กรุงเทพฯ--10 เม.ย.--กรมประมง
สงกรานต์ – งานบุญปีนี้กรมประมงวอนผู้ใจบุญที่นิยมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำลงแหล่งน้ำเพื่อความเป็นสิริมงคลของชีวิตในวันเริ่มต้นปีใหม่ของไทย ให้เลือกปล่อยสัตว์น้ำสายพันธุ์ไทย เช่น ปลาหมอ ปลาสวายปลาตะเพียนทอง ปลากระแห เพื่อสร้างความสมดุลให้กับระบบนิเวศ การปล่อยปลาถือเป็นอีกกิจกรรมบุญที่อยู่กับคนไทยมาอย่างช้านาน ประชาชนชาวไทยนิยมปล่อยสัตว์น้ำเพื่อเสริมดวงชะตาและสะเดาะเคราะห์ แต่ก็มีปลาบางชนิดที่ประชาชนนำมาปล่อยด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ว่าเป็นสัตว์น้ำสายพันธุ์ต่างถิ่น อาทิ ปลาซัคเกอร์หรือปลาเทศบาล เต่าญี่ปุ่น ปลาดุกยักษ์ (สายพันธุ์ต่างประเทศ) ดังนั้นในช่วงเทศกาลงานบุญใหญ่นี้จึงถือเป็นฤกษ์ดีในการเริ่มต้นการมีส่วนร่วมอนุรักษ์สายพันธุ์สัตว์น้ำท้องถิ่นของไทยไม่ให้สูญหายไปจากประเทศ และแน่นอนว่าการปล่อยสัตว์น้ำนอกจากจะได้บุญกับตัวคนปล่อยแล้ว สัตว์น้ำก็จะสามารถมีชีวิตเจริญเติบโตเป็นตัวเต็มวัยต่อไปได้
นายอดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง ขอความกรุณาอย่าปล่อยสัตว์น้ำต่างถิ่นหากลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ เนื่องจากสัตว์น้ำเหล่านี้จะไปรุกรานสัตว์น้ำสายพันธุ์ไทยแท้ จนทำให้ปลาพื้นเมืองของไทย อาทิ ปลาช่อน ปลาดุกด้าน ปลาตะเพียน ปลายี่สก ฯลฯ บางชนิดตกอยู่ในเกณฑ์เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ ซึ่งถือเป็นการคุกคามต่อความหลากหลายทางชีวภาพและก่อให้เกิดความสูญเสียทางสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสุขอนามัยอีกด้วย กรมประมงในฐานะหน่วยงานที่มีหน้าที่หลักในการดูแลทรัพยากรสัตว์น้ำของประเทศ ได้ดำเนินการเร่งแก้ไขมาโดยตลอดทั้งในเรื่องการออกระเบียบข้อกำหนดในการจัดการสัตว์น้ำชนิดพันธุ์ต่างถิ่น การสร้างการรับรู้การเข้าใจถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อระบบนิเวศของแหล่งน้ำ ส่งผลทำให้ประชาชนส่วนใหญ่หันมาสนใจรายละเอียดการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำกันมากขึ้น ทั้งในเรื่องชนิดพันธุ์สัตว์น้ำและสถานที่การปล่อย
แต่เนื่องจากระยะหลังมีโฆษณาชวนเชื่อที่ว่าปลาซัคเกอร์เป็นปลาราหู หากนำไปปล่อยผู้ปล่อยจะได้โชคลาภรวมถึงจะเป็นการปล่อยสิ่งที่ไม่ดีออกจากชีวิต ความเชื่อดังกล่าวส่งผลให้ผู้ใจบุญทั้งหลายต่างยอมควักกระเป๋าไปหาซื้อปลาดังกล่าวไปปล่อยในแหล่งน้ำสาธารณะเพื่อหวังที่จะสะเดาะเคราะห์สร้างบุญกันมากขึ้น ซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิด เพราะปลาซัคเกอร์ไม่ใช่ปลาราหู ปลาราหู จริงๆแล้วหมายถึง ปลากระเบน ดังนั้นคนที่ซื้อปลาซัคเกอร์ไปปล่อยในแม่น้ำแทนที่จะได้บุญกลับเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมสร้างปัญหาให้กับระบบนิเวศมากกว่า
