กรุงเทพฯ--11 เม.ย.--Pam++
เอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ป บริษัทด้านบริการท่องเที่ยวออนไลน์ชั้นนำของโลกเปิดตัว "Expedia Innovation Lab" ห้องปฏิบัติการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์แห่งแรกในเอเชีย โดยการนำนวัตกรรมทางด้านเทคโนโลยีแห่งโลกอนาคตมาใช้ในการสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้บริโภค ผ่านทางประสาทสัมผัสทั้ง 5 ในการจับภาพการค้นหาข้อมูลการเดินทางและการจองผ่านทางเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นของเอ็กซ์พีเดีย
นายจอนตี้ นีล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเอ็กซ์พีเดียเอเชียกล่าวว่า "ทวีปเอเชียถือเป็นตลาดใหม่ในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยีและแอพพลิเคชั่นบนมือถือ จึงนับว่าเป็นทำเลที่ดีเยี่ยมที่เราจะใช้เป็นที่ทำการทดสอบเพื่อนำวิธีการใหม่ๆ มาใช้ในการแก้ไขความท้าทายทางธุรกิจ เรามีความมุ่งมั่นในการขยายการเติบโตของตลาดในเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มกลุ่มพันธมิตรทางธุรกิจ นักเดินทางและทีมงานของเอ็กซ์พีเดียเองรวมถึงข้อมูลเชิงลึกที่จะนำมาใช้ในการขับเคลื่อนธุรกิจส่วนใหญ่มาจากในเอเชีย ดังนั้น เราจึงเลือกลงทุนด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ที่นี่ และการเปิดตัว Expedia Innovation Lab ที่สิงคโปร์ของเราวันนี้ถือเป็นเครื่องยืนยันความแข็งแกร่งของเราในฐานะผู้นำทั้งในระบบนิเวศน์ด้านการท่องเที่ยวและเทคโนโลยีในภูมิภาค ซึ่งเราภาคภูมิใจที่มีบทบาทสำคัญอย่างมากในการส่งเสริมธุรกิจให้กับกลุ่มพันธมิตรของเรา"
ห้องปฏิบัติการInnovation Lab นี้ตั้งอยู่ที่สำนักงานใหญ่ของเอ็กซ์พีเดียในภูมิภาคเอเชียที่ประเทศสิงคโปร์โดยภายในห้องปฏิบัติการถูกออกแบบโดยนำประสิทธิภาพทางเทคนิคขั้นพื้นฐาน2 ข้อหลักๆ มาผสมผสานกันโดยการใช้คำถามแบบเรียลไทม์กับกลุ่มผู้เข้าชมว่ามีส่วนร่วมและความรู้สึกต่อเว็บไซต์ของเอ็กซ์พีเดียอย่างไรผ่านเทคโนโลยีดังต่อไปนี้:
• เทคโนโลยีElectromyography (EMG): นักวิจัยของเอ็กซ์พีเดีย จะติดตามผลการเปลี่ยนแปลงจากการอ่าน ข้อมูลส่วนตัวทางอิเล็กทรอนิกส์ (EMG)ของนักเดินทางเพื่อทำความเข้าใจกับผลกระทบในเวลาจริงที่มีต่อประสบการณ์ในเรื่องดังกล่าวขณะที่พวกเขากำลังสำรวจเว็บไซต์หรือทำตามขั้นตอนการจองผ่านแอพพลิเคชั่น
• เทคโนโลยีการติดตามการเคลื่อนไหวของดวงตา (Eye tracking technology): คือการติดตามการเคลื่อนไหวของดวงตาผ่านทางเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่น โดยนักวิจัยผู้เชี่ยวชาญของเอ็กซ์พีเดียที่มีทักษะทางจิตวิทยาด้านองค์ความรู้และการวิเคราะห์ข้อมูล จะสามารถอ่านข้อมูลได้อย่างแม่นยำผ่านเทคโนโลยีนี้ ว่าผู้ใช้บริการกำลังมองหาสิ่งใดบ้าง รวมถึงรับรู้อารมณ์ที่ตอบสนองต่อสิ่งที่พวกเขากำลังได้รับและมองเห็น ซึ่งการสำรวจข้อมูลจะเป็นตัวกระตุ้นให้เขาทำการค้นหาข้อมูลการเดินทางหรือการตัดสินใจในการจองห้องพัก ว่ามีความรู้สึกพึงพอใจหรือว่ารู้สึกยุ่งยากกับข้อมูลที่ได้รับ
