กรุงเทพฯ--7 เม.ย.--นานมี
นายศุภชัย สุพุทธิพงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัทนานมี กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่าย เครื่องเขียน เครื่องใช้สำนักงาน และอุปกรณ์ศิลปะรายใหญ่ของประเทศไทย ภายใต้เครื่องหมายการค้า 6 แบรนด์ ได้แก่ ตราม้า, นานมี, แอโรว์, Max ,ศิลปากรประดิษฐ์ และวิจิตรรงค์ โดยในปีที่ผ่านมามียอดจำหน่ายอยู่ที่ 1 พันล้านบาทต่อปี ซึ่งแบ่งเป็นยอดขายในประเทศร้อยละ 80 และอีก 20 เปอร์เซ็นต์เป็นมูลค่าของสินค้าที่ส่งออกยังต่างประเทศกว่า 60 ประเทศทั่วโลก แบ่งเป็นตลาดยุโรป 40% เซ้าท์อีสต์เอเชีย 40 % และตะวันออกกลางอีก 20 % โดยหมวดสินค้ากลุ่มแฟ้มและเครื่องเขียนได้รับความนิยมมากที่สุดและมียอดขายในแต่ละปีเพิ่ม 20% สินค้าที่กำลังได้รับความสนใจจากผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศคือสินค้าลิขสิทธิ์จากภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องดัง โดยล่าสุดบริษัทเพิ่งได้รับลิทธิ์เป็นผู้จัดจำหน่ายเครื่องเขียนและสี "โปเกมอน (Pokemon)" การ์ตูนขวัญใจคนทั่วโลก รวมทั้งรับผลิตสินค้า OEM ให้กับ House Brand หน่วยงานและองค์กร นอกจากนี้บริษัทได้ปรับปรุงขยายโรงงานและกำลังการผลิต โดยขยายไลน์สินค้าเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคมากขึ้น พร้อมชูจุดขายด้านคุณภาพควบคู่ไปกับการกำหนดราคาที่คุ้มค่า เน้นการพัฒนาเทคโนโลยีด้านการผลิตควบคู่กับการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม พร้อมผลักดันไทยให้เป็นศูนย์กลางธุรกิจเครื่องเขียนที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย
"ปัจจุบันนานมีได้ขยายสินค้าออกเป็นหลายกลุ่มตามไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคที่มีความหลากหลาย อาทิ กลุ่มอุปกรณ์เครื่องใช้สำนักงาน กลุ่มอุปกรณ์จัดเก็บเอกสาร กลุ่มเครื่องเขียน กลุ่มสี กลุ่มอุปกรณ์ศิลปะ กลุ่มสินค้าลิขสิทธิ์ และกลุ่มสินค้าสั่งทำ ซึ่งมีสินค้ากว่า 3,000 รายการ พร้อมตอบโจทย์ผู้บริโภคทุกกลุ่มทั้งเด็ก นักเรียนนักศึกษา วัยทำงาน คนรุ่นใหม่ หน่วยงานและองค์กร และประชาชนทั่วไป บริษัทยังได้ปรับดีไซน์และประโยชน์การใช้งานให้ง่าย ทันสมัย สีสันและลวดลายถูกใจคนรุ่นใหม่มากขึ้น นอกจากนี้ยังได้นำนวัตกรรมใหม่ๆเข้ามาใช้ในกระบวนการผลิต อาทิ เทคโนโลยีผลิตหัวปากการุ่นใหม่ที่มีความแข็งแรงทนทานคู่กับน้ำหมึกรุ่นใหม่(Half Gel) เพื่อทำให้การเขียนไหลลื่น ไม่สะดุด นอกจากนี้บริษัทยังเน้นสินค้าที่เป็นมิตรกับผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม เช่น ปากกาเคมีตราม้า , ปากกาไวท์บอร์ดและปากกาเขียนซีดี ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าที่มียอดขายอันดับหนึ่ง มีคุณสมบัติเด่นที่น้ำหมึกปลอดสารพิษ ทำให้ถูกใจคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ซึ่งบริษัทเชื่อมั่นว่าตลาดเครื่องเขียนของไทยยังเติบโตในตลาดโลกได้อีกมาก และผู้ประกอบการไทยมีศักยภาพสูง ไทยจึงมีโอกาสก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางด้านเครื่องเขียนของภูมิภาคเอเชียได้ในอนาคตอันใกล้นี้"