กรุงเทพฯ--4 เม.ย.--พีอาร์ดีดี
สภาวะตลาดวันที่ 04 เมษายน 2560 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,253.76-1,260.09 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 20,550 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 250 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,300 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFJ17 อยู่ที่ 20,600 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 230 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,300 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.39 น.ของวันที่ 04/04/2560)
แนวโน้มวันที่ 05 เมษายน 2560
นักเศรษฐศาสตร์ในโพลล์รอยเตอร์เคยคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)จะเริ่มต้นยุติ reinvestment ในปี 2561โดยการยุติ reinvestment จะส่งผลให้อัตราผลตอบแทนในตลาดปรับสูงขึ้น ในขณะที่เฟดเป็นผู้ถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐรายใหญ่ที่สุดในโลก ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เฟดเริ่มออกมาแสดงความเห็นสนับสนุนแนวคิดดังกล่าว เห็นได้จาก นายแพทริค ฮาร์เคอร์ ประธานเฟด สาขาฟิลาเดลเฟีย กล่าวในต้นสัปดาห์ว่า เฟดอาจจะเริ่มต้นปรับลดขนาดการถือครองตราสารหนี้ลงในปี 2560 ในขณะที่เจ้าหน้าที่เฟดคนอื่นๆ เคยกล่าวเตือนเช่นกันว่า เฟดอาจจะปรับลดนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจลงในไม่ช้า ประเด็นดังกล่าว กดดันราคาทองคำ ซึ่งนักลงทุนจับตารายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ในคืนวันพุทธนี้ หลังจากเฟดเพิ่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ 0.75-1.00% ในวันที่ 15 มี.ค. โดยเฟดคาดการณ์ว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้ ซึ่งรายงานดังกล่าวจะเพิ่มความชัดเจนเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายทางด้านดอกเบี้ยของเฟดให้ชัดเจนมากขึ้น อย่างไรก็ตาม นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยจาก ความวิตกเกี่ยวกับความตึงเครียดจากเหตุก่อการร้ายระเบิดที่สถานีรถไฟใต้ดินนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 11 รายและบาดเจ็บ 45 รายนั้น เป็นการกระทำของมือระเบิดฆ่าตัวสำหรับมุมมองของวายแอลจีที่มีต่อราคาทองคำนั้น ประเมินว่าหากราคาทองคำขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,260-1,272 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากไม่สามารถผ่านไปได้ ทำให้ราคาเกิดการอ่อนตัวลง แต่หากการอ่อนตัวของราคาทองคำยังคงสามารถยืนเหนือโซนบริเวณ 1,239-1,235 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ โดยราคาทองคำยังมีโอกาสทดสอบแนวต้าน ซึ่งการแกว่งตัวของราคาทองคำยังถือเป็นโอกาสให้นักลงทุนระยะสั้นเข้าซื้อเก็งกำไร
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำในระยะสั้นยังเคลื่อนไหวในกรอบ ซึ่งบริเวณแนวต้าน 1,260-1,263 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 1,272 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยบริเวณนี้อาจแรงขายทำกำไรออกมาซึ่งนักลงทุนยังคงต้องระมัดระวัง โดยให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ถ้าสามารถผ่านไปได้ให้แนะนำให้ถือต่อไป เพื่อไปขายทำกำไรที่แนวต้านถัดไป และหากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมา ไม่หลุดแนวรับ แนะนำนักลงทุนสามารถเก็งกำไรระยะสั้น โดยเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้น ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,239-1,235 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,222 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,239 (20,150บาท) 1,222 (19,900บาท) 1,216 (19,800บาท)
แนวต้าน 1,260 (20,500บาท) 1,272 (20,700บาท) 1,280 (21,150บาท)
GOLD FUTURES (GFJ17)
แนวรับ 1,239 (20,280บาท) 1,222 (20,000บาท) 1,216 (19,900บาท)
แนวต้าน 1,260 (20,630บาท) 1,272 (20,820บาท) 1,280 (21,270บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999