กรุงเทพฯ--11 เม.ย.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานช่วงวันที่ 31 มีนาคม – 11 เมษายน2560 มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากวาตภัยรวม 15 จังหวัด 28 อำเภอ 51 ตำบล 84 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 357 หลัง ผู้เสียชีวิต 1 ราย ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยทหาร จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจความเสียหาย แจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค อุปกรณ์ซ่อมแซมบ้านเรือน และให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ โดยด่วนแล้ว พร้อมประสานให้จังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง เตรียมพร้อมรับมือพายุพายุฤดูร้อนในช่วงวันที่ 11 – 15 เมษายน 2560 โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศเฝ้าระวังสถานการณ์ภัย รวมถึงเตรียมเครื่องมือและวัสดุอุปกรณ์ให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างทันท่วงที
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ในช่วงวันที่ 31 มีนาคม –11เมษายน 2560 มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากวาตภัย รวม 15 จังหวัด 28 อำเภอ 51 ตำบล 84 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 357 หลัง ผู้เสียชีวิต 1 ราย แยกเป็น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 3 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี ขอนแก่น และเลยภาคเหนือ 8 จังหวัด ได้แก่ พะเยา เชียงใหม่ อุตรดิตถ์ เชียงราย แม่ฮ่องสอน กำแพงเพชร ตาก และลำปาง และภาคกลาง4 จังหวัด ได้แก่ เพชรบุรี สระบุรี สมุทรสาคร และนนทบุรี โดยเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2560 เกิดวาตภัยในตำบลแม่หมอก อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง บ้านเรือนได้รับความเสียหาย 7 หลัง ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัดหน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้น โดยแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค กระเบื้องมุงหลังคา และวัสดุอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้านเรือนแก่ผู้ประสบภัยโดยด่วนแล้ว รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่สำรวจ ประเมินและจัดทำบัญชีข้อมูลความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ทั้งการชดเชยความเสียหายของบ้านเรือนเป็นวัสดุก่อสร้าง หรือจ่ายเงินช่วยเหลือตามความเหมาะสม อีกทั้งจ่ายเงินสงเคราะห์ค่าจัดการศพตามระเบียบและหลักเกณฑ์ที่กำหนดแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต ทั้งนี้ จากการติดตามสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ในช่วงวันที่ 12 – 15 เมษายน 2560 ความกดอากาศสูงจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมประเทศไทย ประกอบกับประเทศไทยมีอากาศร้อน ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง เกิดพายุฤดูร้อน โดยมีลักษณะอากาศของพายุฝนฟ้าคะนอง ฟ้าผ่า ลมกระโชกแรก และลูกเห็บตกบางแห่ง ขณะที่ภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองในบางพื้นที่ ปภ.จึงได้ประสานจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัย ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศและเฝ้าระวังสถานการณ์ภัย พร้อมจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัย ตลอดจนแจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังอันตรายจากพายุลมแรง และฟ้าผ่า อยู่ให้ห่างจากต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณาและสิ่งก่อสร้างที่ไม่แข็งแรง ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากพายุฤดูร้อนและภาวะฝนตกหนักสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป