กรุงเทพฯ--10 เม.ย.--ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
ฝ่ายส่งเสริมธุรกิจและกำกับดูแลโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 34.40-34.80 บาทต่อดอลลาร์ เทียบกับปิดที่ระดับ 34.60 บาทต่อดอลลาร์ในสัปดาห์ก่อน โดยตลาดระมัดระวังมากขึ้นต่อท่าทีของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เกี่ยวกับมาตรการดูแลกระแสเงินทุนเคลื่อนย้าย ทั้งนี้ ในสัปดาห์ที่แล้ว นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตรไทย มูลค่า 2.2 พันล้านบาท และ 2.0 หมื่นล้านบาท ตามลำดับ
ดอลลาร์ผันผวนเทียบกับเยน แต่แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ หลังรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ล่าสุด บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นอาจอยู่ในระดับที่สูงเกินไป และส่งสัญญาณการลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจตามการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ภายในสิ้นปี ขณะที่ข่าวสหรัฐยิงขีปนาวุธใส่ฐานทัพอากาศซีเรียส่งผลต่อตลาดการเงินเพียงช่วงสั้นๆ
ฝ่ายส่งเสริมธุรกิจและกำกับดูแลโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า ปริมาณธุรกรรมน่าจะเบาบางลงในสัปดาห์นี้ เนื่องจากเข้าสู่เทศกาลสงกรานต์และอีสเตอร์ โดยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมีนาคมของสหรัฐ ออกมาแย่กว่าที่คาดการณ์ ขณะที่เฟดส่งสัญญาณการเริ่มปรับลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจตามการผ่อนคลายเชิงปริมาณ ที่เคยใช้ในช่วงวิกฤตการเงิน ทำให้นักลงทุนส่วนหนึ่งมองว่าความจำเป็นในการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของเฟดมีน้อยลง ขณะที่อีกส่วนหนึ่งมองว่าเฟดอาจเร่งขึ้นดอกเบี้ยในช่วงแรก ก่อนดำเนินนโนบายผ่านช่องทางการควบคุมปริมาณเงินต่อไป
สำหรับปัจจัยในประเทศ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประเมินว่าเงินทุนเคลื่อนย้ายและอัตราแลกเปลี่ยนมีแนวโน้มผันผวนสูง โดยนโยบายการเงินยังควรอยู่ในระดับผ่อนปรน ท่ามกลางความเสี่ยงจากนโยบายการค้าของสหรัฐ ที่อาจกระทบภาคส่งออกของไทย ทั้งนี้ กนง. ระบุว่า พร้อมใช้เครื่องมือที่มีอยู่อย่างเหมาะสม สอดคล้องกับมุมมองของกลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ที่ว่า ทางการจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.5% ตลอดปีนี้ ควบคู่กับการออกมาตรการรักษาเสถียรภาพค่าเงินบาทตามความจำเป็น