปี 2559 มีรายได้รวม 2,028.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 171.38 ล้านบาท หรือ 9.23% เมื่อเทียบกับปี2558 ที่มีรายได้รวม 1,857.47 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 287.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 94.20 ล้านบาท หรือ 48.79% สูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้รับปัจจัยหนุนจากต้นทุนต่อหน่วยที่ลดลงจากการเพิ่มกำลังการผลิต ต้นทุนวัตถุดิบ และต้นทุนทางการเงินที่ปรับตัวลดลง