ถึงแม้ว่าผู้ร่วมสำรวจแต่ละคนจะมีประสบการณ์ในการจองห้องพักสำหรับเดินทางที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่ข้อมูลที่ได้รวบรวมได้เหล่านี้ จะถูกเก็บไว้เพื่อเป็นแนวคิดในการพัฒนานวัตกรรมของเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นของเราในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนักเดินทางในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และด้วยวิธีการนี้เองที่ทำให้เอ็กซ์พีเดียสร้างความเปลี่ยนแปลงซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับนักเดินทาง และส่งผลดีต่อทั้งลูกค้าของเราและกลุ่มพันธมิตรด้วยกัน
จากข้อมูลนี้ เอ็กซ์พีเดียจะใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์เพื่อทำการ "ทดสอบและเรียนรู้" เพื่อนำไปปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่น รุ่นทดลอง"วิธีการทางวิทยาศาสตร์" เป็นหัวใจสำคัญของแนวทางการทดสอบและเรียนรู้ของเอ็กซ์พีเดีย โดยได้ทำการทดสอบมาแล้วถึง 1,450 รายการ (อ้างอิงจากข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผู้เดินทาง) และนำข้อมูลที่ได้จำนวน1,375 รายการ ในปี 2558 มาใช้ในการดำเนินการปฏิบัติในปี พ.ศ. 2559
"ที่เอ็กซ์พีเดีย เราให้นักเดินทางเป็นศูนย์กลางในการทำการวิจัยและพยายามค้นคว้าหาคำตอบ ข้อมูลแต่ละชิ้นที่เราได้มาคือข้อมูลที่เป็นจริงจากบุคคลจริงที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเดินทาง ห้องปฏิบัติการExpedia Innovation Lab จึงช่วยให้เราสามารถทำความเข้าใจได้ดีขึ้นว่าเพราะเหตุใดนักเดินทางจึงตัดสินใจเช่นนั้น" นายอาเธอร์ แชพพิน รองประธานอาวุโสฝ่ายผลิตภัณฑ์และการออกแบบ (Arthur Chapin, Senior Vice President, Product and Design) ของเอ็กซ์พีเดียกรุ๊ป กล่าว
"การขยายขีดความสามารถในการวิจัยของเอ็กซ์พีเดียไปยังประเทศอื่นๆ ในเอเชียนั้นขึ้นอยู่กับการวิจัยและการเข้าถึงข้อมูลที่มีอยู่ในปัจจุบัน การพัฒนาสู่นวัตกรรมใหม่ของเรา ช่วยให้เราสามารถสำรวจและรู้ว่าเพราะเหตุใดนักเดินทางจึงตัดสินใจจองการเดินทางระหว่างการสัมภาษณ์ผ่านเทคโนโลยีการติดตามการเคลื่อนไหวของดวงตาและการตอบสนองทางอารมณ์(Eye tracking technology)"
แนวโน้มภาพการท่องเที่ยวในเอเชียแปซิฟิก(The Asia Pacific Travel Landscape)
ภาคการท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและคาดว่าจะมีรายได้ถึง 392 ล้านเหรียญสหรัฐในปีนี้(*ข้อมูลจากPhocuswright report) โดยการตลาดท่องเที่ยวออนไลน์คาดการณ์ว่าจะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นมากกว่า 1 ใน 3 ของการใช้จ่ายเพื่อการเดินทางในภูมิภาคนี้ ซึ่งการเติบโตของการเดินทางแบบออนไลน์เช่นนี้หมายความว่า ปัจจุบันนักเดินทางต้องเร่งตัดสินใจท่ามกลางข้อมูลและตัวเลือกเยอะแยะมากมายที่รายล้อม ซึ่งในความเป็นจริงจากการศึกษาข้อมูลเมื่อเร็วๆ นี้ พบว่า 81% ของนักเดินทางจะละทิ้งการจองการเดินทางออนไลน์ และจำนวน 13% อ้างถึงขั้นตอนการจองห้องพักที่วุ่นวายหรือการชำระเงินที่ยุ่งยากเป็นเหตุผลในการยกเลิกการจอง
การใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์เพื่อช่วยลดความซับซ้อนของการวางแผนการเดินทาง
ด้วยเทคโนโลยี EMG ที่ใช้เซ็นเซอร์ขนาดเล็กมาวางไว้ที่แก้มและคิ้วของผู้ที่จะทำการทดสอบ เซ็นเซอร์จะทำการบันทึกข้อมูลการเปลี่ยนแปลงที่ค่อยๆ เกิดขึ้นบนกล้ามเนื้อใบหน้าของผู้ใช้ นักวิจัยของเอ็กซ์พีเดียจะติดตามการเปลี่ยนแปลงจากการอ่านผล EMG เพื่อทำความเข้าใจกับผลกระทบในเวลาจริงที่ว่าผู้ที่กำลังใช้เว็บไซต์นั้นได้รับประสบการณ์หรือมีความรู้สึกอย่างไรระหว่างทำตามขั้นตอนการจองห้องพักออนไลน์ ซึ่งเมื่อจับคู่กับเทคโนโลยีการติดตามการเคลื่อนไหวของดวงตา (Eye tracking technology) นักวิจัยก็จะสามารถอ่านข้อมูลได้อย่างแม่นยำผ่านทางการมองและพฤติกรรมของผู้ใช้ที่แสดงออกว่าผลตอบรับเป็นอย่างไร
การทดสอบนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่และการเปลี่ยนแปลงการจองการเดินทาง
ในฐานะผู้นำด้านธุรกิจท่องเที่ยวออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ครบทุกเรื่องการท่องเที่ยวที่มากกว่า200เว็บไซต์ เอ็กซ์-พีเดียกรุ๊ป มุ่งมั่นที่จะทำการทดลองเพื่อนำเทคโนโลยีใหม่ๆ และการศึกษาข้อมูลเชิงลึกของลูกค้าเพื่อนำมาพัฒนานวัตกรรมและโซลูชั่นใหม่สำหรับนักเดินทาง นอกจากนี้เรายังทำความเข้าใจให้มากยิ่งขึ้นเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้บริโภคเมื่อทำการจองการเดินทางผ่านทางออนไลน์และแอพพลิเคชั่นต่างๆ ทีมนักวิจัยและนักออกแบบของเอ็กซ์-พีเดียจะทำการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อนำผลไปทำการทดสอบผลิตภัณฑ์ใหม่หรือทำให้ผลิตภัณฑ์มีประสิทธิภาพต่อการตัดสินใจมากขึ้น
หนึ่งในนวัตกรรมของผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาขึ้นจากห้องปฏิบัติการExpedia Innovation Lab คือ Scratchpadผู้ช่วยส่วนตัวอัจฉริยะที่จะช่วยให้นักเดินทางสามารถบันทึกการค้นหาข้อมูลหรือผลการค้นหาได้โดยแทนการจำหรือการจดบันทึก Scratchpad นี้ยังมีคุณลักษณะพิเศษช่วยในเรื่องการปรับปรุงราคาเที่ยวบินหรือราคาโรงแรมพร้อมกับบันทึกข้อมูลล่าสุดโดยอัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยลดความปัญหาให้นักเดินทางไม่ต้องเริ่มต้นค้นหาข้อมูลใหม่ในแต่ละครั้ง นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาเรื่องแนวโน้มราคาและฟังก์ชั่นการประเมินราคาได้อีกด้วย
ห้องปฏิบัติการExpedia Innovation Labที่สิงคโปร์นี้ นับเป็นแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และเป็นแห่งที่ 3 จากที่มีอยู่ทั่วโลก โดยห้องปฏบัติการแห่งแรกตั้งอยู่ที่สำนักงานใหญ่ของเอ็กซ์พีเดียที่เมืองเบลเลอวิว (Bellevue)และอีกแห่งหนึ่งอยู่ในกรุงลอนดอนซึ่งเพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเร็วๆ นี้