กรุงเทพฯ--17 เม.ย.--EEC Thailand
เสร็จสิ้นไปแล้วอย่างสมบูรณ์กับโครงการ "การต่อสู้เพื่อหยุดการสูญพันธุ์ FIGHTING EXTINCTION" ซึ่งถือเป็นโครงการแรกของศูนย์สิ่งแวดล้อมศึกษาประเทศไทย ENVIRONMENTAL EDUCATION CENTRE (EEC THAILAND) ที่ก่อตั้งโดยนายอเล็กซานเดอร์ เรนเดลล์ และนางสาวจรินพร จุนเกียรติ เพื่อปลูกฝังให้เด็กและเยาวชนหันมาใส่ใจและให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์สัตว์และธรรมชาติ โดยชนิดพันธุ์เป้าหมายในโครงการฯ ครั้งนี้ ได้แก่ กวางผา (Goral), ค้างคาวคุณกิตติ (Kitti's Hog-Nosed Bat), พะยูน (Dugong), เต่ามะเฟือง (Leatherback Sea Turtle) และ ฉลามวาฬ (Whale Shark)
ภายหลังจากเสร็จสิ้นโครงการที่ดำเนินมาระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา (1 เมษายน พ.ศ. 2559 - 2 เมษายน พ.ศ 2560) EEC Thailand ได้เปิดเวทีให้ตัวแทนเด็กและเยาวชนทั้ง 5 กลุ่มนี้ ได้นำเสนอผลงานวิจัยแก่สาธารณะชน ที่โรงภาพยนตร์ Toyota IMAX Theatre (Emquartier) เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2560 ที่ผ่านมา โดยมีผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จคือผู้อำนวยการกองทุนวิจัยและอนุรักษ์ช้างไทย ผู้ร่วมก่อตั้ง และ Program Director ของ EEC Thailand ร่วมให้กำลังใจ และยังได้รับเกียรติจากซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ มาให้ข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมในปัจจุบันรวมถึงการสูญพันธุ์ของสัตว์และการอนุรักษ์ธรรมชาติ ดังนี้
การมีส่วนร่วมของประชาชนในการอนุรักษ์สัตว์ใกล้สูญพันธุ์ โดย ดร.ไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ
การสูญพันธ์ของสัตว์ป่าไทย โดย นายสัตแพทย์ ดร. บริพัตร ศิริอรุณรัตน์
การอนุรักษ์ โดย คุณ เพชร มโนปวิตร ตัวแทนองค์กร IUCN
เรื่องเต่ามะเฟือง โดย คุณธารา บัวคำศรี ผู้อำนวยการฝ่ายรณรงค์ กรีนพีช เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
การอนุรักษ์ธรรมชาติระดับสากล โดยเอกอัครราชทูตไอร์แลนด์ H.E. Brendan Rogers ประจำประเทศไทย
สำหรับเด็กและเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการฯ จะได้รับการปลูกฝังจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมการรักษาสมดุลของระบบนิเวศในพื้นที่ประเทศไทย โดยสามารถนำองค์ความรู้ที่ได้จากโครงการออกไปสู่สังคมไทยและสังคมโลกผ่านสื่อสาธารณะแขนงต่างๆ และได้รับการพัฒนาความรู้ความเข้าใจของการอยู่ร่วมกันระหว่างมนุษย์ ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน
นอกจากนี้อเล็กซ์ เรนเดลล์ และเต้ย จรินพร ผู้ร่วมก่อตั้ง EEC Thailand และโครงการฯ ดังกล่าวยังฝากเชิญชวนให้ทุกๆ คนหันมาใส่ใจและให้ความสำคัญในเรื่องของการช่วยกันอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอีกด้วย
"โครงการนี้นอกจากเด็กและเยาวชนแล้ว เราอยากให้ทุกคนหันมาร่วมกันใส่ใจอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น อยากให้ลองเข้ามาสนใจศึกษาและเปิดใจฟังว่าทุกวันนี้โลกของเรามันเปลี่ยนไปมาก อย่างสัตว์ต่างๆ มันไม่มีเสียง มันสื่อสารกับเราไม่ได้ เราก็มีเด็กๆ ในโครงการฯ ที่เค้าได้เข้าไปศึกษาอย่างจริงจัง โดยมีอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาและแนะแนวทางตลอดโครงการ รวมถึงได้เข้าไปในพื้นที่จริง ได้ทำงานร่วมกันกับคนในพื้นที่นั้นๆ ว่าเพราะอะไร และเราต้องทำอย่างไรต่อไปเพื่อที่จะพยายามบรรเทาปัญหาตรงนี้
ดังนั้นข้อมูลที่เด็กๆ มานำเสนอในวันนี้จะเป็นกระบอกเสียงอย่างดีที่จะให้ทุกคนเข้าใจว่าสัตว์ต่างๆ ที่กำลังจะสูญพันธุ์ หรือสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไปเกิดขึ้นจากมนุษย์โดยส่วนใหญ่ ก็อยากฝากให้ทุกคนลองเข้ามาศึกษาและร่วมกันรณรงค์เพื่อที่จะอนุรักษ์สัตว์และสิ่งแวดล้อมต่อไป"
สามารถร่วมชมโครงการฯ ดังกล่าว รวมไปถึงโครงการในอนาคต และเยี่ยมชมรายละเอียดขององค์กร ศูนย์สิ่งแวดล้อมศึกษาประเทศไทย ENVIRONMENTAL EDUCATION CENTRE ได้ที่http://eecthailand.com/