การปล่อยสัตว์น้ำเพื่อความเป็นสิริมงคลของชีวิต เป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่คนไทยเรานิยมทำเพื่อสะเดาะเคราะห์ หรือสั่งสมบุญกุศลไว้ให้ตัวเองแล้วนั้น การทำบุญด้วยการปล่อยสัตว์น้ำโดยทั่วไปจะต้องคำนึงถึงความสมบูรณ์แข็งแรงของปลาและสิ่งแวดล้อมของสถานที่ที่จะนำไปปล่อยด้วย เนื่องจากสัตว์น้ำแต่ละชนิดมีนิสัยความเป็นอยู่ที่แตกต่างกัน ดังนั้นเพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสรอดให้กับสัตว์น้ำที่ท่านได้เลือกนำไปปล่อยลงแหล่งน้ำธรรมชาติ กรมประมงจึงขอแนะนำวิธีในการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำที่ถูกต้อง ดังนี้
1.ปลาช่อน/ปลาดุกอุย/ปลาดุกด้าน ควรปล่อยให้ลำคลอง หนอง บึง ที่มีน้ำไหลไม่แรงมาก มีกอหญ้าอยู่ริมตลิ่งบ้าง และน้ำควรเป็นน้ำสะอาด
2.ปลาไหล ควรปล่อยลงในแม่น้ำ ห้วยหนอง คลองบึง ท้องนา หรือร่องสวน บริเวณที่มีดินเฉอะแฉะ และกระแสน้ำไหลไม่แรงมาก เนื่องจากปลาไหลชอบขุดรูเพื่ออยู่อาศัย
3.กบ สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ ชอบอยู่ในที่ชื้นแฉะ ดังนั้น ไม่ควรปล่อยลงแม่น้ำ ควรหาที่นา หรือคลองที่เป็นธรรมชาติ มีกอหญ้าหรือไม้น้ำจะดีกว่า เพราะกบก็จะใช้เป็นที่อยู่อาศัย และยังเป็นที่อยู่ของแมลง ซึ่งเป็นอาหารของกบอีกด้วย
4.ปลาสวาย/ปลาบึก/ปลาตะเพียน ควรปล่อยลงในแม่น้ำ คลองที่มีระดับน้ำลึกและกระแสน้ำไหลแรงเพราะปลาเหล่านี้เมื่อโตเต็มที่ เป็นปลาที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ ดังนั้นจึงต้องใช้พื้นที่กว้างในการดำรงชีวิต
5.คุณภาพของน้ำที่เอื้อการอาศัยของสัตว์น้ำ โดยก่อนปล่อยสัตว์น้ำ ควรสังเกตสีน้ำในแหล่งที่ปล่อยต้องมีสีไม่ดำ หรือเขียวเข้มจัด เพราะเป็นน้ำที่มีออกซิเจนต่ำ หากปล่อยลงไปจะทำให้สัตว์น้ำอยู่ไม่ได้
6. คุณภาพของสัตว์น้ำที่ปล่อย ควรเป็นสัตว์น้ำที่มีสุขภาพดี สมบูรณ์ ไม่เป็นโรค ไม่มีแผลตามลำตัวหากปล่อยสัตว์น้ำที่เป็นโรคลงไปในแหล่งน้ำ จะเป็นการแพร่ขยายเชื้อโรคสู่ธรรมชาติ
7.เวลาปล่อยสัตว์น้ำควรเป็นเวลาเช้าหรือเย็นที่อากาศไม่ร้อนจัด เพราะหากปล่อยสัตว์น้ำในที่มีแสงแดดจัด อาจทำให้สัตว์น้ำปรับตัวไม่ทันและอาจตายได้
การปล่อยปลาหรือสัตว์น้ำเพื่อสร้างบุญกุศลและเสริมดวงชะตาตามความเชื่อนั้น ไม่จำเป็นว่าเราจะต้องปล่อยที่วัดเพียงอย่างเดียว เพราะถ้าเราปล่อยสัตว์น้ำบางชนิดที่ไม่สามารถอาศัยอยู่บริเวณหน้าวัด สุดท้ายสัตว์น้ำเหล่านั้นก็จะไม่สามารถมีชีวิตอยู่รอดได้ เราควรที่จะเลือกสถานที่ที่เมื่อเราปล่อยสัตว์น้ำเหล่านั้นไปแล้วจะสามารถดำรงชีวิตอยู่บริเวณสถานที่นั้นๆ ได้ ตามที่ได้แนะนำไว้ข้างต้น
อธิบดีกรมประมงกล่าวในตอนท้ายว่า สงกรานต์ปีนี้กรมประมงขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายโปรดดลบันดาลให้ทุกท่านประสบแต่ความสุขความเจริญ คิดสิ่งใดก็ขอให้สมความปรารถนาทุกประการ และขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนให้เลิกปล่อยสัตว์น้ำต่างถิ่นลงแหล่งน้ำธรรมชาติและให้หันมาปล่อยสัตว์น้ำพันธุ์ไทยแทน ซึ่งนอกจากจะไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมแล้วยังได้บุญแน่นอน เพราะการปล่อยสัตว์น้ำพันธุ์ไทยถือเป็นการช่วยเพิ่มความอุดมสมบูรณ์และความหลากหลายทางชีวภาพให้กับประเทศอีกทางหนึ่งด้วย