กรุงเทพฯ--11 เม.ย.--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เผย ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 ยังคงแข็งแกร่งแม้ได้รับผลกระทบจากการซ่อมบำรุงประจำปีของโรงกลั่นน้ำมันที่ลดการผลิตลงกว่าร้อยละ 24.32 โดยที่ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนกุมภาพันธ์ลดลงร้อยละ 1.5 เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ทว่าอุตสาหกรรมโดยรวมดีขึ้นส่งผลให้การส่งออกขยายตัวที่ร้อยละ 2.2 และดัชนีแรงงานอุตสาหกรรมเพิ่มขี้นร้อยละ 1.1
นายวีรศักดิ์ ศุภประเสริฐ รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ได้กล่าวว่า แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากการลดการผลิตจากโรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียมที่ซ่อมบำรุงประจำปีจนต้องลดกำลังการผลิตจากเดือนมกราคมถึงร้อยละ 24.32 แต่ทว่าดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 ยังคงแสดงความแข็งแกร่งขยับลดลงร้อยละ 1.5 เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันในปีก่อน โดยเมื่อปรับฤดูกาลแล้วจะขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.8 เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันในปีก่อน ดัชนีแรงงานอุตสาหกรรมเพิ่มขี้นร้อยละ 1.1 รวมทั้งภาพรวมอุตสาหกรรมที่ดีขึ้นมากจนทำให้การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม (ไม่รวมทองคำแท่ง) ขยายตัวที่ร้อยละ 2.2 แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและสัญญาณฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย โดยอุตสาหกรรมสำคัญที่ส่งผลบวก ได้แก่ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก เวชภัณฑ์ยา อาหารทะเลกระป๋องและแช่แข็ง และเนื้อไก่แช่แข็ง
อุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลให้ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) มีการขยายตัว ได้แก่
ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.13 จากช่วงเดียวกันในปีก่อน จาก Other IC, Monolithic IC และ Transistors ที่เป็นไปตามแนวโน้มคำสั่งซื้อเซมิคอนดักเตอร์ของตลาดโลกที่เติบโตเพิ่มขึ้น
เหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.76 จากช่วงเดียวกันในปีก่อน เป็นผลจากการคลี่คลายปัญหาการดัมพ์ตลาดจากจีนที่ลดลงในเหล็กทรงยาว รวมถึงคำสั่งซื้อของภาครัฐและการซ่อมแซมสาธารณูปโภคและบ้านเรือนที่เสียหายจากภาคใต้ ในขณะที่เหล็กทรงแบนเองได้เร่งการผลิตจากการหยุดชั่วคราวในเดือนก่อน โดยได้รับคำสั่งซื้ออย่างต่อเนื่อง
เวชภัณฑ์ยา ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 31.84 จากช่วงเดียวกันในปีก่อน เนื่องจากในปีก่อนผู้ผลิตรายใหญ่ได้หยุดปรับปรุงระบบการผลิตใหม่ในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2559 และการย้ายโรงงานในช่วงปลายปีก่อน รวมทั้งในปีนี้มีการเปิดตลาดยาเม็ดได้ใหม่ในประเทศฮ่องกง เกาหลี และญี่ปุ่น ทำให้การผลิตมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น
อาหารทะเลกระป๋องและแช่แข็ง ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.38 จากช่วงเดียวกันในปีก่อน โดยได้รับอานิสงค์จากปลาแช่แข็ง และปลาหมึกแช่แข็ง เนื่องจากวัตถุดิบที่มีมากขึ้นซึ่งสอดคล้องกับคำสั่งซื้อที่สูงขึ้น
เนื้อไก่แช่แข็ง ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.99 จากช่วงเดียวกันในปีก่อน โดยเพิ่มยอดผลิตเพื่อรองรับคำสั่งซื้อที่เข้ามามากขึ้นทำให้ผู้ผลิตต้องปรับเพิ่มชั่วโมงการทำงานตั้งแต่ช่วงกลางปี 2559 เป็นต้นมา
อุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลลบต่อดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ได้แก่
รถยนต์ ปรับตัวลดลงร้อยละ 9.34 จากช่วงเดียวกันในปีก่อน โดยมีสาเหตุจากการส่งออกรถยนต์ลดลง 10.82 จากประเทศแถบตะวันออกกลางที่เป็นตลาดส่งออกหลัก แต่ทว่าตลาดในประเทศ พบปริมาณการจำหน่ายเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.36 หลังผู้ซื้อที่ใช้สิทธิ์รถคันแรกเมื่อ 5 ปีก่อนเริ่มปลดล็อกและขายรถยนต์เก่าออกไปได้
ผลิตภัณฑ์ยางอื่น ๆ ปรับตัวลดลงลดลงร้อยละ 9.30 จากช่วงเดียวกันในปีก่อน ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในภาคใต้ช่วงต้นปีที่ส่งผลกระทบต่อปริมาณวัตถุดิบ (น้ำยาง) ออกสู่ตลาดน้อย สวนยางบางแห่งได้เริ่มผลัดใบเร็วกว่าปกติ ราคายางจึงปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับประเทศจีนซึ่งเป็นตลาดหลักในการรับซื้อผลิตภัณฑ์ยางจากไทยยังมีสต็อกยางในปริมาณที่สูง ส่งผลให้มีคำสั่งซื้อลดลง
เครื่องปรับอากาศและชิ้นส่วน ปรับตัวลดลงร้อยละ 12.67 จากช่วงเดียวกันในปีก่อน เนื่องจากผู้ผลิตปรับเปลี่ยนเครื่องปรับอากาศเป็นรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นไปตามแนวโน้มตลาดที่มีการแข่งขันสูง
น้ำมันปิโตรเลียม ปรับตัวลดลงร้อยละ 9.16 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งลดลงร้อยละ 24.32 จากเดือนก่อน โดยมีสาเหตุจากการหยุดซ่อมบำรุงของโรงกลั่นตามแผนธุรกิจประจำปี ส่งผลให้น้ำมันสำเร็จรูปรายการหลักต่าง ๆ มีปริมาณการผลิตลดลง โดยเฉพาะน้ำมันดีเซลหมุนเร็วซึ่งมีสัดส่วนการผลิตและจำหน่ายสูงสุดปรับตัวลดลง