กรุงเทพฯ--12 เม.ย.--แพนดิจิตัล ซิสเต็ม
ในปี 2560 ช่วงต้นเดือนเมษายน ถึงกลางเดือนกรกฎาคม ผลไม้คุณภาพจากจังหวัดจันทบุรี จังหวัดที่มีผลผลิตคุณภาพทั้งทุเรียน มังคุด เงาะ และลองกอง มากที่สุดในประเทศจะออกสู่ท้องตลาด
ซึ่งคาดการณ์ว่าผลผลิตทุเรียนพันธุ์หมอนทอง จะออกสู่ท้องตลาดไม่น้อยกว่า 229,108 ตัน ช่วงกลางเดือนเมษายน ถึงปลายเดือนกรกฎาคม และจะมีมากในวันที่ 11-20 พฤษภาคม 2560 ส่วนพันธุ์ชะนีจะมีประมาณ 35,613 ตัน และออกสู่ตลาดช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และจะออกจนถึงเดือนกรกฎาคม และมากในวันที่ 1-10 พฤษภาคม 2560 และพันธุ์กระดุม จะมีประมาณ 10,568 ตัน และออกตลาดแล้วเมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมาและจะออกสู่ตลาดไปจนถึงเดือนกรกฎาคม โดยจะออกมากในวันที่ 1-10 เมษายน 2560
นอกจากนี้ก็มีทุเรียนพันธุ์อื่น ๆ อีกประมาณ 6,104 ตัน ซึ่งเริ่มกระจายออกมาบ้างแล้วเมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคม 2560 เช่นกัน และจะออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้นไปจนถึงเดือน กรกฎาคม และจะมีมากในวันที่ 1-10 พฤษภาคม 2560
ทางด้านมังคุดผลผลิตจะมีประมาณ 79,962 ตัน และได้เริ่มออกสู่ตลาดแล้ว เมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และจะมีไปจนถึงปลายเดือนกรกฎาคม โดยจะมีมากในช่วงวันที่ 21-30 มิถุนายน 2560 ส่วนเงาะโรงเรียน จะมีประมาณ 121,976 ตัน และจะออกตลาดประมาณช่วงต้นเดือนพฤษภาคมไปจนถึงเดือนสิงหาคม โดยปลายเดือนมิถุนายน ในวันที่ 21-30 มิถุนายน 2560 จะมีผลผลิตออกมามาก
ขณะที่เงาะพันธุ์สีชมพูจะมีไม่น้อยกว่า 2,172 ตัน โดยจะออกสู่ตลาดประมาณเดือนมิถุนายน ถึงกลางเดือนสิงหาคม และในวันที่ 1-10 กรกฎาคม 2560 จะมีปริมาณออกสู่ตลาดมาก สำหรับลองกอง จะมีผลผลิตประมาณ 45,228 ตัน โดยจะออกมาในช่วงปลายเดือนเมษายนไปจนถึงปลายเดือนตุลาคม และในช่วงเดือนกรกฎาคม 2560 ในวันที่ 11-20 จะมีผลผลิตออกสู่ตลาดมาก ซึ่งจากข้อมูลดังกล่าว ทำให้ทราบว่าในช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2560 จะเป็นช่วงที่ผลผลิตมังคุด และเงาะโรงเรียนออกสู่ตลาดพร้อมกันในปริมาณที่สูงที่สุด
นางศศิธร วิเศษ สหกรณ์จังหวัดจันทบุรี เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการรองรับผลผลิตของผลไม้ในพื้นที่ ทางสำนักงานสหกรณ์จังหวัดจันทบุรีจึงได้ประสานกับสหกรณ์ และกลุ่มเกษตรกรให้มีการเตรียมวางแผนเพื่อกระจายผลผลิตออกจากพื้นที่จังหวัดจันทบุรี โดยเร่งด่วนและให้ได้มากที่สุด โดยใช้ขบวนการสหกรณ์เข้ามาบริหารจัดการ
ซึ่งในปีนี้ได้ให้สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร ประสานงานเจรจาทางการค้าเพื่อกระจายผลผลิตคุณภาพสู่ตลาดปลายทาง ประกอบด้วย ตลาดส่งออก ห้างค้าปลีก-ค้าส่ง ตลาดต่างจังหวัด และเครือข่ายสหกรณ์ รวมประมาณ 15,000 ตัน โดยส่วนหนึ่งได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงทางการค้า ระหว่างสหกรณ์ผู้ผลิตกับพันธมิตรทางการค้า เช่น ห้างสยามแม็คโคร (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท ริชฟิลด์เฟรชฟรุ๊ต จำกัด เพื่อสร้างความมั่นใจแก่สมาชิกทางการตลาดเพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกัน ยังได้มีการจัดเตรียมในด้านเงินทุนกองทุนพัฒนาสหกรณ์ จำนวน 72 ล้านบาท สำหรับการรวบรวมและกระจายผลผลิตดังกล่าว รวมทั้งการจัดเตรียมบรรจุภัณฑ์ จำพวกตะกร้าพลาสติก ไว้แล้วจำนวน 15,000 ใบ ตลอดถึงอุปกรณ์ทางการตลาด เช่น รถโฟล์คลิฟต์ พาเลท เครื่องชั่งน้ำหนักที่ได้มาตรฐาน และอาคารรวบ รวมผลผลิตที่เพียงพอต่อการรองรับผลผลิตผลไม้คุณภาพจากเกษตรกรสมาชิกสหกรณ์
และเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม ทางสำนักงานสหกรณ์จังหวัดจันทบุรีจึงจัดให้มีการฝึกอบรมให้ความรู้แก่เกษตรกรและบุคลากรถึงการผลิตผลไม้คุณภาพเพื่อให้ผลผลิตผลไม้ที่ออกมา มีมาตรฐานตรงตามความต้องการของตลาด พร้อมทำการวิเคราะห์ร่วมกันระหว่างบุคลากรจากส่วนงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งด้านการผลิตและการตลาด กับเกษตรกรสมาชิกสหกรณ์ในฐานะผู้ผลิตให้เข้าใจในแนวโน้มและทิศทางการตลาดผลไม้ เพื่อให้มีการร่วมกันวางแผนในการทำการผลิตและรวบรวมผลผลิตเพื่อการจำหน่ายตามแนวทางนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คือ การตลาดนำการผลิต ภายใต้การบริหารจัดการของขบวนการสหกรณ์ มาอย่างต่อเนื่องก่อนหน้านี้
"ซึ่งเป็นที่คาดหวังว่า สถานการณ์ผลผลิตด้านผลไม้ทั้ง 4 ชนิดในปี 2560 นี้ ของจังหวัดจันทบุรี ภายใต้การเตรียมการดังที่กล่าวมาข้างต้นจะทำให้การกระจายผลผลิตของเกษตรกรสามารถออกสู่ตลาดได้อย่างทันท่วงทีตามกาลเวลาของผลผลิต อันจะยังมาซึ่งรายได้ของเกษตรกรสมาชิกสหกรณ์ และการแก้ไขปัญหาผลไม้กระจุกตัวได้เป็นอย่างดี ขณะที่ตลาดและผู้บริโภคก็สามารถได้รับผลผลิตที่มีคุณภาพ ซึ่งก็ย่อมหมายถึงชื่อเสียงในผลผลิตของผลไม้คุณภาพและรายได้ของประเทศชาติโดยภาครวมนั้นเอง" นางศศิธร สหกรณ์จังหวัดจันทบุรี กล่าว.