กรุงเทพฯ--4 เม.ย.--สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้มีการลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าผลการดำเนินงานโครงการตามนโยบายของรัฐบาลและของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ทั้ง 4 โครงการ ได้แก่
1. โครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน (คทช.) ของคณะอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพ ณ พื้นที่ตำบลแม่ทา อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ โดยกระทรวงเกษตรฯ ได้ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลแม่ทา ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพเกษตรกร ในการจัดหาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรก่อสร้างฝายพร้อมระบบส่งน้ำ ก่อสร้างอ่างเก็บน้ำ และซ่อมแซมอ่างเก็บน้ำ พร้อมทั้งส่งเสริมการใช้สารอินทรีย์ลดการใช้สารเคมีทางการเกษตร การปลูกผักอินทรีย์ การเลี้ยงโคนม และโคขุน
2.โครงการ 5 ประสาน สืบสานเกษตรทฤษฎีใหม่ ถวายในหลวงโดยติดตามความก้าวหน้า ณ แปลงเกษตรกร Cell ต้นกำเนิด จำนวน 2 ราย คือ นางจันทร์ทิพย์คำเขียว บ้านเลขที่ 17/1 หมู่ 7 ต.ห้วยทรายอ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ และ นายกล้าณรงค์ กิติออน บ้านเลขที่ 29/1 หมู่ 4 ต.ร้องวัวแดงอ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ โดยพบว่าเกษตรกรมีการจัดแบ่งพื้นที่การเกษตรที่เหมาะสม มีการทำการเกษตรที่หลากหลาย เช่น ปลูกพืชผสมผสานเลี้ยงไก่ เลี้ยงปลา เพื่อสร้างรายได้หมุนเวียนให้แก่ครอบครัว ลดค่าใช้จ่ายในการทำเกษตรโดยผลิตหัวเชื้อจุลินทรีย์เพื่อการกำจัดโรคและแมลงในพืชใช้เอง อีกทั้งจดบันทึกบัญชีครัวเรือนเพื่อช่วยวางแผนการใช้จ่ายเงินในครัวเรือนให้เหมาะสมกับรายได้ที่ได้รับ
3. การขับเคลื่อนการดำเนินงานตามระบบส่งเสริมการเกษตรแปลงใหญ่ ณ ศูนย์เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้า เกษตร อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นศูนย์เรียนรู้ทางการเกษตรแก่เกษตรกรในพื้นที่และผู้ที่สนใจ เข้ามาศึกษาหาความรู้ที่หลากหลาย เช่น การทำเกษตรผสมผสาน การปลูกข้าวอินทรีย์ การเลี้ยงไก่ประดู่หางดำเชียงใหม่ การเลี้ยงปลาในกระชังการผลิตอาหารสัตว์เพื่อลดต้นทุน (วัวเนื้อ) การทำน้ำส้มควันไม้ การรวมกลุ่มด้านหัตถกรรมเพื่อสร้างรายได้เสริม และ การท่องเที่ยวเชิงเกษตร
และ 4. การแก้ไขปัญหาภัยแล้ง โดยมอบนโยบายให้ทุกภาคส่วนรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรวางแผนการใช้น้ำอย่างประหยัดและรู้คุณค่า ตลอดทั้งบูรณาการการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันโดยให้เกษตรกรไถกลบตอซังแทนการเผา นำเศษวัสดุพืชหรือหญ้าแห้งกลบโคนต้นไม้เพื่อรักษาความชื้นในดินและเป็นปุ๋ยหมัก การทำแนวเขตกันชนไฟป่า นอกจากนี้ ได้ประชาสัมพันธ์เรื่องการทำปฏิบัติการทำฝนหลวง โดยเกษตรกรสามารถขอรับการบริการได้ที่ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานเกษตรจังหวัดเชียงใหม่ และสำนักงานเกษตรอำเภอในพื้นที่
"จากการลงพื้นที่ติดตามงานในครั้งนี้ พบว่าเกษตรกรได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการผลิตไปสู่เกษตรปลอดภัยและเกษตรอินทรีย์มากขึ้น มีการลดการปลูกพืชเชิงเดี่ยว ลดการใช้สารเคมีทางการเกษตรและหันมาพึ่งพาตนเองโดยการผลิตเชื้อจุลินทรีย์เพื่อการกำจัดโรคและแมลงในพืชใช้เอง รู้จักการรวมกลุ่มเพื่อสร้างความเข้มแข็ง โดยสิ่งสำคัญที่นำมาสู่การเปลี่ยนแปลง คือ การน้อมนำแนวคิดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาเป็นหลักชัยในการทำการเกษตรศึกษาให้เข้าใจ และนำมาสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม ทำให้เกษตรกรเกิดความสุขและภาคภูมิใจในการเป็นเกษตรกรมืออาชีพอย่างแท้จริง" นายธีรภัทร กล่าว